ถึงเป็นเจ้าหนี้ก็ใช่ว่าจะยึดทรัพย์ของลูกหนี้ได้ทั้งหมด และเงินเยียวยา 5,000 บาทก็เป็นหนึ่งในนั้น
ถึงแม้ว่าเจ้าหนี้ซึ่งศาลได้พิพากษาให้ชนะคดี จะมีสิทธิยึดทรัพย์บังคับคดีเอาจากทรัพย์สินของลูกหนี้ เพื่อชำระหนี้ได้
แต่ก็ใช่ว่าเจ้าหนี้ตามคำพิพากษานั้นจะสามารถยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ได้ทั้งหมด
Cr. pexels.com
เพราะกฎหมายยังคุ้มครองสิทธิในการดำรงชีวิตของลูกหนี้ไม่ให้ถึงกับเดือดร้อนจนเกินสมควร
อย่างเช่น ทรัพย์สินที่เป็นเครื่องใช้ส่วนตัว เครื่องใช้ในครัวเรือน เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม หรือเครื่องมือสำหรับประกอบอาชีพ...
เจ้าหนี้จะสามารถยึดได้ไม่เกินจำนวนที่กฎหมายกำหนดให้
หรืออย่าง ค่าจ้าง เงินเดือนหรือเบี้ยเลี้ยงชีพตามกฎหมายนั้น เจ้าหนี้ก็ไม่สามารถยึดหรืออายัดได้ทั้งหมด แต่จะต้องเหลือไว้ให้ลูกหนี้ใช้ดำรงชีพตามจำนวนที่กฎหมายกำหนดเช่นกัน
สำหรับเงินช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ Covid19 จำนวน 5,000 บาท ที่รัฐบาลได้ให้แก่ประชาชนเป็นเวลา 3 เดือนตามมาตรการเยียวยานั้น
เรื่องนี้ อธิบดีกรมบังคับคดีได้ชี้แจงว่าเงินจำนวนดังกล่าว ถือว่าเป็นเงินที่รัฐบาลแจกให้เพื่อช่วยเหลือและแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ ถือว่าเป็นเบี้ยยังชีพตามที่กฎหมายกำหนด
จึงเป็นเงินที่ไม่อยู่ในความรับผิดของการบังคับคดี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 302 (1)
ซึ่งเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจะไม่สามารถยึดทรัพย์เอากับเงินดังกล่าวได้
เรื่องนี้น่าจะสร้างความสบายใจให้กับผู้ได้รับผลกระทบพอสมควร เพราะเงินช่วยเหลือสำหรับดำรงชีพจะต้องถูกใช้ไปตามวัตถุประสงค์ที่แท้จริง ไม่ควรให้ถูกยึดไปเพื่อใช้หนี้อีก
ยังมีช่องทางอื่น ๆ ให้ติดตามกัน 😉
- สำหรับเอาไว้อ่านบทความดีๆ
- สำหรับเอาไว้ดูรูปสวย ๆ กับอินโฟกราฟิก
- สำหรับสายย่อ เอาไว้รับข่าวหรือข้อกฎหมายแบบกระชับ
- 52
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
