22 เม.ย. 2020 เวลา 02:03 • ธุรกิจ
คนรวย VS คนจน
จริงอยู่ครับว่าเงินไม่ใช่ทุกอย่างบนโลกใบนี้ แต่เราปฎิเสธไม่ได้จริงๆว่าเงินนั้นจำเป็นต่อเราในโลกปัจจุบันอย่างมากมาย แน่นอนว่ามีใครหลายคนอยากมีเงิน อยากรวยกันทั้งนั้น แต่ประเด็นคือไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นได้ เราสังเกตได้ว่าในโลกปัจจุบัน คนรวยยิ่งรวยขึ้น คนจนยิ่งจนลง หลายคนอาจจะเคยสงสัยเพราะอะไร?
นั่นเป็นเพราะว่า mindset ครับ เจ้มายเซ็ท หรือที่เรารู้จักกันดีคือ กรอบแห่งความคิด หรือวิธีคิด
คนรวยนั้นจะมี mindset ในเชิงบวกครับ เชิงบวกคือ พยายามโฟกัสในสิ่งที่ดีมากกว่าส่วนที่ไม่ดี
เมื่อมีความคิดที่ดี แปลงออกมาเป็นการกระทำ ซึ่งในท้ายที่สุด จะส่งผลต่อผลลัพธ์
ผมจะลองยกตัวอย่างสัก4แนวคิดที่ใกล้ตัวและสามารถนำไปปรับใช้ได้ในชีวิตจริงครับ
Richlyquotes
1. คนจนเลือกเรียนเพื่อหางานทำ ในขณะที่คนรวยเลือกเรียนเพื่อสร้าง
เชื่อว่าหลายคนที่อ่านอยู่เวลาเจอคำถาม “คุณเรียนไปเพื่ออะไร?” เรามักจะตอบด้วยความเคยชินว่า เพื่อจะได้มีงานทำดีๆ อาจจะเป็นเพราะบรรพบุรุษเราปลูกฝังต่อกันมาเป็นทอดๆว่าต้องตั้งใจเรียนเพื่อหางานดีๆทำ เราถูกโปรแกรมชีวิตคนจน ตั่งแต่ยังเด็กจนเราเข้าใจว่านี่คือสิ่งที่ถูกต้องในชีวิต แต่ถ้าหากใครตอบว่า “เรียนเพื่อสร้าง” นั่นแปลว่าคุณเองก็มีโอกาสที่จะรวย
ลองสังเกตง่ายๆคนรวยมักจะยอมเสียเวลาไปกับการเรียนรู้ และเปิดรับความคิดใหม่ในด้านที่ตัวเองสนใจ
โดยสนใจลึกแบบสุดๆในสิ่งนั้นๆ เพื่อสะสมเก็บองค์ความรู้ต่างๆไว้ใช้ในธุรกิจของตัวเองใน อนาคต
แต่ในขณะที่ คนจนมักจะมองแค่เรียนเพื่อเอาวุฒิการศึกษาเพื่อไปยื่นสมัครงาน
พวกเขาจะไม่ค่อยสนใจการเรียนรู้ในเชิงลึกสักเท่าไหร่ พวกเขามองว่าวุฒิการศึกษาและเกรดเฉลี่ยเป็น first priority เพื่อให้ถูกใจผู้สัมภาษณ์เพื่อรับเข้าทำงานและอยู่กับบริษัทดีๆ
2. คนจนมักไม่สนใจความรู้ทางการเงิน แต่คนรวยจะให้ความสำคัญเรื่องการเงิน
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่คิดว่า เราใช้เงินกันอยู่ทุกวันไม่เห็นมีความจำเป็นที่จะต้องรู้เรื่องเงินอะไร
เพิ่มเติม ถึงแม้คุณจะรู้ข้อดีของเงินมากมาย แหละนี่คือจุดเริ่มต้น Step แรกของการเป็นคนจนเพราะจริงๆแล้ว ศาสตร์ของเงิน มันมีอะไรที่มากกว่านั้น มันไม่ใช่แค่เรื่องของ บวก ลบ คูณ หารการจ่ายซื้อของ การรับเงินทอน เพราะศาสตร์ของการเงินมันมีอะไรอีกมากมาย
นั่นคือความต่างที่ คนรวยจะมีแนวคิดและทักษะในการใช้เงินที่มากกว่าคนทั่วไป
เพราะเค้ารู้ว่าหลักการทำเงินมันทำงานและมีข้อดีข้อเสียอย่างไร? คนรวยจะพยายามใช้เงินทำเงิน
ไม่ใช้แรงในการทำงาน ซึ่งโอกาสในการทำเงินบนโลกนั้นมีแก่นอยู่แค่ไม่กี่อย่าง แต่มีมากมายหลายวิธี
