17 เม.ย. 2020 เวลา 08:57 • บันเทิง
New! เรื่องสั้น : A lover's concerto
นิ้วเล็ก ๆ ของฉันกำลังเคลื่อนไหวและกดคีย์เปียโนอย่างแผ่วเบา สีขาว สีดำ สีขาว และสีดำสลับกันไปมา
สีดำขาวสอดประสานกันเป็นเสียงสวรรค์ เหมือนเพลง Ebony and Ivory ของน้าพอลกับลุงสตีวี่เลย ฉันขอถือวิสาสะนับญาติกับศิลปินทุกคนก็แล้วกัน เพราะฉันรักดนตรีที่พวกเขาสร้างขึ้นมาเสียเหลือเกิน
แต่ใครจะรู้ว่าความรักกับความฝัน บางทีมันก็ไม่พอหรอก วันนี้จึงเป็นวันที่ฉันต้องทำให้เต็มที่ เท่าที่นิ้วเล็ก ๆ ของฉันจะทำได้
ความตั้งใจของเด็กหญิงตัวน้อยเพื่อป๊ากับม๊า
"เอา นี่นะ เล่นตามโน้ตนี่เลย อ่านเป็นแล้วเนอะ ป๊าจะรอฟังนะ" ป๊าโยนแผ่นโน้ตเพลงสองแผ่นมาวางไว้ตรงหน้าอย่างเบามือ พร้อมรอยยิ้มจาง ๆ ที่ดูซ่อนความอ่อนล้าเล็ก ๆ เอาไว้ข้างใน
"เพลงอะไรคะ ป๊า จะเล่นได้ไหมเนี่ย" ฉันบ่นอุบ
"ได้สิโอ๋ ยังไม่ได้ลองเลย บ่นเสียแล้ว อะไรเนี่ย" ป๊าหยิบแก้วกาแฟขึ้นจิบ กาแฟซองสำเร็จรูปราคาเยาว์ถูกฉีกชงน้ำร้อนไว้เมื่อครู่ มันส่งกลิ่นหอมจาง ๆ แต่เด็กอย่างฉันกลับคิดแปลกใจว่า ทำไมผู้ใหญ่ถึงชอบกินอะไรขม ๆ แบบนี้ด้วย น่าตลกจัง
"เริ่มได้แล้ว" ป๊าพูดแทรกความเงียบขึ้นมา
ป๊า ฉันเรียกเขาอย่างนั้น แต่เขาไม่ใช่พ่อที่ให้กำเนิดฉันหรอกนะ เขาเป็นคุณครูสอนเปียโนคนแรกของฉันต่างหาก จำได้ว่าเมื่อปีที่แล้ว แม่พาฉันมาที่นี่ ห้องแถวเล็ก ๆ ที่ปากซอยหน้าทางเข้าหมู่บ้านที่ดูเหมือนอาคารพาณิชย์เก่า ๆ ที่รอเซ้งต่อเสียมากกว่า เพราะมันเก่ามากแล้วจริง ๆ
มีป้ายทำจากฟิวเจอร์บอร์ดสีน้ำเงิน เขียนติดไว้หน้าบ้านว่า
"รับสอนดนตรี เปียโน และไวโอลิน โดย ครูปอ&ครูหนิง"
แม่พาฉันเดินมาจากบ้านเพราะอยู่ไม่ไกลนัก เดินมาก็ใช้เวลาราวสิบนาทีเท่านั้นเอง แม่รู้จักกับครูปอด้วย เพราะเป็นแม่เป็นรุ่นพี่ที่มหาลัย จึงสนิทสนมกันดีพอควร
แม่พาฉันมาทิ้งไว้ที่โรงเรียนดนตรีนี่ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ จนเดี๋ยวนี้ฉันเดินมาเรียนเองเสียด้วยซ้ำ
"พอก่อนโอ๋ ต้องกดตรงนี้แล้วก็เลื่อนมาที่คีย์นี้ นิ้วเราวางลงเบา ๆ ก็พอ ตรงโน้ตห้องต่อจากนี้ต้องขยับมือไว เราไม่ต้องกดแรงมากหรอก เท้าก็อย่าลืมเหยียบคอร์ดด้วย แรก ๆ ก็จะงง ๆ หน่อย ฝึกบ่อยเข้าเดี๋ยวก็ชำนาญนะ" ป๊ายังคงตั้งอกตั้งใจสอนเด็กน้อยคนนี้เสมอ ส่วนครูหนิงกำลังง่วนกับการทำความสะอาดบ้านเหมือนเคย
