17 เม.ย. 2020 เวลา 01:00 • การศึกษา
วัน-ละ-คดี ตอน “นางสร้อยฟ้า” เจ้าหญิงผู้อาภัพ เสภาขุนช้างขุนแผน
สวัสดีค่ะ พบกับญาณาราอีกเช่นเคยกับบทความที่จะพาเพื่อน ๆ ไปรู้จักกับวรรณคดีในอีกแง่มุมกับ วัน-ละ-คดี วันนี้เรื่องที่ญาจะพาไปรู้จักคือเรื่อง ขุนช้างขุนแผนค่ะ ตัวละครที่วันนี้ญาอยากมาแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักคือตัวละครที่เป็น “ตัวร้าย” ในเรื่อง แต่ชีวิตของเธอนั้นก็น่าสงสารไม่แพ้ใครนั่นคือ นางสร้อยฟ้า ค่ะ
นางสร้อยฟ้า เป็นธิดาของพระเจ้าเมืองเชียงใหม่ที่มีสิริโฉมงดงาม แต่ถูกส่งไปถวายให้แก่พระพันวษา แต่ด้วยน้ำพระราชหฤทัยที่พระองค์มีต่อจมื่นไวยหรือพลายงาม (ลูกของขุนแผนกับนางวันทอง) ที่เห็นว่าจมื่นไวยมีความดีความชอบในการออกศึกสงครามและยังไม่มีเหย้าเรือน พระองค์จึงถวายให้ ถึงแม้ว่าจมื่นไวยจะกราบทูลแล้วว่าตนรักอยู่กับนางศรีมาลา แต่พระองค์ก็ยังประทานนางสร้อยฟ้าให้
แน่นอนค่ะว่าหญิงงามหรือจะสู้หญิงที่ตนรัก จมื่นไวยนั้นรักนางศรีมาลาเสียยิ่งกว่าแก้วตาดวงใจและนางสร้อยฟ้าก็ต้องตกเป็นเบอร์สองอย่างช่วยไม่ได้ และด้วยความที่นางถูกเลี้ยงดูมาแบบเจ้าหญิงที่เคยถูกดูแลเอาอกเอาใจเป็นเบอร์หนึ่งเสมอ พอต้องมาใช้ชีวิตอย่างนี้นางก็ต้องรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเป็นธรรมดา เพราะจมื่นไวยนั้นรักนางศรีมาลายิ่งกว่าตัวเอง
บรรยากาศภายในเรือนจมื่นไวยนี่ต้องบอกเลยค่ะว่า เพลิงโหมกระหน่ำแน่นอนเพราะผัวหนึ่งเมียสองย่อมเกิดปัญหา ดังช่วงหนึ่งที่ว่า
“ข้างศรีมาลาผัวรักมักยิ้มเย้ย
ข้างสร้อยฟ้าก็เลยทะยานใหญ่
เกรงอยู่แต่ท่านย่าระอาใจ
ใครใครแกไม่ละทั้งลูกเมีย”
จากบทนี้เห็นได้ว่านางศรีมาลาก็ร้ายไม่เบาเลยค่ะมียิ้มเยาะเย้ยนางสร้อยฟ้าที่สามีไม่รัก แต่นางก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเกรงใจคุณย่าของจมื่นไวยที่ท่านเป็นคนดูแลเรือน จุดแตกหักที่ทำให้นางสร้อยฟ้าต้องร้ายคือ การทำขนมเบื้อง ความเจ้าหญิงค่ะ ไม่สันทัดเรื่องงานบ้านงานเรือนอยู่แล้ว แต่ต้องมาทำขนมเบื้อง ซึ่งแน่นอนว่าหญิงสาวธรรมดาอย่างศรีมาลาก็ต้องเก่งกว่า พอผลงานออกมานางสร้อยฟ้าก็ต้องอับอายคนทั้งเรือนเพราะตนทำไม่เป็น แถมถูกคุณย่าด่าเสีย ๆ หาย ๆ อีก นางพยายามเรียกร้องความยุติธรรมให้กับตนเองแต่ก็ถูกลงโทษถึงกับรำพึงว่า