ยิ่งคุณมีเครื่องมือหรือสิ่งที่เรียกว่าความรู้ด้านการเงินเท่าไหร่ คุณยิ่งเข้าถึงมันได้มากและง่ายกว่าคนทั่วไป
3. คนจนไม่เห็นค่าเวลาแต่คนรวยนับถอยหลังทุกวินาที โดยทั่วไปคนจนมักจะมองว่า เวลาเป็นของที่ได้มาฟรีๆ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสนใจมากนัก
ในเมื่อมันได้มาฟรีๆก็มักจะไม่มีค่า จึงใช้ชีวิตแบบชิลๆหรือ slow life เพราะยังมีเวลาอีกมากมาย
ต่างกับคนรวยที่ให้ความสำคัญกับเวลามาก ถึงแม้เวลาจะเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนได้มาฟรีๆก็ตาม
แต่อย่าลืมว่าบางทีเวลาในชีวิตของเรา อาจไม่ได้เยอะอะไรขนาดนั้น การใช้เวลาทุกวินาทีให้มีค่า
คือคุณสมบัติที่คนจะรวยทุกคนจำเป็นต้องมี หากเรายกตัวอย่างประโยคสุดฮิตในสมัยอดีต นักบัญชีของบิลเกตส์เคยให้สัมภาษณ์แบบตลกๆว่า ถ้าบิลเกตส์ทำเช็คหนึ่งหมื่นดอลลาร์ตกลงพื้น เขาไม่สมควรก้มลงไปเก็บ(ถึงแม้จะแค่ห้าวินาทีก็ตาม) เพราะบิลสามารถใช้ห้าวินาทีในการคิดและทำเงินได้มากกว่านั้น
ซึ่งโจ๊กอันนี้คือเรื่องจริงแต่ความหมายแฝงที่ให้ข้อคิด ก็คือการบริหารเวลาชีวิตเป็นสิ่งที่จะกำหนด
ผลตอบแทนหรือเงินที่จะเข้ากระเป๋าของคุณ ดังนั้น slow life หรือการใช้ชีวิตชิลๆ ทำได้แต่ต้องไม่บ่อย
และไม่ควรทำถ้าคำว่าจนยังยืนอยู่ข้างๆคุณ
4. คนจนยิ่งซื้อยิ่งจน คนรวยยิ่งซื้อยิ่งรวย
เราเติบโตและถูกเลี้ยงดูมาพร้อมกับคำว่า “ต้องประหยัด” แต่ละวันต้องใช้เงินอย่างระมัดระวัง
เก็บเล็กผสมน้อย ออมเงินให้ได้มากที่สุดถึงจะมีชีวิตที่ไม่ลำบาก แนวคิดนี้บอกตรงๆมันฟังดูมีเหตุผล (make sense) แต่สิ่งเหล่านี้จะไม่ทำให้คุณเป็นคนรวย เพราะคนจนจะยึดติดกับคำว่า ประหยัดทุกอย่าง บางทียอมเสียเวลาเพื่อที่จะต่อราคาซื้อของกับแม่ค้าเป็นชั่วโมงๆ โดยที่ไม่เอาเวลาไปทำอะไร
เพื่อที่จะประหยัดเงินไม่กี่สิบบาท ต่างจากคนรวยหากสิ่งนั้นเป็นสิ่งจำเป็นเค้าจะจ่ายโดยไม่ลังเล
แล้วเอาเวลาไปคิดหาเงินทางอื่นที่มันมากกว่าการต่อราคาไม่กี่สิบบาท
เพราะเค้าคำนึงถึงการใช้งานเป็นหลัก และพวกเขาจะไม่ประหยัดเลยอดออม หากโอกาสมาถึงเค้าจะ
ทบทวนให้แน่ใจและรับความเสี่ยงเหล่านั้น และนำเงินบางส่วนไปลงทุนเพื่อให้เกิดผล
เพราะเงินที่นิ่งเฉยเปรียบเสมือนสายน้ำที่นิ่งไม่มีลมพัด นานไปก็น้ำก็จะเน่าเสีย
เช่นเดียวกับเงินที่ฝากไว้เฉยๆนานไปก็จะถูกเงินเฟ้อกัดกินลดคุณค่าไปเรื่อยๆ
สรุป ทั้งสี่ข้อนี้เป็นเรื่องของแนวคิดล้วนๆ ที่คุณเองสามารถนำไปปรับใช้ได้ในช่วงชีวิตคุณ
เพราะการจะเป็นคนรวยไม่มีสูตรลัดหรือทางเฉพาะที่ตายตัว เพราะแต่ละคนต้นทุนและ ปัจจัยต่างๆไม่เหมือนกัน
แต่ถ้าวันนี้คุณมัวแต่มองหาอุปสรรคต่างๆ เพื่อเป็นข้ออ้างที่จะไม่ลองทำสิ่งใหม่ๆ ก็ขอให้คุณมีความสุขกับการใช้ชีวิตในแบบเดิมๆครับ
#คำคมคนมีตังค์
โฆษณา