ย้อนรอยทุ่งรวงทองจากอดีตสู่ปัจจุบัน EP4
เวลาผ่านไปวิถึชีวิตของชาวนาคนชนบทก็ดำเนินไปตามปกติมีชีวิตเรียบง่ายไม่เร่งรีบต่างก็รักใคร่สามัคคีกลมเกลียวกันเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันเป็จนิจ...หลังจากที่ทุกครอบครัวได้ช่วยกันดำนาปลูกข้าวไปได้สักระยะหนึ่งท้องทุ่งอันกว้างใหญ่ก็เขียวขจีสะพรั่งไปด้วยต้นข้าวที่แข่งกันโตวันโตคืน พ่อกับแม่ก็ทำงานในท้องนาช่วยกันดูแลไม่ให้วัชพืชขึ้นมาแย่งอาหารกับกับต้นข้าว เคยเห็นพ่อกับแม่และญาติพี่น้องเขากำจัดวัชพืชในนาด้วยการ ซอกหญ้านา..หมายถึงการใช้เท้าเหยียบต้นหญ้าให้จมลงไปในดินแล้วใช้เท้าตลบดินกลบหญ้าให้มิดเพื่อไม่ให้หญ้าเติบโตและหญ้าที่ถูกเหยียบมุดดินและตายแล้วก็จะกลายเป็นปุ๋ยให้กับต้นข้าวต่อไป ทำกันอย่างนี้จนกว่าต้นข้าวจะโตจนคลุมวัชพืชได้
การก่องเบ็ดในนา
ขณะที่ต้นข้าวยังไม่ตั้งท้องนั้นชาวนาก็จะปล่อยน้ำให้เข้าไปในนาเพื่อหล่อเลี้ยงน้ำให้กับต้นข้าว...ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว...จำได้ว่าเคยตามพ่อไปออกไปก่องเบ็ดในนา โดยใช้เบ็ดด้ามยาวประมาณ 60 ซม.ใช้เชือกมัดขอเบ็ดติดกับปลายคันเบ็ดใช้ใส้เดือนที่หาได้ทั่วไปเกี่ยวเป็นเหยื่อแล้วนำไปปักไว้ตามคันนาในตอนหัวค่ำ ก่องไว้ประมาณ30คันตามคันนาแล้วปล่อยทิ้งไว้เช้ามืดวันรุ่งขึ้นค่อยมาเก็บเบ็ด...พอเช้ามืดก็ตามพ่อออกไปดูเบ็ดอีกที ยกขึ้นมาบางคันก็ได้ปลาบางคันก็ไม่ได้ปลา ส่วนมากจะได้ปลาไม่ว่าจะเป็นปลาช่อน ปลาดุก จับใส่กระสอบกลับบ้านทำอาหารอร่อยไปเลยแหละเหลือก็แบ่งเพื่อนไปกินกันเหลือมากๆเข้าแม่ก็ทำเป็นปลาแห้ง ปลาเค็มเอาไว้กินมื้อต่อๆไป
ข้าวตั้งท้องออกรวง
ระยะที่ข้าวตั้งท้องออกรวงนั้นรอยยิ้มแห่งความสุขได้ปรากฏบนใบหน้าของชาวนาทุกคนยามว่างจากงานก็มานั่งจับกลุ่มพูดคุยกันบ้างก็เตรียมที่จะทำน้ำขาว...น้ำขาว คือสาโทนั่นเองเพื่อเตรียมไว้ตอนที่มีการลงแข็กเกี่ยวข้าวกัน น้ำขาวคือสุดยอดของเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมในสมัยนั้นเพราะทำง่ายทุกครัวเรือนก็ทำเป็น น้ำขาวมักจะหมักเอาไว้ใช้งานเทศกาลต่างๆด้วยเช่น สงกรานต์ เพื่อเอาไว้ฉลองกันตามเทศกาล....ติดตามต่อใน EP4นะครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
