16 เม.ย. 2020 เวลา 05:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
แค่ได้เป็นห่วงใครสักคนก็สุขภาพดีแล้ว
ทุกคนน่าจะเคยได้ยินวลีจักจี๊ที่ว่า
“ขอแค่ได้รักใครสักคนก็เป็นสุขแล้ว”
หลายคนคงรู้สึกน้ำเน่า แต่ดูเหมือนในน้ำเน่านี้จะมีความสวยงามอยู่ค่ะ
คุณนาโอมิ ไอเซ็นเบิร์กเกอร์ (Naomi Eisenberger) นักจิตวิทยา
จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอเนีย ลอส แองเจิลลิส (UCLA)
ได้ทำการทดลองเรื่องนี้เพื่อให้หมดข้อสงสัย
คู่รักชายหญิง 20 คู่ ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีถูกคัดเลือกสำหรับงานวิจัยนี้
ผู้หญิงจะนอนอยู่ในเครื่องสแกนสมอง fMRI
ส่วนฝ่ายชายนั่งอยู่ข้างๆ พวกเธอติดกับเครื่องสแกน
แล้วทันใดนั้นก็จะมีกระแสไฟฟ้าช็อตที่ฝ่ายชายให้เจ็บ
และฝ่ายหญิงก็จะรับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับแฟนหนุ่มของเธอ
หลังจากนั้นฝ่ายหญิงจะได้รับอนุญาตให้ปลอบฝ่ายชาย
ด้วยการควงแขนหรือจับมือกันได้
ขณะที่การช็อตครั้งต่อไปให้เปลี่ยนไปจับลูกบอลธรรมดาแทน
นักวิทยศาสตร์รู้ว่าเวลาสมองทำงานมากขึ้น จะต้องการอาหารมากขึ้น
แบบที่ทำไมเวลาเราหิวตอนใช้ความคิดเยอะๆ
และเลือดก็ทำหน้าที่นำออกซิเจนและสารอาหารมาให้
จึงเป็นสาเหตุที่คุณไอเซ็นเบิร์กเกอใช้เครื่องสแกนสมอง fMRI
-------------------------เกร็ดความรู้-------------------------
fMRI หรือ Functional Magnetic Resonance Imaging
เป็นการสแกนสมองโดยมองการไหลเวียนของเลือดที่กำลังขนออกซิเจน
โดยสร้างสนามแม่เหล็กเข้มข้นสูงกว่าสนามแม่เหล็กโลกถึง 50,000 เท่า
เพื่อให้อะตอมหันหน้าไปทางเดียวกัน หลักการคล้ายกับเข็มทิศ
ก่อนที่เครื่องจะส่งคลื่นวิทยุไปตีให้หันหน้าไปทางอื่น
ขณะที่อะตอมหันหน้ากลับมาจะปล่อยพลังงานที่เครื่องตรวจจับได้
ทำแบบนี้ซ้ำๆ จะทำให้รู้ว่าเลือดกำลังขนออกซิเจนไปที่ไหน
-----------------------------จบ------------------------------
ปรากฎว่าการที่ฝ่ายหญิงได้แสดงความเป็นห่วงแฟนหนุ่ม
สมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบรางวัล (Reward-related region)
ได้ทำงานมากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณ
Ventral striatum และ Septal area
เพราะเราสังเกตเห็นการไหลเวียนของเลือดไปที่บริเวณนั้นมากขึ้น
-------------------------เกร็ดความรู้-------------------------
Ventral striatum ทำหน้าที่ บอกเราว่าอะไรคือรางวัลที่เราต้องการ
และเมื่อได้รางวัลแล้วเราควรทำยังไงต่อ
และยังส่วนร่วมที่สำคัญในการสร้างอารมณ์
การเรียนรู้และสาเหตุของการพฤติกรรมเสพติดในหลายๆ อย่าง
Septal area ส่วนปริศนาที่อยู่ติดกับสมองส่วนระบบรางวัล
ยังไม่มีใครรู้หน้าที่ของมัน แต่มันทำงานมากขึ้นทุกครั้ง
เมื่อมีเรื่องของรางวัลและความกลัวเข้ามาเกี่ยวข้อง
-----------------------------จบ------------------------------
ซึ่งส่วน Ventral striatum นี้จะทำงาน
เมื่อตอนที่เราได้เงิน มีเพศสัมพันธ์ และการได้กินช็อคโกแลต
และในการวิจัยนี้ยังพบว่าการที่สมองส่วน Septal area ทำงาน
จะไปยับยั้งให้สมองส่วนความกลัวทำงานลดลงด้วย
ซึ่งทำให้ “ความเครียดก็ลดลงด้วยเช่นกัน”
และการลดลงของความเครียดนี้เองก็จะส่งผลต่อสุขภาพดีขึ้นได้
ส่วนการที่ไห้จับลูกบอลกลมๆ ลูกหนึ่งนั้น ให้ผลว่า
การทำงานของสมอง 2 ส่วนนี้ทำงานน้อยกว่าการได้แสดงความห่วงใย