โรงเรียนดนตรีเล็ก ๆ ของสองคู่รัก มีนักเรียนไม่มากนัก มีฉัน กับพี่ฝนที่มาเรียนไวโอลิน ส่วนพี่ต๊อบกับพี่ตั้ม มาเรียนเปียโนช่วงบ่าย ก็โรงเรียนเล็ก ๆ ที่อยู่ในย่านที่ไม่ใช่ชุมชนใหญ่ จะมีใครรู้จักมากมายอะไรก็คงยาก
ฉันไม่แน่ใจว่าเพราะอะไรทั้งสองคนถึงมาเปิดสอนดนตรีอยู่ที่นี่ รู้อย่างเดียวว่าเวลาป๊าเล่นเปียโนแล้ว เหมือนราวกับป๊ากำลังล่องลอยออกไป จมหายไปกับคลื่นตัวโน้ตมากมาย ตาที่หลับพริ้มแต่นิ้วเรียวยาวนั่นเลื่อนขยับไปราวกับตั้งโปรแกรมไว บทเพลงช่างพริ้วไหวและสวยงามจนฉันถึงกับอ้าปากค้าง
นั่นคือภาพที่สร้างแรงบันดาลใจให้ฉันยังคงมุมานะในการเรียนเปียโนอย่างไม่ย่อท้อ แม้ว่าจะไม่ค่อยก้าวหน้าไปเท่าไหร่ก็ตาม
"ป๊า โอ๋กลับก่อนนะคะ ม๊าสวัสดีค่ะ" ฉันยกมือไหว้ป๊ากับม๊าก่อนเดินตัวปลิวออกมา แล้วเพิ่งนึกขึ้นได้ระหว่างทางว่าดันลืมถุงใส่โน๊ตเพลงเอาไว้ที่ข้างชั้นวางรองเท้า จึงเดินกลับไปเอา
"ปอ แน่ใจแล้วเหรอ" เสียงม๊าพูดปนเสียงสะอื้น
"อืมม เราคงทำแบบนี้ไปอีกได้ไม่นานหรอก หนิงก็เหนื่อยมากแล้ว ผมคิดว่าจะไปรับจ้างเขาเล่นตามงานกับโรงแรม เผื่อได้รายได้เพิ่มบ้าง" ป๊าเอามือเช็ดคราบน้ำตาที่เอ่อออกมา
"แล้วเด็ก ๆ จะทำยังไง" ม๊าวางตะกร้าผ้าลงพร้อมเสียงสั่นเครือ
"คงต้องให้เลิกเรียนไปบางคนนั่นล่ะ"
"หนิงขอโทษ" ม๊าร้องไห้ออกมาอย่างสุดกลั้น
"ไม่หรอก ผมผิดเองที่พาหนิงมาลำบาก" ป๊าก้มลงไปกอดม๊าเอาไว้แน่น
"ถ้ามีเด็ก ๆ มาเรียนกันเยอะกว่านี้ก็คงดีนะ" ป๊าเช็ดน้ำตาออกจากแก้มของม๊า
ฉันที่แอบมองอยู่ข้างประตูเลื่อนมีน้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว ฉันไม่เข้าใจว่าความรู้สึกนี่คืออะไร แต่มันจุกแน่นในท้องเหมือนหายใจไม่ออก
ฉันรีบหยิบถุงของตัวเองแล้ววิ่งกลับบ้าน พร้อมน้ำตาอาบแก้ม
"งานประกวดครั้งนี้ รางวัลที่หนึ่งรางวัลเงินสดสามหมื่นบาทพร้อมถ้วยรางวัล รางวัลที่สอง…" เสียงจากทีวีที่แม่เปิดทิ้งไว้ก่อนไปทำกับข้าวในครัว ลอยเข้าหูฉันที่กำลังง่วนกับเปียโนหลังเล็กที่วางไว้ตรงช่องว่างใต้บันได
ฉันวิ่งออกมาดู หยิบปากกา แล้วรีบจดไว้ด้วยลายมือยุ่ง ๆ
"แม่ พาโอ๋ไปสมัครที่นี่หน่อย" ฉันยื่นกระดาษในมือให้แม่ที่กำลังทอดปลาจนน้ำมันแตกกระจายเต็มพื้นห้องครัว แม่รับกระดาษไปอ่านแบบงง ๆ
นั่นทำให้ฉันมานั่งอยู่ตรงนี้ หน้าเปียโนหลังใหญ่ที่มีสายตาคนนับร้อยกำลังลุ้นอยู่ด้านล่างหน้าเวที
โน้ตเพลงของ A lover's concerto กำลังลอยเข้ามาในหัว ภาพป๊าที่กำลังไล้นิ้วไปตามราวเปียโนตัวเก่าที่โรงเรียน ภาพม๊าที่กำลังสีไวโอลินพร้อมรอยยิ้มอย่างแช่มช้อยราวกับกำลังรื่นรมย์กับสวยดอกไม้ละลานตา
ภาพทั้งสองตอนเล่นเพลง A lover's concerto ด้วยกัน ในห้องเล็ก ๆ ของห้องแถวเก่าทึมเทา แต่ยามที่ทั้งคู่กำลังบรรเลงเพลง โลกกลับสุกสว่างราวกับท้องฟ้าครามมาคลุมครอบทั้งคู่เอาไว้อย่างนั้น
รอบยิ้มและสายตาที่ทั้งคู่ส่งให้กันนั้นฉันยังจำได้ดี รวมถึงเสียงร้องไห้และอ้อมกอดของทั้งคู่ในวันนั้นด้วยเช่นกัน
A lover's concerto ถูกเล่นไปราวกับฉันถูกจับมือเคลื่อนย้ายไปมาเหมือนแซนดี้กับเด็นนี่ เจ้าของเพลงมาจับมือฉันเล่นเองเลยทีเดียว แล้วโน้ตสุดท้ายก็ถูกเล่นจบลง แล้วทุกอย่างก็หยุดนิ่ง พักเดียวเสียงปรบมือก็ดังขึ้นกึกก้องไปทั้งฮอลล์
แสงไฟสาดส่องมาที่ฉัน พิธีกรยื่นไมค์มาให้
"ยินดีกับน้องโอ๋ ด้วยนะครับ เล่นได้ยอดเยี่ยมจริง ๆ ครับ มีอะไรอยากบอกกับทุกคนไหมครับ" เขากล่าวพร้อมรอยยิ้ม
"หนูชื่อเด็กหญิง xxxx เรียนเปียโนมาจากโรงเรียนบ้านครูปอครูหนิง ซอยลาดพร้าว 71 ค่ะ อยากให้ทุกคนไปเรียนด้วยกันนะคะ" ฉันกล่าวเสียงดังแบบลืมตัว ทุกคนต่างพากันปรบมือหัวเราะชอบใจกันใหญ่
ฉันได้แต่ยิ้มพร้อมน้ำตาซึม พร้อมภาพป๊ากับม๊าที่กอดกันยิ้มอย่างมีความสุข
"หนูทำได้แล้วค่ะ ป๊าม๊า หนูทำดีที่สุดแล้วค่ะ" ฉันยิ้มและโบกมือให้กล้องที่กำลังถ่ายทอดอยู่ตรงหน้า
เสียงเพลง A lover's concerto ดังขึ้นในหัวใจของฉันอีกครั้ง ครางนี้ฉันรู้แล้วว่าโน้ตแต่ละโน้ตในเพลงนี้ มันสื่อความหมายถึงอะไร
ความอบอุ่นนี้มันยากเกินอธิบายเสียเหลือเกิน
เรื่องสั้นนี้ขอมอบแด่ มิตรภาพบนโลกของเสียงเพลงของผมเอง ขอบคุณสำหรับไมตรีที่มีให้กันจ้า

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา