23 เม.ย. 2020 เวลา 08:19 • การศึกษา
ผู้นำต้องรวดเร็ว
ผมเริ่มทำงานในตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ.2562 หลังจากเป็นครูมาเกือบ 15 ปี การทำงานบริหารของผมนั้นเหมือนกบที่เพิ่งออกมาจากกะลา มองเห็นท้องฟ้าที่กว้างไกล ทุกสิ่งทุกอย่างมันกว้างใหญ่เกินกว่าที่คาดคิดไว้ แต่มันก็เป็นสิ่งที่ท้าทายยิ่งนัก
มาถึงวันนี้เป็นเวลาปีกว่าแล้ว ผมถูกประเมินการทำงาน ประเมินผลสัมฤทธิ ประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผล จากผู้บังคับบัญชาหลายครั้ง สิ่งที่ผมเชื่อและนำมาประยุกต์ใช้ในหน่วยงานของตัวเอง เครื่องมือหนึ่งที่ใช้วัดประสิทธิภาพสิ่งหนึ่งนั้นก็คือ เวลา การทำงานทุกอย่างต้องให้ทันเวลา และมันจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่องานที่ได้รับมอบหมายมันเสร็จก่อนเวลา
เมื่องานที่ได้รับมอบหมายต้องเสร็จในเวลา 1 เดือน ท่านทำเสร็จในเวลา 2 สัปดาห์ หรือ 1 สัปดาห์ มันจะยอดเยี่ยมแค่ไหน และในทางตรงกันข้ามหากเมื่อครบกำหนดเวลาแล้ว การทำงานยังไม่แล้วเสร็จ นั่นคงหมายถึงความด้อยในประสิทธิภาพ แล้วเราจะเพิ่มสำนึกต่อระยะเวลาที่ใช้ทำงานของตนเองและทีมของเราอย่างไร
จะทำอย่างไรให้สำนึกต่อระยะเวลาที่ใช้ในการทำงานแทรกซึมในร่างกายของเรา และส่งต่อให้กับทีม ผ่านคำพูด สีหน้าและแววตา สิ่งที่ผมอยากจะแนะนำก็คือ การที่เราจะทำงานสิ่งใดสิ่งหนึ่งขอให้คิดในใจไว้ตั้งแต่ตอนแรกว่า “เราจะทำงานให้เสร็จในเวลาเพียงครึ่งหนึ่ง” ถ้าคิดว่า จะสะสางงานนี้ให้เสร็จ น่าจะใช้เวลาสัก 1 ชั่วโมง
ให้ลองทำให้เสร็จโดยใช้เวลาครึ่งหนึ่งหรือ 30 นาที แน่นอนว่าในครั้งแรกๆ นั้นอาจทำให้งานเสร็จสิ้นไม่ทันในเวลา 30 นาที แต่มันต้องเสร็จก่อน 1 ชั่วโมงแน่ และเมื่อฝึกบ่อยๆ แล้วมันอาจจะเสร็จก่อน 30 นาทีก็ได้ ทีนี้ก็มาถึงคราวที่จะต้องขอร้องให้ทีมของเรามีสำนึกต่อระยะเวลา
เช่นจะให้งานอีกฝ่ายต้องเสร็จในเวลา 1 สัปดาห์ เราอาจจะขอร้องให้อีกฝ่ายส่งงานในเวลา 4 วัน และผลงานที่กลับมามันเร็วกว่า 4 วันอีก สิ่งที่ต้องไม่ลืมคือขวัญกำลังใจ คำชื่มชมในที่ประชุม ยิ่งมีคำชมให้กับหลายๆ ท่านที่ทำงานได้เสร็จก่อนเวลา ยิ่งจะสร้างค่านิยมใหม่แห่งการทำงานของเรา รวดเร็วและรวดเร็ว กลายเป็น new normal
โฆษณา