15 เม.ย. 2020 เวลา 12:05 • ประวัติศาสตร์
ผู้ที่สร้างเสียงหัวเราะและความสุข
และยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนนับล้าน
เขาผู้นี้คือ “ชาร์ลี แชปลิน” (Charlie Chaplin)
2
เส้นทางชีวิตของชาร์ลี แชปลิน เกิดเมื่อวันที่ 16 เมษายน 1889
เกิดในบ้านหลังเล็กๆ ในลอนดอน ประเทศอังกฤษ
พ่อของเขาเป็นนักร้อง นักแสดง
แม่ของเขาเป็นนักร้องโอเปร่า นักแสดง
โดยที่พ่อของเขาหย่ากับแม่ไปตั้งแต่เขาอายุเพียง3ขวบ
และพ่อของเขาป่วยเป็นโรคพิษสุราเรื้อรังและเสียชีวิต
ตั้งแต่ชาร์ลี อายุได้เพียง 12 ปี
ส่วนแม่ของชาร์ลีมีปัญหาทางจิต
ทำให้ชาร์ลี ไม่ค่อยมีเงินตั้งแต่เด็กๆ ต้องอดมื้อกินมื้อ
ทุกๆเย็นหลายชาร์ลีจะหางานและไปเดินแถวสำนักงานจัดหานักแสดง
จนได้งานแสดงชิ้นแรกในวัย12ปี เป็นเด็กส่งหนังสือพิมพ์
ในเรื่องเชอร์ล็อกโฮม จนได้กลายเป็นที่รู้จักในวงการมากขึ้น
แต่ในขณะเดียวกันแม่ของชาร์ลีเริ่มมีปัญหาเรื่องกล่องเสียง
จนไม่สามารถทำงานอาชีพนักร้องต่อไปได้
จากความเครียดที่ลุมเร้าเข้ามา
ทำให้แม่ของชาร์ลีกำเริบอาการทางจิตหนักขึ้น จนต้องถูกส่งไปรักษา
ทำให้ชาร์ลีต้องใช้ชีวิตอยู่คนเดียว
ชีวิตวัยเด็กของเขาเลยต้องทำทุกอย่างครับ บางวันอดมื้อกินมื้อ
บางวันเป็นเด็กส่งของ บางวันเป็นลูกมือของแม่ครัว
แต่ชีวิตในวัยเด็กของชาร์ลีมีอิทธิพลต่อภาพยนต์หลักของเขาเป็นอย่างมาก
ความโดดเด่นฉายชัดอีกครั้งเมื่อความโดดเด่นฉายชัดอีกครั้ง
เมื่อชาร์ลี แชปลิน เดินทางไปร่วมแสดงในประเทศสหรัฐอเมริกา
เมื่อปี 1913 ในบทตัวตลก เขาสร้างคาแรกเตอร์ให้ตัวเองเป็นที่จดจำ
ออกแบบท่าเดินและการควงไม้เท้าของตัวเองที่ไม่เหมือนใคร
ทำให้เขามีฉายาจากภาพยนต์ว่า “คนจรจัดตัวน้อย” (Little Tramp)
ทำให้เป็นที่จำจดมากขึ้นไปอีก ชาร์ลี แชปลิน สร้างเสียงหัวเราะ
พร้อมกับสร้างรายได้ให้ตัวเองอย่างมหาศาล
ถือเป็นช่วงเวลาของความสำเร็จในอาชีพนักแสดง
พอในปี1915 ได้เซ็นสัญญากับStudio ทำหนังแเห่งหนึ่ง
และได้ทำหนังตลกออกมา 12เรื่อง ซึ่งภาพยนต์เหล่านั้น
มีอิธิพลอย่างมากในสื่อภาพยนต์ในยุคนั้น
ภาพยนต์ของเขาเป็นที่นิยมอย่างมาก
จนทำให้ผู้กำกับต้องเอาภาพยนต์เรื่องเก่ามาลงใหม่
แต่เปลี่ยนชื่อเรื่องกว่าหลายครั้ง
ต่อมาได้ปรับภาพยนต์เหล่านั้นให้มีเสียงในปี1933
หลังจากสิ้นสุดสัญญา
ชาร์ลี ได้เซ็นสัญญากับ First national ทำให้
ชาร์ลีผลิตภาพยนต์ได้สำเร็จ ชาร์ลี ได้สร้างHoliwood Studio ของเขาเอง
ต่อมาเขาได้ผลิต หนังเรื่องcity lights
ซึ่งมีอิธพลต่อสังคมเป็นอย่างมาก
หนังเรื่องนี้พูดถึงความไม่เท่าเทียมของสังคม ชนชั้นกรรมกร เครื่องจักร
ชาร์ลีสร้างภาพยนต์เรื่องนี้เพื่อวิจารณ์สังคมในยุคนั้น
ที่ใช้แรงงานคนเหมือนกับเครื่องจักร ความต่างชั้นของชนชั้น
ความเป็นมนุษย์ชน ต่างๆนาๆ ชาร์ลีทำออกมาได้ดีมากๆ
จนกลายเป็นหนังที่มีอิทธพลมากๆในยุคนั้นและดังมาถึงปัจจุบัน
แต่ที่ดูจะสร้างกระแสรุนแรงมากก็คือภาพยนตร์เรื่อง “The Great Dictator” ที่ไปล้อเลียนฮิตเลอร์ด้วยบุคลิกที่ดูจะคล้ายกัน
อีกเรื่อง “Monsieur Verdoux” ที่แทรกแนวคิดทางการเมืองเข้าไปมาก
เกินไป ทำให้แชปลินถูกมองว่าเป็นลัทธิคอมมิวนิสต์ เกลียดฮิตเลอร์
จนมีคำสั่งจาก FBI ห้ามไม่ให้แชปลินเหยียบเข้าประเทศสหรัฐอเมริกา
อีกต่อไปเพราะเกรงว่าจะมีภัยต่อความมั่นคงของชาติ
เขาจึงหันไปใช้ชีวิตในสวิตเซอร์แลนด์ถึงบั้นปลายชีวิต
ชาร์ลี มีพรสรรค์มากๆ ทั้งด้านการประพันธ์เพลง
สร้างภาพยนต์ การแสดง และเก่งมากๆในด้านภาพยนต์ใบ้
และเป็นอีกคนที่พยายามจะคอยต่อต้านเผด็จการ ความรุนแรง
เรื่องความไม่เท่าเทียมทางสังคม ในยุคนั้น
ผ่านออกมาเป็นการแสดงและภาพยนต์ ซึ่งสื่อออกมาได้ดีมากๆ
ชาร์ลี เป็นอีกบุคคลที่มีชีวิตยากลำบากมาตั้งแต่เด็กๆ
แต่ก็ยังสามารถสร้างรอยยิ้ม สร้างเสียงหัวเราะ ให้ผู้คนนับล้านได้
ถึงเขาจะมีบางช่วงเวลาที่ยากลำบากแต่เขาก็ใช้เสียงหัวเราะ
จนผ่านอุปสรรค์เหล่านั้นมาได้
ขอบคุณรูปภาพจาก:pinterest.com

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา