24 เม.ย. 2020 เวลา 04:02 • ประวัติศาสตร์
#เรื่องเล่าสยองขวัญ
ตอน ห้องพักหลอน
เรื่องเกิดขึ้นเมื่อประมาณช่วงเดือนสิงหา 2556 เรื่องมีอยู่ว่า แม่และทางสำนักงานต้องไปจัดบู๊ทและเข้าประชุมในกิจกรรมวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ พ.ศ.2556 ระหว่างวันที่ 6-21 สิงหาคม 2556 ณ BITEC บางนา แต่ทางสำนักงานของแม่ถูกจัดให้เข้าร่วมงานวันที่ 13 สิงหา ซึ่งพวกเราเลยเลือกเดินทางกันเช้า 12 สิงหาคม ประมาณ 10 โมงเช้า เราและน้องสาวก็ติดสอยห้อยตามแม่ไป เพราะแม่อยากให้เป็นเพื่อน กับ12ชั่วโมงที่เดินทางด้วยรถตู้จากขอนแก่นถึงกรุงเทพฯ เป็นช่วงเวลาที่ลำบากมาก ขาเข้ากรุงเทพติดแหงก จราจรเป็นอัมพาตเพราะคนเดินทางกลับจากต่างจังหวัดพอดี
โรงแรมที่อ่านรีวิวแล้วรีวิวเล่าแบบดีๆ หลายดาวที่จองไว้ก็มี แต่ก็ป่วยการ เมื่อมาถึงบางนาในประมาณ 4ทุ่ม เกือบ5ทุ่ม ฝนตกหนัก ถนนน้ำท่วม มองไม่เห็นทางอีก จะไปโรงแรมที่จองไว้ก็ไม่ได้ เพราะฝนตกหนักมาก ก็เลยพากันตัดสินใจว่าจะหาโรงแรมแถวไบเทคนอนเลยละกัน ตื่นเช้ามาจะได้ไปง่าย รถไม่ติดเท่าไหร่ (ลืมบอกไปมีสมาชิกไปกัน 6 คนมีเรา น้องสาว แม่ ลุงที่ทำงานแม่ น้าที่ทำงานแม่และคนขับ) เมื่อขับรถวนหาโรงแรม โรงแรมแล้วโรงแรมเล่า สุดท้าย...เราก็เจอโรงแรมเจ้าปัญหาซึ่งเป็นสาเหตุของเรื่อง... เมื่อคนขับรถเลี้ยวเข้าโรงแรมนั้น เราพบถึงความวังเวงมาก รถจอดที่หน้าทางเข้าไปเค้าท์เตอร์หน้าโรงแรม แม่และน้าไปเจรจากับพนักงาน เพื่อถามว่าห้องพักว่างมั้ย คำตอบคือ...ว่าง
ดังนั้นเลยจัดแจงยกกระเป๋าลงมาและให้คนขับรถเอารถไปจอดให้เรียบร้อยเราเปิด 2 ห้อง โดยห้องเป็นเตียงคิงไซส์ 1 เตียง และเตียงเดี่ยว 1 เตียง โดยแยกเป็นลุงที่ทำงานแม่+คนขับรถ/ และห้องเรามีแม่ น้องสาว และน้า คือตั้งแต่ทางเดินเข้าไปที่ห้องพัก โคตรสกปรก ดูแบบร้างมากประสบการณ์หนังผีที่เคยดูมาเริ่มพรั่งพรูเข้ามาในหัวใจ แต่ต้องบอกก่อนเราเป็นคนไม่กลัวผีนะ เลยไม่ได้อะไรมากมาย แค่มีที่นอนให้นอนก็พอ จากนั้นพนักงานโรงแรมพาไปที่ห้องพัก นึกภาพตามนะคะ เป็นกรอบสีเหลี่ยมมีที่ว่างตรงกลาง แล้วไม่มีหลังคา ฝนตกพรำๆเลยหล่ะทีนี้... เศษฝนกระเด็นติดประตูห้อง พร้อมทั้งมีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า "ไส้เดือน" ใต่เต็มพื้น และกำลังจะเลี้อยลอดเข้าประตูห้องเข้ามา แต่พนักงานคนนั้นเอาเท้าเหยียบไส้เดือนแล้วเตะทิ้งไป ช็อคสิคะงานนี้ พวกเราเลยรีบเข้าไปในห้องและปิดประตูล็อค เพราะบรรยากาศนอกวังเวงมาก แถมพนักงานยังซาดิสต์เหยียบไส้เดือนอีก
ตัดมาที่ตอนเปิดประตูเข้าห้อง เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไป บอกเลยห้องอับมาก ด้วยความที่ถึงดึก ต่างคนต่างง่วงนอน แต่ก็อยากอาบน้ำเพื่อชำระร่างกายให้สะอาด จะได้นอนสบายๆ เรากับน้องถูกเนรเทศให้นอนเตียงเดี่ยว (เราก็ตัวเท่าคะวาย น้องก็ตัวโตกว่าวัวนิดหนึ่งนอนกันทีเป็นปลาป๋อง) ส่วนแม่กับน้านอนเดียงใหญ่ ด้วยความที่แปลกที่ เราเลยสำรวจห้องนิดหนึ่ง ดูเตียงสะบัดผ้าห่ม เปิดตู้เสื้อผ้า และที่สุดท้ายที่เข้าไปดูคือ...ห้องน้ำ โอ้โหว...ท่านผู้ชม ห้องน้ำเดินเข้าไปแล้วแทบซึ้ง ไม้ที่กั้นห้องขาด ปลวกกัด สายไฟอะไรไม่รู้ระโยงระยางบนเพดาน มีเครื่องทำน้ำอุ่นอยู่ด้านซ้ายมือ แน่นอน...ไม่กล้าใช้เครื่องทำน้ำอุ่นเพราะกลัวไฟรั่ว เฮ้อ...เมื่อเห็นสภาพห้องน้ำ เลยตัดสินใจไม่อาบน้ำนอน ล้างหน้าแปรงฟันเฉยๆ และแล้วทุกคนก็นอนน...
