21 เม.ย. 2020 เวลา 21:42 • ประวัติศาสตร์
โจโฉกับสามกระบี่วิเศษ
จั่วหัวบทความมาแบบนี้ คนอ่านคงนึกถึงชื่อปกตอนหนังสือประเภทแฮรี่พอตเตอร์ หรือคงนึกภาพโรโรโนอา โซโล ถือดาบสามเล่มอะไรประมาณนั้น ซึ่งไม่ใช่อย่างที่คิดหรอกครับ วันนี้แค่อยู่ในอารมณ์อยากจะพล่ามให้น้ำลายแตกฟองกันสักหน่อย ให้พอครึ้มอกครึ้มใจแกล้มสุราดีที่กำลังจิบคลอเบาๆเพื่อเรียกอารมณ์ ดังนั้นเรื่องที่จะนำมาเล่าในวงสุราวันนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้ทรงบารมีในยุคสามก๊กคนนึง ผู้ที่สามารถแบ่งเฉือนแผ่นดิน1ใน3ส่วนออกมาถือครองได้ด้วยความสามารถและสติปัญญาของตนเอง(จริงๆมันมากกว่า1ใน3นะ แต่เล่าโดยอรรถให้มันเข้าใจและเห็นภาพตามง่ายๆก็แล้วกัน) ใช่แล้วครับ วันนี้เราจะมาพูดถึงท่านลอร์ด โจ เม้งเต้ โฉ เรียกสั้นๆว่าโจโฉ(ที่ไม่ได้มีความเกี่ยวพันธ์ใดๆกับตระกูลโจสตาร์แต่อย่างใด)หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกCao cao กัน
แต่จะพูดอะไรเกี่ยวกับโจโฉดีล่ะ? อืมม์...นอกจากความสามารถที่เป็นนักปกครองนักการทหารที่โดดเด่นแล้ว ท่านโจโฉผู้นี้ยังเจ้าชู้ชิบหาย แต่ขืนให้เล่าเรื่องนางน้อยๆของท่านโจโฉเนี่ย สิบหน้ากระดาษคงจะไม่หมด งั้นเล่าอะไรดี ขุนพลเก่งๆของท่านลอร์ดโจ ก็มีคนเล่ากันเยอะแยะไปแล้ว แถมเอาไว้บ้าน้ำลายเล่าเป็นตอนเฉพาะตัวของขุนพลหรือกุนซือคนนั้นๆ จะดีกว่า....
นึกออกแล้ว!! โจโฉนี่นอกจากจะมีชื่อเรื่องความเจ้าชู้ตัวพ่อ รักคนมีสติปัญญาและเก่งกาจมีความสามารถ มิหนำซ้ำยังเป็นชนชั้นอัจฉริยะ ที่เหี้ยมโหดเด็ดขาดมากๆคนนึง โจโฉยังมีชื่อเรื่องการเป็นนักสะสมของดีตัวยงคนนึง เพราะเขานั้นมีกระบี่วิเศษอยู่ในครอบครองถึงสามเล่ม
วันนี้ เราจะมาเล่าเรื่องกระบี่วิเศษ ทั้งสามเล่มของโจโฉกัน
กระบี่7ดารา(sword of the seven stars)
มาเริ่มกันที่กระบี่เล่มแรกกัน กระบี่เล่มนี้มีบทบาทครั้งแรกในนิยายสามก๊กฉบับหลอกว๊านจง(หรือฉบับเจ้าพระยาคลังหนที่แปลไทยให้เราๆท่านๆได้อ่านกันนั่นแหล่ะ) โดยกระบี่เล่มนี้ถูกเล่าถึงเมื่อครั้งที่อ้องอุ้นจัดตั้งคณะปฏิวัติ เพื่อยึดอำนาจจากตั๋งโต๊ะผู้ทรชน ทีนี้ในการประชุมครานึง อ้องอุ้นได้เรียกชุมนุมเหล่าคณะปฏิวัติผู้มีอุดมการณ์เดียวกันในการโค่นล้มอำนาจของตั๋งโต๊ะเพื่อคืนพระราชอำนาจให้แก่พระเจ้าเหี้ยนเต้ผู้เป็นกษัตริย์ อ้องอุ้นก็ถามผู้ชุมนุมว่าจะจัดการตั๋งโต๊ะได้อย่างไรดี ในที่ประชุมนั้นต่างคนต่างก็เสนอความคิดเห็นกันมากมาย แต่สุดท้ายก็อับจนหนทางหาข้อสรุปที่ลงตัวไม่ได้ แต่จู่ๆ ก็มีเจ้าหนุ่มคนนึง หัวเราะแทรกขึ้นท่ามกลางวงสนทนา อ้องอุ้นจึงตวาดถามกลับไปว่า ท่านโจโฉเจ้ามีความคิดดีอันใดรึ โจโฉได้ยินดังนั้นก็ยิ้มพรายปรายเสน่ห์ ก่อนตอบไปด้วยน้ำเสียงอวดดีว่า กะอีแค่ตั๋งโต๊ะคนเดียว คนตั้งมากมายจะมาคร่ำครวญใย ข้าขันอาสาจะไปลอบสังหารตั๋งโต๊ะให้กับพวกท่านเอง โดยในแผนการลอบสังหารคราวนี้ โจโฉได้ของยืมกระบี่วิเศษของอ้องอุ้นไปด้วยเล่มนึง ซึ่งนั่นกระคือกระบี่7ดารา หรือกระบี่สัตเดช ที่เราๆท่านๆรู้จักกันในสามก๊กฉบับแปลไทยนั่นเอง(ที่ต้องยืมกระบี่ เพื่อหมายใช้เป็นข้ออ้าง ในการนำของวิเศษมามอบให้ตั๋งโต๊ะเพื่อเข้าประชิดตัว จะได้ลอบสังหารได้ง่ายๆนั่นเอง)
โดยที่กระบี่เล่มนี้ ถูกบรรยายเอาไว้อย่างนี้ เป็นกระบี่สั้นยาว1ฉือ(ประมาณ22.7-23.1cm.คือยาวไม่ถึง1ไม้บรรทัดนั่นแหล่ะ) ปลอกประดับไว้ด้วยอัญมณี7ชนิด อันเป็นที่มาของชื่อกระบี่7ดาราของมัน เป็นกระบี่สั้นที่คมกริบสามารถผ่าหยกดุจผ่าหยวก ใบมีดมีประกายแวววาวคมกล้านัก ซึ่งในเรื่องโจโฉได้ทดลองฟันกระจกให้ตั๋งโต๊ะชมดู ก็สามารถผ่าครึ่งกระจกได้อย่างง่ายดาย(หลายคนงงสินะ แค่ตัดกระจกมันน่าว้าวตรงไหน ต้องอย่าลืมครับ ว่ากระจกส่องหน้าสมัยนั้นทำจากทองเหลืองเน้อ กระบี่เล่มนึงฟันทองเหลืองได้ราวกับฟันกระดาษ มันจะไม่น่าตื่นตาตื่นใจได้อย่างไร)
ซึ่งก็เป็นอย่างที่เราๆท่านๆรู้กัน ว่าโจโฉนั้นลงมือพลาด เพราะประกายแสงจากกระบี่มันสะท้อนไปเข้าที่หน้าของตั๋งโต๊ะเสียก่อน เขาจึงแกล้งทำเป็นมอบกระบี่เล่มนี้ให้กับตั๋งโต๊ะเพื่อเอาชีวิตรอดแทน และ ทดสอบความคมของกระบี่ด้วยการฟันกระจกให้ตั๋งโต๊ะชมดู ซึ่งนั่นทำใหตั๋งโต๊ะปลื้มกระบี่วิเศษเล่มนี้มาก ถึงกับเมื่อถามเหตุผลว่าทำไมโจโฉถึงมาพบช้า แล้วโจโฉบอกว่าม้าที่เขาขี่มันไม่ค่อยดีแล้ว ตั๋งโต๊ะจึงเอ่ยปากยกม้าในโรงเลี้ยงของเขาให้โจโฉตัวนึง เลือกเอาตามใจชอบได้เลย ซึ่งโจโฉก็ใช้ม้าตัวนี้แหล่ะ ควบหนี ชิ่งออกมาจากเมืองหลวงเอาวันนั้นเลย
ภายหลังที่โค่นล้มตั๋งโต๊ะไปแล้ว กระบี่เล่มนี้ก็กลับมาอยู่ในมือของโจโฉอีกครั้ง ซึ่งเขาก็เก็บไว้เป็นสมบัติส่วนตัว ตลอดมา
กระบี่ชิงกังหรือกีเทนเกี๊ยม(Luminous sword)
มาถึงกระบี่เล่มที่สองกัน กับกระบี่ชิงกัง ซึ่งเป็นกระบี่มีชื่อเล่มนึง แถมถูกเอ่ยถึงในสามก๊กฉบับแปลไทยในช่วงศึกที่สำคัญอย่างศึกสะพานเตียงปันหรือช่วงจูล่งฝ่าทัพรับอาเต๊านั่นเอง
กระบี่เล่มนี้ โจโฉได้มันมาจากท้องพระคลังของวังหลวงพร้อมๆกับกระบี่วิเศษอีกเล่มนึง(ที่จะเล่าต่อจากเล่มนี้แหล่ะ) และโจโฉก็เอาติดตัวไว้ตลอด ต่อมาได้มอบให้กับแฮหัวอิ๋นผู้เป็นญาติสนิทที่คุยกันถูกอัธยาศัยไว้ใช้งาน(เผื่อใครยังไม่ทราบ โจโฉนั้นแซ่เดิมคือแฮหัวนะครับ ดังนั้นกับแฮหัวอิ๋นนี่ก็เหมือนกับลูกพี่ลูกน้องกันประมาณนี้) แต่ในศึกสะพานเตียงปันนั้น แฮหัวอิ๋นถูกจูล่งสังหาร และชิงเอากระบี่เล่มนี้ไป ซึ่งภายหลังนั้นจูล่งก็มอบมันให้กับเล่าปี่อีกทอดนึง
