“แต่ปากอ่านใจคิดขนิษฐ์เป็ด
มิใคร่จะเสร็จสิ้นสุดสมุดได้
จนล่วงมัชฌิมยามสองย่ำฆ้องชัย
จะหยุดไว้ก็เกรงพระอาชญา
หม่อมเป็ดน้อยค่อยเตือนให้เพื่อนนอน
เฝ้าเคืองค้อนแค้นขัดสะบัดหน้า
ยังไม่ทรงพระบรรทมตรมอุรา
แต่ชายตาดูพักตร์พยักกัน
เห็นพระองค์ทรงนิ่งไม่ติงกาย
เตือนก็ชายดึงต่วนให้ป่วนปั่น
หับสมุดหยุดยั้งฟังสำคัญ
ด้วยกระสันเสียวซ่านรำคาญใจ
พระแกล้งทรงพระกรรสะจะให้รู้
ว่าตื่นพระบรรทมอยู่หาหลับไม่
คุณโม่งก็ชะงากกระดากใจ
ก็แข็งจิตอ่านไปใจประวิง
ครั้นพระองค์ทรงพลิกพระกายกลับ
หมายว่าพระบรรทมหลับสนิทนิ่ง
ก็สมจิตคิดไว้ใจประวิง
ก็คลานชิงกันขยับดับเทียนชัย
เข้าชุลมุนวุ่นวายปลายพระบาท
ก็คิดคาดเอาว่าหาเห็นไม่
จึ่งกระทำเอาแต่อำเภอใจ
ด้วยแสงไฟมืดมิดไม่มีโพลง
กระซุบกระซิบซุ่มกายปลายพระบาท
อุตลุดอุดจาดทำอาจโถง
เอาเพลาะหอมกรอมหุ้มกันคลุมโปง
จึ่งตรัสเรียกว่าคุณโม่งแต่นั้นมา”