15 เม.ย. 2020 เวลา 09:45 • ปรัชญา
ปากกัดตีนถีบ สิ้นไร้ไม้ตอก
ยุคนี้เป็นอะไรที่ยากจะอธิบายถึงขีวิตของคนในสังคมไทย เนื่องจากวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ การดำรงชีวิต ล้วนแตกต่างกัน โดยยึดบริบททางสังคมเป็นหลัก การใช้ชีวิตของคนเมืองกรุงกับชาวบ้านในชนบทก็ย่อมมีความแตกต่างกัน มาตรฐานที่ใช้วัดก็ควรอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน จึงจะทำให้เกิดความเสมอภาคกัน
หลายวันมานี้มีเวลาเพียงแค่เปิดอ่านบทความของเพื่อนๆ ด้วยความไม่พร้อมที่จะเขียนบทความ แต่ถ้าหากจะเขียนคงจะเขียนไม่จบสักที บทความนี้จึงใช้เวลาในการเขียนสัก 2-3 วัน แต่ก็ขอบคุณหลายๆ บทความที่จุดประกายให้เขียนเรื่องที่ดีๆ ที่ตอนนี้อยู่ในหัวประมาณ 2-3 เรื่อง ต้องขอบคุณในการแนะนำของคุณเสกและคุณดินแดน ที่ขอให้เขียนบทความต่อจากที่ทั้งสองเขียน
บทความนี้มันเกิดจากกระเเสในสังคมไทย ณ ปัจจุบัน ที่ตอนนี้พ่อแม่พี่น้องหลายรายที่รับผลกระทบจากโควิด 19 โดยการลงทะเบียนเยียวยา จากโครงการ เราไม่ทิ้งกัน หากมองดูก็คงจะเป็นโครงการที่ดี แต่เมื่อผลที่แจ้งออกมากลับไม่ใช่อย่างที่คิดด้วยความถูกต้อง และระบบการคัดกรอง ตรวจสอบที่ไม่ได้ผลถูกต้อง 100%
กรณีที่พี่คนหนึ่งเป็นแท็กซี่อยู่ร้อยเอ็ดตรวจมาแล้วว่าเป็นเกษตร แต่เพราะสมัยก่อนพ่อของแกทำเกษตรและลงทะเบียนผ่าน ธนาคารเกษตรและสหกรณ์ โดยในฐานะหัวหน้าครอบครัว แต่เมื่อย้ายมาขับแท็กซี่แกกับถูกยกให้เป็นเกษตรกรทั้งที่ขับแท็กซี่มาเกือบ 20 กว่าปี หรือกรณีขายของถูกยกเป็นเกษตรกรเหมือนกัน
สำหรับคนที่ได้เงินเยียวยาก็ยินดีด้วย แต่สิ่งที่ตามมาคือ การดูถูกคุณค่าของเงินที่ได้รับมา หรือเอาไปใช้ในส่วนที่ไม่เหมาะสม หรือคนที่มีกินอยู่แล้วแต่เข้าข่ายจึงได้รับ แต่สิ่งที่อยากให้รัฐบาลทำคือ การมอบเงินให้ทุกคนเพราะตอนนี้ได้รับผลกระทบทั้งหมด แต่ถ้าอยากให้เจาะจงคงต้องให้กลุ่มที่ดูแล้วน่าสงสารจริงๆ
หากจะเลือกกลุ่มที่ควรได้คือ กลุ่มที่ไม่มีงาน ไม่มีที่อยู่ กลุ่มที่หาได้รายน้อยๆ แล้วขายของไม่ค่อยได้ เมื่อเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มที่หาเงินเดือนละ หลักแสนอย่างน้อยก็พอหารายได้ทางอื่นได้ แต่กลุ่มที่ไม่รู้แนวทางอื่นมีวิธีเดียวควรได้รับการเยียวยา และอีกกลุ่มคือไม่รู้เทคโนโลยี ไม่มีโทรศัพท์ที่สามารถลงทะเบียนได้ควรให้คนลงมาตรวจสอบมากกว่า
เมื่อมองโดยภาพรวมก็เห็นว่ายังมีหลายคนที่ปากกัดตีนถีบ สิ้นไร้ไม้ตอก เพราะไม่สามารถที่จะทำอะไรที่ดีกว่านี้ คงต้องดิ้นรนต่อไป เพื่อการเอาตัวรอดโดยบางกลุ่มไม่รู้เรื่องการเยียวยาถึงรู้ก็ไม่มีวิธีในการลงทะเบียน ซึ่งทุกคนต้องการเงินเยียวยาอยู่แล้ว หากได้จริงคงไม่มีมาโพสต์ประจาน หรือถ่ายรูปอวดแน่นอน เพราะถ้าได้คงจะนำไปใช้ในสิ่งที่เป็นประโยชน์มากกว่านี้
จากที่ติดตามข่าวสารเรื่องปัญหาการแจ้งผลเยียวยา บางส่วนมีผลกระทบแต่ไม่ได้รับการเยียวยา แต่บางกลุ่มทำเล่นๆ โดยไม่คิดถึงจะได้หรือไม่ได้ ได้ก็ดี ไม่ได้ก็เฉยๆ แต่พอได้มันจึงเป็นการตัดสิทธิ์คนที่เขาเดือดร้อนจริงๆ ผลสุดท้ายก็มีการตั้งคำถามที่ว่ารัฐบาลตรวจสอบยังงัย เอาอะไรวัดผลความถูกต้อง
สิ่งที่อยากให้รัฐบาลทำคือ การให้หน่วยงานหรือบุคคลที่ใกล้ชิดประชาชนมากที่สุดลงไปตรวจสอบเพื่อจะได้ผลที่ดีกว่าลงทะเบียน เพราะอย่างน้อยจะได้รับรู้ความเป็นอยู่ที่แท้จริง ดีกว่าให้ AI ตรวจสอบให้เพราะสุดท้ายก็เกิดคำถาม และดราม่า ตามมาภายหลัง
ดังนั้น การเยียวยาเป็นเรื่องที่ดีแต่จะให้ดีที่สุดควรมีการตรวจสอบที่ได้มตารฐานกว่านี้ ไม่ควรนำข้อมูลเก่ามาประเมินเพราะสุดท้ายแล้วก็เหมือนกับการผลักคนกลุ่มนั้นให้ได้รับการเยียวยาทางอื่น หากจะดีควรเยียวยาทุกคนเหมือนอย่างต่างประเทศ สุดท้ายคำว่าเยียวยาก็เป็นความฝันลมๆ แล้งๆ ก็คงต้องปากกัดตีนถีบ สิ้นไร้ไม้ตอก กันต่อไป จนกว่าจะตายจากโลกนี้ไป
ฝากกด like
ฝากกด share
ด้วยนะครับ
โฆษณา