22 เม.ย. 2020 เวลา 00:00 • ปรัชญา
ม😈มนุษย์กลายพันธุ์😇
🙏สวัสดีผู้อ่านทุกท่านครับ
เครดิตภาพ:pixabay.com
หลายท่านอาจจะสงสัยนะครับว่า คำว่า มนุษย์กลายพันธุ์ ที่ผู้เขียนกำลังจะพูดถึงนั้น หมายความว่าอย่างไร
หรือจะเป็นการกลายพันธุ์ของมนุษย์ เหมือนในหนังที่หลายๆท่านอาจจะเคยดู หรือไม่ อย่าเพิ่งตกใจนะครับ
มนุษย์กลายพันธุ์ที่ผู้เขียนจะสื่อถึงนั้น หมายถึงการกลายพันธุ์ทางความคิด ทัศนคติ ในการดำเนินชีวิต และแง่คิดทางสังคม ซึ่งส่งผลต่อการแสดงออก ของมนุษย์ทุกเพศทุกวัย
เคยลองสังเกตุไหมครับว่า คนสองคน ที่เติบโตมาในครอบครัวเดียวกันนั้น ถูกเลี้ยงดูมาแบบเดียวกัน และภายใต้สภาพแวดล้อมทางสังคมเดียวกัน
ทำไมในบางครอบครัว ลูกสองคนที่คลานตามกันออกมา จึงมีพฤติกรรมและการแสดงออก ในการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน อย่างสิ้นเชิง
เช่น เรื่องของชายสองคน ซึ่งทั้งคู่เป็นพี่น้อง ร่วมท้องมารดาเดียวกัน แต่ทว่า คนหนึ่งนั้นติดยาเสพติด ติดเหล้า เล่นการพนันและชอบทุบตีลูกเมียอยู่เป็นประจำ
กับอีกคนหนึ่งเป็นนักธุรกิจ ที่ประสบความสำเร็จในชีวิต และได้รับความนับถือจากสังคม และมีครอบครัวที่อบอุ่น
ซึ่งตัวอย่างที่ยกมานี้ เราจะเห็นได้ว่า ทั้งคู่มีทัศนคติทางความคิด และการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกัน ทั้งที่โตมาในสภาพแวดล้อม และสังคมเดียวกัน
คำถามคือ แล้วอะไรที่ทำให้คนทั้งสอง มีมุมมองในการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันเช่นนี้ครับ
ชายคนแรกถูกตั้งคำถาม ด้วยคำถามที่ว่า คุณถูกเลี้ยงดูมาอย่างไร จึงกลายเป็นคนติดเหล้า ติดยาเสพติด ชอบเล่นการพนันและทุบตีลูกเมียอยู่เสมอ
ชายคนนี้ตอบว่า เป็นเพราะพ่อ ที่เลี้ยงเขามาแบบนี้ พ่อติดเหล้า ติดยา เสพติด เล่นการพนันและชอบทุบตีเขากับแม่เป็นประจำ จึงทำให้เขาโตมาเป็นคนแบบนี้ จะหวังให้เขาเป็นอย่างไรได้อีก
แต่เมื่อชายอีกคน ถูกถามด้วยคำถามเดียวกันนี้ ว่า คุณถูกเลี้ยงดูมาแบบไหน จึงกลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต
เขาตอบว่า เป็นเพราะพ่อ ตอนที่เขายังเด็ก เขาเห็นพ่อติดเหล้า ติดยาเสพติด ชอบเล่นการพนันและชอบทุบตีเขากับแม่อยู่เสมอ
จึงบอกตัวเองว่า นั่นเป็นสิ่งที่เขาไม่ต้องการ และจะไม่มีวันทำแบบนั้นเด็ดขาด
เครดิตภาพ:pixabay.com
ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่า ชายทั้งสองคนซึ่งถูกเลี้ยงดูมา โดยมีแรงผลักดันแบบเดียวกัน แต่ทว่าคนหนึ่งใช้แรงผลักดัน ไปในทางที่สร้างสรรค์
ส่วนอีกคนใช้แรงผลักดัน ไปในทางที่ทำลายตัวเอง ซึ่งเป็นความแตกต่างของการแสดงออกต่อสภาพแวดล้อมครอบครัวและสังคมที่คนทั้งสองได้เติบโตมา
สำหรับคำสุภาษิตที่ว่า ลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้น ซึ่งมีความหมายว่า พ่อแม่เป็นอย่างไร ลูกย่อมเป็นอย่างนั้น
และสุภาษิตที่ว่า หว่านพืชเช่นไร ย่อมได้ผลเช่นนั้น ก็อาจจะใช้ไม่ได้เสมอไป กับบางคนและบางสถานการณ์ ดังเช่นตัวอย่างของชายทั้งสองคนที่กล่าวมานี้
ลูกไม้อาจจะหล่นไกลต้นบ้างในบางครั้ง เมล็ดพืชที่หว่านนั้นอาจจะกลายพันธุ์บ้างในบางที
สำหรับเมล็ดพันธุ์ทางความคิด และทัศนคติต่อการใช้ชีวิต ภายใต้สภาพแวดล้อม ภายใต้แรงกดดัน และการเลี้ยงดูแบบเดียวกัน
ดังนั้น ตัวอย่างข้างต้นนี้ จึงเป็นสิ่งสะท้อนให้เห็นว่า ภายใต้สภาพแวดล้อม และสังคมเดียวกัน
ก็ไม่อาจจะบ่มเพาะ ให้เมล็ดพันธุ์นั้นเติบโตไปในทิศทางเดียวกันได้เสมอไป ด้วยเหตุปัจจัยของแรงผลักดัน ที่มีอิทธิพลต่อทัศนคติในเชิงบวกและเชิงลบของมนุษย์
ซึ่งจะส่งผลทางความคิด และการแสดงออกต่อมุมมองชีวิต ที่แตกต่างกันออกไป
เช่นนั้นแล้ว ก็คงจะไม่เป็นการกล่าวเกินจริง ที่ผู้เขียนจะให้นิยามและความหมายของมนุษย์และบุคคลเหล่านี้ว่า
มนุษย์กลายพันธุ์ครับ
เขียนและเรียบเรียง
โดย..พระจันทร์สีน้ำเงิน
22/04/2563
ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ให้การสนับสนุนครับ🙏🙏😄😄
ชอบกดไลค์
ใช่กดแชร์ และอย่าลืมกดติดตามเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะครับ
โฆษณา