21 เม.ย. 2020 เวลา 11:34 • ประวัติศาสตร์
" Babylift Operation " ปฏิบัติการขนย้ายเด็กกว่า 3,000 ชีวิต ที่เวียดนามใต้
(เครดิตภาพ:www.todayifoundout)
🌸 เรื่องสงครามที่ผ่านมาในอดีตนั้น เป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิด ไม่ว่าจะที่เมืองใด ประเทศใด ย่อมนำความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน เกิดการพลัดพรากจากกันไม่ว่าเป็นหรือตาย
🌸 อย่างเรื่องการขนย้ายเด็กราวๆ 3,000 ชีวิต ตั้งแต่แบเบาะ ถึงอายุ 3-4 ขวบขึ้นเครื่องบิน(Babylift Operation) ที่เกิดขึ้นอย่างชุลมุนวุ่นวาย เป็นเหตุการณ์ที่กล่าวขานกันไปทั่วโลกในช่วงเวลานั้น
😊 ซึ่งปฏิบัติการนี้เกิดขึ้นเริ่มตั้งแต่ 3 เมษายน ค.ศ.1975 ( 45 ปีที่แล้ว) โดยกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา
โดยเด็กเล็กมากๆได้ถูกบรรจุลงในลังหรือกล่องแล้วคาดเข็มขัดนิรภัย นำบินขึ้นจากสนามบิน ตัน ซอน นุต ท่ามกลางเสียงวิพากย์วิจารณ์มิใช่น้อย
(Cr:www.south china morning post/www.diacritics.org)
🙂 เมื่อทุกอย่างจวนตัวการตัดสินใจใดๆก็ตามของประธานาธิบดีของสหรัฐในขณะนั้น คำนึงถึงชีวิตอันบริสุทธิ์ของเด็กๆเป็นหลัก
🌼 เมื่อเด็กๆส่วนใหญ่เป็นลูกครึ่งเวียดนามกับทหารสหรัฐที่เข้ามาตั้งฐานทัพ นอกจากนั้นยังมีเด็กกำพร้าที่พ่อแม่เสียชีวิตจากสงคราม รวมถึงเด็กที่ไม่กำพร้าแต่พ่อแม่เอามาฝากไว้ในศูนย์ดูแลเด็ก
🌸 เมื่อย้อนกลับไป ค.ศ.1963 หลังจากสหรัฐสนับสนุนให้ฝ่ายทหารของเวียดนามใต้ทำรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลของ โง ดินห์ เดียม และมีการสังหาร โง ดินห์ เดียนได้สำเร็จในปีเดียวกัน
🌸 ทางกองทัพสหรัฐได้ทยอยส่งกำลังทหารทั้ง3 เหล่าทัพและพลเรือนเข้าสู่เวียดนามใต้อย่างจำนวนมโหฬาร จนกระทั่งราว ค.ศ.1969 มีกองกำลังทหารจากสหรัฐอยู่ในเวียดนามราว 540,000 คน
(Cr:www.site.google.com)
☘️ส่วนฝ่ายรัสเซียและจีน ซึ่งสนับสนุนเวียดนามเหนือได้ส่งสรรพกำลังต่างๆ ทั้งเครื่องบินรบ เรือรบ รถถัง อาวุธ ปืนใหญ่ รวมทั้งเสบียงอาหารเตรียมพร้อมรบกับฝ่ายเวียดนามใต้เช่นกัน
(Cr:www.site.google.com)
ชาวเวียดนามแม้เป็นสายเลือดร่วมชาติเดียว เมื่อถูกแบ่งฝักแบ่งฝ่ายเป็นเหนือและใต้ จึงต้องมาเข่นฆ่าพี่น้องร่วมชาติเดียวกัน
สงครามยืดเยื้อเรื้อรังราว 10 ปี ทหารทั้งหนุ่มน้อย หนุ่มใหญ่ชาวอเมริกัน ต้องมาจบชีวิตลงให้กับไฟสงครามในภูมิภาคแห่งนี้ ราว 58,000 นาย
อเมริกันชนมีการประท้วงเรียกร้องอยู่เนืองๆให้ส่งลูกหลานทหารหนุ่มกับมาตุภูมิ ยุติสงครามกันเสียที จนกระทั่งปลายปี ค.ศ. 1969 ประชาชนอเมริกันทนไม่ไหว เกิดประท้วงใหญ่ครั้งใหญ่ ประชาชนนับแสนคนมารวมตัวกันที่กรุงวอชิงตัน ดี ซี
ประชาชนชาวอเมริกันเดินขบวนประท้วง การส่งทหารไปร่วมรบที่เวียดนาม(cr:www.site.google.com)
ในที่สุด 15 สิงหาคม ค.ศ.1973 ประธานาธิบดีนิกสัน ชนะการเลือกตั้ง... จึงได้ออกคำสั่งให้ทยอยถอนทหารออกจากเวียดนาม
ปฏิบัติการ Babylift จึงเริ่มเกิดขึ้น...
(Cr:www.MikeLiveira's space)
ก่อนกรุงไซ่ง่อนแตก ฝ่ายกองทัพอเมริกาที่หนุนหลังเวียดนามใต้ เห็นว่าสงครามใกล้จะถึงจุดจบ ...เวียดนามใต้ไม่อาจต้านทานต่อกำลังรบของเวียดนามเหนือที่บุกทะลุทะลวง.. ตีแตกทุกป้อมค่าย
ทุกอย่างจวนตัว เด็กเล็กๆผู้บริสุทธิ์ ลูกหลานทหารอเมริกันที่พบรักกับสาวเวียดนาม เด็กกำพร้าบ้างและไม่กำพร้าบ้าง หากปล่อยไว้ในสถานเลี้ยงเด็กในกรุงไซ่ง่อน ย่อมไม่รู้ชะตากรรมชีวิต
ปฏิบัติการขนเด็กขึ้นเครื่อง ครั้งยิ่งใหญ่ท่ามกลางไฟสงครามจึงเริ่มขึ้น ณ วันที่ 4 เมษายน ค.ศ. 1975
ปฏิบัติการเริ่มขึ้น โดยใช้เครื่องบิน C-5 ของสหัฐอเมริกา รวมไปถึงพยาบาลดูแลเด็ก อาสาสมัครและเจ้าหน้าที่การทูต
1
ในวันที่ 4 เมษายน ค.ศ.1975 มีเหตุการณ์สลดเกิดขึ้น ได้เกิดอุบัติเหตุกับเที่ยวบิน C-5 ขนย้ายเด็กลำหนึ่งที่เพิ่มขึ้นจากสนามบินได้ไม่กี่นาที
เครื่องบินพยายามลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินตันซอนนุต แต่เครื่องเสียหลักตกกระแทกก่อนถึงสนามบิน 2 ไมล์ ทำให้เด็กเล็ก 78 คนจาก 243 คนและเจ้าหน้าที่ 35 คนเสียชีวิต ในเที่ยวบินนี้
อุบัติเหตุในเที่ยวบินนี้ ทำให้เป็นข่าวสลดไปทั่วโลกแต่ปฏิบัติการ babylift ยังต้องดำเนินต่อไป...
(Cr:www.MiKeLiveira's space)
ปฏิการด้านมนุษยธรรมครั้งนี้ ได้ขนเด็กกว่า 3,000 ชีวิต โดยใช้เที่ยวบินราว 30 เที่ยวบิน ตั้งแต่วันที่ 4 - 26 เมษายน ค.ศ.1975 ใช้งบประมาณราว 2 ล้านเหรียญ โดยใช้เครื่อง C-5A Galaxy และ C-141 starlifter และความช่วยเหลือจากสายการบินต่างๆเช่น Pan Am World Airways
ลองนึกภาพการเคลื่อนย้ายเด็กที่ต้องทำอย่างเร่งด่วน ซึ่งต้องมีขบวนการจัดเด็กลงกล่อง ป้อนนม ป้อนน้ำ ลำเรียงขึ้นเครื่อง เพื่อหนีความตายจากกองทัพเวียดนามเหนือ คงจะอลหม่านวุ่นวายไม่น้อย
เครื่องบิน C-5 Galaxy ที่ใช้ในปฏิบัติการ Babylift (cr:www.MiKeLiveira's space)
กรุงไซ่ง่อนแตกวันที่ 30 เมษายน ค.ศ.1975 กองทัพเวียดนามเหนือได้บุกมายึดเมืองหลวง ได้จับทหารเวียดนามใต้และประชาชนยิงสังหาร อย่าไร้ความปรานี ผู้บริสุทธิ์ต้องหนีตายอย่างน่าสงสาร
(Cr:www.site.google.com)
แต่เด็กๆจากปฏิบัติการ Babylift ราว 3,000 คน รอดชีวิตเหมือนตายแล้วเกิดใหม่
เมื่อเด็กๆไปถึงสหรัฐอเมริกาแล้วต้องไป เข้ารับการดูแลเป็นพิเศษ เรื่องจากโรคขาดสารอาหาร โรคผิวหนัง หิด เหา เนื่องจากการดูแลตามมีตามเกิดในสถานเลี้ยงเด็กในห้วงสงคราม
เด็กราว 2,500 คนได้อยู่ในสหรัฐอเมริกา ได้สัญชาติ เติบโต มีหน้าที่การงานและสร้างครอบครัวอยู่ในอเมริกามาจนบัดนี้
ส่วนเด็กอีกกลุ่ม ได้รับการอุปการะจากครอบครัวชาว ออสเตรเลีย แคนาดาและบางประเทศในยุโรป
เวลาผ่านมาเนิ่นนามราว 45 ปี ...เป็นที่น่าชื่นใจที่เด็กจากปฏิบัติการ Babylift คราวนั้น ได้รอดชีวิตจากเหยื่อสงครามเวียดนามที่เปรียบดั่งขุมนรก
บางคนได้เติบโต มีหน้าที่การงานที่ดี เป็น วิศวกร แพทย์ มีชีวิตที่ดีสร้างคุณค่าในสังคม
บางส่วนของเด็กที่รอดชีวิตจากปฏิบัติการ " Babylift " มาพบเจอกันในวันครบรอบ 40 ปีหลังเหตุการณ์(cr:www.MiKeLiveira's space)
😊😊
(Cr:www.khaothai.today)
มีข่าวแม่ลูกชาวเวียดนาม ที่พลัดพรากจากกันนาน 40 กว่าปี จากปฏิบัติการ Babylift ได้ตามหากันจนเจอ ...ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องดีๆที่ฟังแล้ว...ตื้นตันใจ❤️❤️❤️
🙏🏼🙏🏼🌸🌸 ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคะ
ฝากติดตามและกด like & share เพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะคะ😅😅 ขอบคุณค่ะ
Dent-jasmine เรียบเรียง🌷🌷
🙏🏼🙏🏼ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก(Reference)
โฆษณา