ก๊อกแก๊กๆ ก๊อกแก๊กๆ เสียงเหมือนคนบิดประตูดังขึ้น ไอ้เราก็สะลึมสะลือแบบเสียงใครวะ มาบิดก๊อกแก๊กๆประตู คนจะหลับจะนอนนะ ตอนแรกนึกว่าแม่ หรือไม่ก็น้าไปเข้าห้องน้ำ พอเหงยหน้ามองก็เห็น 2 คนนอนอยู่เตียงข้างๆ (เราเป็นคนชอบนอนคว่ำค่ะ) ...เลยเหงยหน้าหันมองไปอีกทางของประตู ทางห้องน้ำ...
หึ หึ ชัดเจนเลย เป็นผู้หญิงผมสั้นใส่ชุดเสื้อยืด กางเกงขาสั้น (สีอะไรไม่รู้ มันมืด แต่ด้วยสายตาชินกับความมืด เลยพอเห็นว่าแต่งตัวยังไง) กำลังบิดลูกบิดประตูห้องน้ำแก๊กๆอยู่อย่างนั้น และแล้วเธอก็บิดสำเร็จ และเดินเข้าไปในห้องน้ำ พร้อมปิดประตูดัง "แกร๊ก" (อื้อหือ...ดันมาเปิดได้ตอนฉันตื่นนี่นะ) ด้วยความที่เราสะลืมสะลืม เลยไม่ได้ตกใจหรือสนใจอะไร คือตอนนั้นง่วงมาก เราเลยตัดสินใจพลิกตัวมาอีกทางซึ่งจะเป็นการนอนหงายแบบเต็มรูปแบบ และทำให้เราตกใจอีกรอบ เมื่อมีผู้หญิงผมยาว ใส่ชุดกระโปรงนั่งก้มหน้าอยู่เก้าอี้ตรงข้ามกับเตียงเรา... โอ้โหแม่เจ้า...แท็คทีมเป็นคู่หูดูโอ้กันมาเลยทีเดียว ถามว่าตอนนั้นกลัวมั้ย...บอกเลยว่า "ง่วง" เชื่อมั้ย เราเจอแบบนั้นไม่รู้ว่าด้วยความบ้าบิ่นอะไร เราไม่สนใจอ่ะ เอนตัวลงนอนต่อยันเช้าเลย...
เมื่อเช้า เราก็ตื่นก่อนเพื่อน ไปล้างหน้าแปรงฟัน เปลี่ยนชุดแล้วมาปลุกน้องสาว แม่และน้า เมื่อทั้งหมดเริ่มมีสติจากการตื่นนอนหมดแล้ว น้าก็ได้เล่าเหตุการณ์ที่น้าเจอะเจอเมื่อคืนให้ทุกคนในห้องฟังกัน น้าเล่ามา "เมื่อคืนตอนดึกๆ อยู่ดีๆก็รู้สึกเหมือนปวดหัวเหมือนใครไม่รู้มากดๆหัว เลยลืมตาขึ้น พบว่าเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังกดหัวตัวเองอยู่ น้าช็อคมาก น้ารีบคว้าพระบนหัวนอนที่น้าเอามาด้วยมาใส่แล้วหลับตาสวดมนต์ แล้วผู้หญิงคนนั้นก็หายไป น้ากลัวมากจนเผลอหลับไปเอง" ไอ้เรานั่งฟัง ก็เลยขำ แล้วก็เล่าเรื่องราวที่เราเจอเมื่อคืนให้น้าฟัง ทุกคนขนลุกมาก แม่ก็บอกเหมือนกันว่ารู้สึกเหมือนมีใครมาเดินรอบห้องทั้งคืน เราเลยบอกทุกคนว่า "อย่าไปกลัวเลย เขาคงมาขอส่วนบุญ เขาไม่ได้มาทำอะไรซะหน่อย" พูดจบเราเลยนั่งสวดมนต์แผ่เตตาให้เขา... และเมื่อทุกคนทำภารกิจของตัวเองเสร็จแล้วก็เช็คเอาท์ออกจากโรงแรมอันแสนน่ากลัวนี้ให้เร็วที่สุดทันที..
เคยมีคนบอกว่าถ้าเจอผีอย่าไปสนใจอย่าไปกลัวทำเป็นมองไม่เห็นเค้าก็จะเลิกสนใจเราเอง แต่ถ้าเจอจริงๆก็คงนิ่งๆ ไม่ใช่ว่าทำเป็นมองไม่เห็นนะนิ่งเพราะสติหลุด5555 เอาเป็นว่าอย่าเจอกันเลยนะคุณผี...
#ขอบคุณที่อ่านครับ
โฆษณา