23 เม.ย. 2020 เวลา 02:40 • ธุรกิจ
เจ้าของ Shopee ขาดทุน 4 หมื่นล้าน แต่มีมูลค่า 7 แสนล้าน
หากเราทำธุรกิจขาดทุน 4 หมื่นล้านบาทต่อปี
เราจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนอย่างไร
เรื่องดังกล่าวกำลังเกิดขึ้นกับบริษัท Sea Limited เจ้าของ Garena และ Shopee
ที่ขาดทุนต่อเนื่องตั้งแต่ก่อตั้งธุรกิจจนถึงทุกวันนี้
1
ปี 2017 ขาดทุน 17,600 ล้านบาท
ปี 2018 ขาดทุน 30,000 ล้านบาท
ปี 2019 ขาดทุน 45,700 ล้านบาท
คิดเป็นการขาดทุนเพิ่มขึ้นเป็น 2.6 เท่าภายใน 3 ปี
ถึงตรงนี้ เราก็อาจสรุปได้ว่า อีกไม่นานบริษัทก็น่าจะไม่รอด
หรือถ้าเป็นนักลงทุนก็คงเทขายหุ้นทิ้ง
แต่เรื่องที่เกิดขึ้นกลับไม่ได้เป็นแบบนั้น..
ตอนนี้ Sea Limited มีมูลค่า 785,000 ล้านบาทเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าจากมูลค่าเมื่อ 3 ปีก่อน
มูลค่าดังกล่าวทำให้ Sea Limited เป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่กว่าธนาคารทุกแห่งในประเทศไทย
แล้วทำไมบริษัทที่ขาดทุนมหาศาล
กลับมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมาหลายเท่าตัว
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
เรื่องแรกสุดก็คือ รายได้โตระเบิด
บริษัท Sea Limited
ปี 2017 รายได้ 13,000 ล้านบาท
ปี 2018 รายได้ 26,000 ล้านบาท เติบโต 100%
ปี 2019 รายได้ 68,000 ล้านบาท เติบโต 161%
ปีที่ผ่านมา ลงทุนแมนเห็นการเติบโตของหลายบริษัท
แต่ก็ไม่มีบริษัทไหนทำได้ดีขนาดนี้ติดๆ กัน ซึ่งถือเป็นการเติบโตที่โดดเด่น
ทีนี้เรามาดูโครงสร้างรายได้ของ Sea Limited
รายได้ทุกๆ 100 บาทของบริษัทมาจาก 2 กลุ่มธุรกิจ
Digital Entertainment 52 บาท
E-Commerce 38 บาท
อื่นๆ 10 บาท
แล้วแต่ละกลุ่มมีอะไรบ้าง?
เริ่มต้นที่ Digital Entertainment
ธุรกิจกลุ่มนี้ก็คือ การให้บริการเกมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น League of Legends, FIFA Online 3 และ Arena of Valor (ROV) ซึ่งมีพาร์ตเนอร์สำคัญก็คือ Tencent บริษัทพัฒนาเกมยักษ์ใหญ่จากจีน
1
Cr. GameMonday
ซึ่งบริษัทมีกลยุทธ์พัฒนาแพลตฟอร์มกลางที่ชื่อว่า Garena เพื่อผูกบัญชีเกมต่างๆ ที่ให้บริการเข้ากับบัญชีกลาง
พอพูดถึงแพลตฟอร์ม สิ่งแรกที่ต้องเด้งขึ้นมาในหัวก็คือ โมเดลธุรกิจแบบ Facebook ที่มีตัวเลขศักดิ์สิทธิ์ก็คือ “จำนวนผู้ใช้งาน”
ขาดทุนช่วงแรกไม่เป็นไร
หากจำนวนผู้ใช้งานโตระเบิด
แบบนี้ก็เรียกว่า ประสบความสำเร็จ
สำหรับ Sea Limited จะรายงานผู้เล่นรายไตรมาส (Quarterly Active Users)
1
ปี 2018 ผู้เล่นรายไตรมาส 216.2 ล้านบัญชี
ปี 2019 ผู้เล่นรายไตรมาส 354.7 ล้านบัญชี เติบโต 64%
สาเหตุที่บริษัทเลือกที่จะรายงานผู้เล่นรายไตรมาสอาจเป็นเพราะว่าผู้เล่นไม่ได้เล่นเกมทุกวัน
2
การดูการเติบโตจากผู้เล่นรายไตรมาสจึงสะท้อนภาพรวมของธุรกิจได้ดีกว่า
อีกเรื่องที่น่าสนใจก็คือ Sea Limited แต่เดิมที่นำเกมของคนอื่นมาเปิดให้บริการ แต่ตอนนี้บริษัทเริ่มพัฒนาเกมบนสมาร์ตโฟนของตัวเอง นั่นก็คือ Free Fire ที่ประสบความสำเร็จจนกลายมาเป็นเกมที่มียอดดาวน์โหลดสูงสุดในปีที่ผ่านมา
Cr. Garena
ยังไม่หมดเพียงแค่นี้
เพราะว่าอีกธุรกิจก็เติบโตได้ดีไม่แพ้กัน นั่นก็คือ ธุรกิจ E-Commerce ในแบรนด์ที่เราคุ้นเคยกันดีชื่อ Shopee
รู้ไหมว่าแอปพลิเคชัน Shopee ที่เราคุ้นเคยมียอดสั่งซื้อมากขึ้นเป็นเท่าตัว
ปี 2018 จำนวน 600 ล้านคำสั่งซื้อ
ปี 2019 จำนวน 1,200 ล้านคำสั่งซื้อ
ส่งผลให้มูลค่าปริมาณการขายสินค้ารวม (GMV) มีมูลค่ากว่า 5 แสนล้านบาท
มาถึงตรงนี้จะเห็นได้ว่าทั้ง 2 ธุรกิจของ Sea Limited แข่งกันโตระเบิด อย่างไรก็ตาม มันแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายสูงในการทำการตลาด ส่งผลให้ขาดทุนต่อเนื่องติดต่อกันหลายปี
ซึ่งถ้าการเติบโตระดับนี้ก็มากพอ ที่นักลงทุนก็คงมองข้ามผลขาดทุน และคาดหวังอนาคตว่าบริษัทจะโตไปเรื่อยๆ และทำกำไรได้ในที่สุด
แต่โลกนี้ก็ไม่ได้สวยงามขนาดนั้น..
เพราะเมื่อแบกความคาดหวังยิ่งสูงเท่าไร
หากสิ่งที่คาดหวังไม่ได้เป็นอย่างที่หวัง
มันก็จะยิ่งส่งผลกระทบรุนแรงเท่านั้น
1
ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า Sea Limited จะสามารถทำได้อย่างที่นักลงทุนคาดหวังได้แค่ไหน
แต่ตอนนี้ต้องยอมรับว่า
คนไทยหลายคนกำลังใช้ Shopee เป็นประจำ โดยไม่รู้ตัว..
Cr. Shopee
โฆษณา