ในสามก๊กฉบับเจ้าพระยาคลังหนก็ได้บรรยายลักษณะของกระบี่เล่มนี้ไว้ค่อนข้างชัดนะ แต่เมื่อรวมๆจากหลายๆที่แล้ว สรุปได้ว่า กระบี่ชิงกังเป็นกระบี่วิเศษ ยาวกว่ากระบี่ทั่วๆไป ฟันหินฟันเหล็กดุจฟันหยวก(หยวกคงนึกบ่น อะไรๆก็มาลงที่กู555) ตัวกระบี่คมกล้ามีรัศมีสีเขียวเรื่อ เวลาตวัดฟาดฟันไร้สุ้มเสียง
ว่ากันว่า กระบี่เล่มนี้เป็นกระบี่ที่หลิวซิ่ว ใช้ในการปราบปรามหวังหลาง และกองกำลังคิ้วแดง จนสามารถสถาปนาราชวงศ์ฮั่นขึ้นมาได้ใหม่ในที่สุด มันจึงถูกนำไปเก็บไว้ที่ท้องพระคลังวังหลวง ในฐานะกระบี่กู้ชาติ เคียงคู่กับกระบี่วิเศษอีกเล่มนึงนั่นเอง
2
กระบี่อี้เทียนหรือหยี่เทียนหรืออี้เทียนเกี๊ยม(Sword of trust)
กระบี่เล่มนี้ หลายคนจำสับสนกับกระบี่ชิงกังกันมาก ในความจริงแล้วมันเป็นคนละเล่มกันนะ กระบีาอี้เทียนนั้นโจโฉได้มันมาจากท้องพระคลังวังหลวงพร้อมๆกับกระบี่ชิงกังนั่นแหล่ะ แต่เล่มนี้โจโฉไม่ได้ยกให้กับใคร พกติดตัวไว้เองตลอดเวลา เพราะเชื่อในหนึ่งคุณสมบัติของกระบี่เล่มนี้อย่างนึงคือ ทำให้ผู้ถือแคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวงนั่นเอง(เหมือนๆกับพระเครื่องบ้านเราเลยเนอะ555)
โดยเจ้ากระบี่อี้เทียนนี้ ถูกตีขึ้นก่อนราชวงศ์ฮั่นจะถือกำเนิดซ่ะอีก โดยถูกตีในสมัยปลายราชวงศ์ฉินโดยช่างที่ชื่อว่าหลี่กง ซึ่งว่ากันว่ากระบี่เล่มนี้ถูกตีขึ้นจากหินที่หล่นมาจากฟากฟ้าหรือแร่จากดาวตกนั่นเอง(ใช่ไวเบรเนี่ยมรึเปล่าวะ5555) โดยที่กระบี่มีน้ำหนักเบา คมกริบ ฟันเหล็กเหมือนฟันนุ่น(เปลี่ยนบ้างหยวกมันบ่นแล้วว่าทำไมต้องฟันแต่กู555)มีความยาวกว่ากระบี่ทั่วไปเล็กน้อย(ยาวราวๆ100cm) ทุกๆการปะทะของกระบี่จะดูดซับแรงของกระบี่คู่ต่อสู้(ชัดแล้ว นี่แม่งไวเบรเนี่ยมชัดๆ) นอกจากนี้กระบี่ยังมีคุณสมบัติเรื่องทำให้แคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวง(อย่างที่กล่าวไปข้างต้น) บางตำราบอกว่าสามารถใช้ขับไล่ภูตผีปิศาจได้ด้วย(จำตอนที่โจโฉจะตายได้มั้ย ที่เห็นภาพหลอนเป็นวิญญานมาหลอกหลอนหน่ะ โจโฉก็ใช้กระบี่เล่มนี้แหล่ะ ฟันใส่เสาท้องพระโรง)
กระบี่เล่มนี้ คือกระบี่คู่ราชวงศ์ฮั่น ที่หลิวปังใช้โค่นล้มเซียงอวี่ จนสามารถก่อตั้งราชวงศ์ฮั่นได้สำเร็จนั่นเอง จัดเป็นกระบี่คู่บารมีราชวงศ์กันเลยทีเดียว
ก็จบกันไปแล้ว สำหรับเรื่องเล่าเกี่ยวกับกระบี่ทั้งสามเล่มของโจโฉ ภาพประกอบเอามาจากเกมซ่ะเป็นส่วนใหญ่ ส่วนข้อมูลก็รวมมาจากหลายๆแหล่ง เอามากลั่นกรองเป็นบทความนี้ให้อ่านกัน ก่อนไป ไหนขอบอกให้ชื่นใจกันสักหน่อยครับ ว่าชอบกระบี่เล่มใดในสามเล่มนี้ที่สุด และเพราะอะไรถึงชื่นชอบกระบี่เล่มนั้น
โฆษณา