“ โอ้อนิจจาตัวกูเอ๋ย
ไม่คิดเลยเมื่อพ่อพามาถวาย
จะถูกตีถูกด่าประดาตาย
แสนอายแสนสุดอย่างแล้วครั้งนี้
พ่อแม่อยู่ไกลไม่เหลียวเห็น
จะได้ใครผ่อนเข็นให้กูนี่
จะพึ่งผัวดังเอาตัวทุ่มอัคคี
เขาขยี้เหยียบยับดังสับปลา”
ทำให้นางโกรธแค้นมากจึงเป็นเหตุให้นางกระทำความผิดคือ การทำเสน่ห์สามีและคุณย่า และเธอก็เอาคืนอย่างสาสม ทั้งนางศรีมาลาที่ถูกแกล้งให้ล้ม ถ่มน้ำลายใส่พร้อมทั้งเอาเท้าถีบ แถมจมื่นไวยที่ถูกทำเสน่ห์ก็มาถีบนางซ้ำอีก นางศรีมาลาถูกกระทำจากทั้งสามีแลคุณย่าจนต้องหนีกลับมาหาพ่อแม่ของตัวเอง และเป็นเรื่องราวจนขุนแผนต้องมาจัดการด้วยตัวเอง เมื่อนางสร้อยมาลาถูกจับได้ก็ถูกลงโทษโดยการเนรเทศ
เรื่องราวของนางสร้อยฟ้า เจ้าหญิงผู้อาภัพคนนี้สะท้อนให้เห็นอะไรหลายอย่างมากค่ะ หากจะว่านางร้ายก็ใช่ว่าจะร้ายมาตั้งแต่ต้น แต่สิ่งที่นางทำไปนั้นก็เพราะเกิดจากความไม่ยุติธรรมและการขาดความเห็นอกเห็นใจจากครอบครัว นางสร้อยฟ้าเธอเป็นเจ้าหญิงต่างบ้านต่างเมืองและต้องถูกหยามหมิ่นว่าเป็น “อีลาว” ความเก็บกดที่อยู่ในใจก็ต้องหาทางระบายออกมา แต่ชีวิตของสตรีในยุคสมัยที่ชายเป็นใหญ่นั้น คงหาทางระบายออกมาได้ยาก คนเดียวที่เธอพึ่งพาได้ก็มีแต่เพียงขรัวผู้เก่งกล้าทางไสยเวทย์ ทำให้ตัวเธอนั้นหลงผิดทำเรื่องที่ชั่วช้าและผิดศีลธรรม เพื่อทวงความยุติธรรมให้แก่ตนเอง เห็นไหมล่ะคะว่าการที่คน ๆ หนึ่งถูกทำร้ายจิตใจเสมอ ๆ ย่อมทำให้เกิดเรื่องใหญ่โตและเป็นอันตรายต่อทุกคนได้ เรื่องราวของนางสร้อยฟ้า เจ้าหญิงผู้อาภัพนี้ก็ไม่ได้แตกต่างจากสังคมในสมัยนี้ที่เกิดเหตุสะเทือนใจหลายครั้งหลายครา เพราะสาเหตุเกิดจากความไม่ยุติธรรมนั่นเอง ญาหวังว่าเรื่องราวของนางสร้อยมาลา ตัวร้ายของเสภาขุนช้างขุนแผนจะทำให้เพื่อน ๆ หลายคนได้ตระหนักถึงการดูแลเอาใจใส่คนรอบข้างและไม่ทำร้ายจิตใจใครทั้งทางกาย วาจา ใจนะคะ ส่วนใครที่สนใจอยากรู้ว่านางสร้อยฟ้าจะเป็นอย่างไรสามารถเข้าไปอ่านได้ที่เว็บไซต์หอสมุดวชิรญาณ www.vajirayana.org ตอนที่ 37 และตอนที่ 38 ค่ะ สำหรับวันนี้สวัสดีค่ะ
เนื้อหา : ญาณารา
ข้อมูลอ้างอิงตัวบท : www.vajirayana.org
โฆษณา