แต่คำถามต่อไปคงเป็น “แล้วถ้าเราทำอะไรให้เขาคนนั้นไม่ได้ล่ะ”
ดูเหมือนถ้าแค่ห่วงอย่างเดียวก็จะช่วยอะไรไม่ได้สิ
จะกลายเป็นเพิ่มความเครียดหรือเปล่า
คุณทริสเท็น อินากาคิ (Tristen Inagaki) นักจิตวิทยา
จากมหาวิทยาลัยพิตต์สเบิร์ก (University of Pittburgh)
ได้ร่วมงานกับคุณไอเซนเบิร์กเกอ เพื่อหาคำตอบของคำถามนี้
ในงานวิจัยครั้งนี้ นักวิจัยจะขออนุญาตติดต่อ
คนที่มีความสำคัญในชีวิตของผู้ร่วมทดลอง
ไม่ว่าจะเป็น "เพื่อน ญาติ คนรัก หรือใครก็ตาม"
ให้เขียนจดหมายถึงผู้ร่วมทดลอง 2 ฉบับ
ฉบับที่ 1 ให้เขียนข้อเท็จจริง เช่น คุณมีผมสีน้ำตาล
ฉบับที่ 2 ให้เขียนความรู้สึกดีๆ เช่น คุณเป็นคนเดียวที่ผมห่วงมากที่สุด
หลังจากนั้นจะให้ผู้ร่วมทดลองอ่านจดหมายขณะที่อยู่ในเครื่อง fMRI
สิ่งที่น่าสนใจนั้นอยู่ตอนที่ผู้ร่วมทดลองอ่านจดหมายฉบับที่ 2 ค่ะ
สิ่งที่เกิดขึ้นในสมองนั้นไม่ต่างจากการได้กินไอศครีมรสที่ชอบที่สุดเลย
เพียงแค่ คำพูดดีๆ นั้นจับต้องไม่ได้
ขณะที่ไอศครีมนั้นเติมเต็มประสาทสัมผัสของเรา
และสิ่งนี้ก็ยังเกิดขึ้นกับผู้เขียนที่เขียนคำดีๆ ด้วยค่ะ
คุณไอเซนเบิร์กเกอยังบอกอีกว่า
การแสดงความห่วงใยและการให้ จะกระตุ้นสมองส่วนนี้ให้ทำงาน
เป็นการบ่งบอกว่า “ความห่วงใยและการให้เป็นพื้นฐานของมนุษย์”
แต่ถ้าเทียบระหว่างการให้และการรับล่ะ
แบบไหนจะมีความสุขมากกว่ากัน
คุณไอเซนเบิร์กเกอก็อธิบายว่า "การได้รับอาจจะไม่ได้มีความสุข"
เมื่อผู้รับมีความคาดหวัง หรือมีความรู้สึกหนี้บุญคุณ
แต่กับการให้นั้นจะเหมือนการมองข้ามเรื่องพวกนี้ไป
เราสามารถเลือกได้ว่าจะให้ใคร ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร
ซึ่งยังทำให้เรารู้สึกดีขึ้นได้อีกเมื่อเราได้ให้กับใครสักคน
หรือสิ่งที่เรารักและมีความหมายกับเรา
คุณอินากาคิบอกว่า
“การแสดงความห่วงใยและการให้ที่มาจากใจ
โดยไม่ได้ถูกบังคับนั้นคือประเด็นสำคัญ"
นี้เป็นสาเหตุที่เลือกคู่หนุ่มสาวที่รักกัน
และบุคคลที่มีความผูกพันธ์ในงานวิจัยนี้
และนี้อาจจะเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมโดยสถิติแล้ว
คู่แต่งงานจะมีอายุยืนยาวกว่าชายหญิงที่เป็นโสด
เมื่อเรารักใครสักคน เราก็อยากจะทำอะไรดีๆ ให้
ถึงแม้ว่าจะเหนื่อยขึ้นอีกนิดหนึ่ง เราก็จะมองว่าเป็นเรื่องเล็ก
เพราะความอบอุ่นที่เกิดขึ้นภายในใจหลังจากได้ทำที่เราไม่รู้ว่ามาจากไหน
แต่ดูเหมือนนักวิจัยจะค้นพบแล้ว
ว่ามันมาจาก “ความเป็นมนุษย์ของเรา” นี้เอง
Reference
Brookshire, B. (2018, July, 30) Scientists Say: Ventral striatum. Retrieved from https://www.sciencenewsforstudents.org/article/scientists-say-ventral-striatum
Devlin, H. (2018, Oct 8). What is Functional Magnetic Resonance Imaging (fMRI)? Retrieved from https://psychcentral.com/lib/what-is-functional-magnetic-resonance-imaging-fmri/
Inagaki, T. K., & Orehek, E. (2017). On the Benefits of Giving Social Support: When, Why, and How Support Providers Gain by Caring for Others. Current Directions in Psychological Science, 26(2), 109-113. doi: 10.1177/0963721416686212
Sheehan T, Chambers R, Russell D. (2004). Regulation of affect by the lateral septum: implications for neuropsychiatry. Brain Research Reviews, 46(1):71-117.
โฆษณา