24 เม.ย. 2020 เวลา 03:59 • ปรัชญา
ถอดบทเรียนของ"บิลเกต" หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์
และผู้ที่เป็นมหาเศรษฐีที่ติดอันดับ1 ใน10 ของโลก
บิลเกต เกิดเมื่อวันที่ 28 ตุลาตม 1955
ใน Seattle Washington
เขาเป็นลูกคนที่สอง ในครอบครัวมีกัน4คน
แม่แมรี่แม็กซ์เวลล์เกตส์ เป็นครู พ่อวิลเลียมเอชเกทส์ซีเนีย เป็นทนายความ
ในวัยเด็กถือว่า บิลเกต เป็นเด็กที่ฉลาดเกินวัยมากๆ
แม่ของเขาจึงชอบพาเขาไปโรงเรียน
ที่อาสาเป็นวิทยากรอยู่บ่อยๆ
ในวัยเด็กบิลเกตเป็นเด็กที่อ่านหนังสือเยอะมากๆ
และเป็นหนังสือแนวที่ผู้ใหญ่เขาอ่านกัน
บิลเกต เป็นเด็กที่ชอบเล่นBoardgame มากๆ
และเกมที่เขาเล่น เป็นเกมการลงทุน และเกมเศรษฐี
พอเข้าประถมศึกษา บิลเกต
ได้พัฒนาศักยภาพของตัวเอง
ทั้งด้านคณิตศาสตร์ และ วิทยาศาสตร์
พอในวัย 13 ขวบ เขาได้ลงเรียนที่ Lakeside School
ซึ่งตอนที่เขาเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่
2 ทางโรงเรียนก็ได้มีการนำคอมพิวเตอร์
เข้ามาใช้ในการเรียนการสอน
ซึ่ง บิลเกต ให้ความสนใจคอมพิวเตอร์เป็นอย่างมาก
ถึงขนาด โดดเรียนแล้วแอบไปเล่นคอมกับเพื่อนของเขาอย่าง Paul Allen
(ผู้ร่วมก่อตั้ง Microsoft) ซึ่งปกติเล่นได้ไม่กี่ชม.
แต่ บิลเกต ก็แฮกเข้าไปเปลี่ยนระบบเวลา
ให้เล่นได้ไม่จำกัด
เล่นจนระบบคอมล่ม จนโดนสั่งห้ามให้เล่นคอมพิวเตอร์อีกเป็นอันขาด
แต่ด้วยความที่เขาชอบเล่นคอมพิวเตอร์เป็นอย่างมาก บิลเกตและเพื่อน
จึงได้รวมกลุ่มเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และเสนอตัวไปยังบริษัทที่โรงเรียนเช่าคอมพิวเตอร์
เพื่อไปแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ ของโปรแกรมบริษัท
เพื่อแลกกับการที่กลับมาเล่นคอมพิวเตอร์ได้อย่างไม่จำกัดเวลา
แถมในช่วงอายุ 17 ปี ก่อนที่เขาจะจบการศึกษาจาก Lakeside
เขายังได้เขียนโปรแกรมขายให้กับโรงเรียนของเขา
ซึ่งถือได้ว่าเป็น Software ชิ้นแรกที่เขาทำเงินได้จากมันอย่างจริงๆจัง ๆ
ต่อมาบิลเกต ได้สอบเข้า ฮาร์วาร์ด อย่างไม่ยากเย็นนัก
แต่เขาก็ยังคงสนใจแต่คอมพิวเตอร์อยู่ดี
จนกระทั่งในปี 1975 บิลเกต ได้อ่านบทความบทหนึ่ง
ในนิตยสาร Popular Electronics ซึ่งเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่
ที่มีชื่อว่า Altair 8800
บิลเกต จึงเห็นโอกาสทางธุรกิจว่า
คอมพิวเตอร์ในอนาคตสามารถใช้ได้ทุกบ้าน และสิ่งหนึ่งที่คอมพิวเตอร์ขาดไม่ได้เลย
คือ ซอร์ฟแวร์ที่เป็นระบบปฏิบัติการ
ที่จะทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถทำงานตามคำสั่งของคนใช้ได้
1
เขาจึงตัดสินใจติดต่อ MITS ว่าเขามีโปรแกรม BASIC
ที่ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ของพวกเขาได้
ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นยังไม่ได้เริ่มเขียนโปรแกรมด้วยซ้ำ
แต่นั่นก็ทำให้ MITS เรียกตัวไปคุย
บิลเกต ก็ได้พาเพื่อนสนิทไปด้วย
และช่วยกันเขียนโปรแกรมจำลองขึ้นมา
ภายในไม่กี่สัปดาห์
และโปรแกรม BASIC ที่พวกเขาเขียนขึ้นมานั้น
มันก็สามารถทำงานได้อย่างดี
ทั้งสองคนจึงได้ถูกว่าจ้างให้ทำงานกับ MITS
ตอนนั้นเอง บิลเกต ตัดสินใจลาออกจากฮาร์วาร์ด
ตอนที่เขามีอายุได้เพียง 21 ปี และเริ่มร่วมกันก่อตั้งบริษัทกับ Paul Allen
ที่ชื่อว่า Microsoft Corporation ในปี 1976
โดยที่ทำงานแรกอยู่ที่เมือง Albuquerque
รัฐ New Maxico
จนกระทั่งเมื่อปี 1980 บริษัท IBM
ก็ได้ติดต่อมาที่ Microsoft
เพื่อให้เขียนระบบปฏิบัติการให้
โดย บิลเกตและเพื่อนของเขา
ได้เขียนระบบปฏิบัติการที่ชื่อว่า MS-DOS
โดยที่ IBM เสนอเงินให้เป็นจำนวน 50,000 เหรียญ
ในการซื้อขายขาดแบบครั้งเดียว
แต่ บิลเกต มองเห็นว่าเขาไม่ควรขายขาด
แต่เปลี่ยนจากการขายขาด
เป็นการขายลิขสิทธิ์แทน
ทำให้ทุกครั้งๆที่ IBM ขายได้บิลเกต
ก็จะได้รับส่วนแบ่งเช่นกัน
และนี่ทำให้บิลเกต ขึ้นมาเป็นมหาเศรษฐี
อันดับ1ของโลกได้
บิลเกตเป็นอีกคนนึงที่รู้จักตัวเองตั้งแต่ยังเด็กๆ
ว่าเขาชอบอะไร และเขาสนใจอะไร
ทำให้เขามุ่งมั่นตั้งใจกับสิ่งนั้นมาตั้งแต่เด็ก
จนทำให้เขาประสบความสำเร็จได้อย่างทุกวันนี้
เป็นอีกคนนึงที่มองให้เห็นว่า
เราไม่จำเป็นต้องเก่งทุกอย่างก็ได้
เราแค่ต้องรู้จักตัวเองให้ดีพอว่าตัวเองชอบอะไร
สนใจด้านอะไรและทำมันให้อย่างเต็มที่ ที่สุด
แล้ววันนึงคุณจะประสบความสำเร็จเองครับ
ถ้าทำมันในทางที่ถูก:)
#ถอดบทเรียน
#Poramee
ขอบคุณรูปภาพจาก:https://www.pinterest.com/

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา