25 เม.ย. 2020 เวลา 08:36 • กีฬา
#เบอร์14อาดิดาส2แถบและแบรนด์รองเท้าสตั๊ดที่ซัดประตูย้ำชัย
ตั้งหัวเรื่องมาแบบนี้หลายคนคงร้องอ๋อตั้งแต่เห็นเบอร์ 14 แล้ว เพราะถ้านึกถึงหมายเลข 14 ที่หลังเสื้อฟุตบอลซักตัวคุณจะนึกถึงใคร ถ้าเป็นแฟนบอลไทยอาจตอบ ลีซอ ครับ ถ้าเป็นแฟนคอลัมนิสอาจคิดว่าเป็นพี่แจ็กกี้ อดิสรณ์ พึ่งยา แฟนการ์ตูนคงตอบ อิตโต้ ไง แต่ถ้าเป็นแฟนบอลยุค 80 คำตอบจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากคนนี้นักเตะเทวดา โยฮัน ครัฟฟ์ ซึ่งวันนี้ 25 เม.ย. เป็นวันที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเขาหลายอย่างทั้งเป็นวันเกิดของเขา และเป็นวันที่ มาร์โก แวน บาสเท่น สวมรองเท้าที่เขาผลิตวอลเลย์สุดสวยเป็นประตูย้ำชัยให้ฮอลแลนด์เอาชนะสหภาพโซเวียต 2-0 มันเริ่มต้นมาอย่างไร เรามาลองทบทวนเรื่องทั้งหมดพร้อมกัน
#หมายเลข14
โยฮัน ครัฟฟ์ กับเสื้อหมายเลข 14 อันเป็นเอกลักษณ์คือภาพในหัวของแฟนบอลทุกคนที่นึกภาพนักเตะเทวดาขึ้นมาหมายเลข 14 ก็จะตามขึ้นมาด้วย แต่น้อยคนที่จะทราบเหตผลว่าเพราะอะไร สมัยก่อนจนถึง 1990 ยุคที่ผู้เล่นยังไม่มีการกำหนดหมายเลขเสื้อ ยกเว้นทัวร์นาเมนต์สั้นๆเช่นฟุตบอลโลก บอลยุโรปที่ผู้เล่นได้รับการกำหนดหมายเลข นักเตะตัวจริงมักสวมเสื้อเบอร์ 1 ถึง 11 และตัวสำรองจะใช้เบอร์ 12 ถึง 16 ซึ่งเบอร์ปกติในช่วงนั้นของ ครัฟฟ์ คือเบอร์ 9 ของทีม
ตำนานหมายเลข 14 ของเขาเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2513 ครัฟฟ์สลัดอาการบาดเจ็บยาวกลับมาช่วยทีมได้ในเกมพบกับคู่ปรับตัวฉกาจอย่าง พีเอสวี ในห้องแต่งตัวก่อนเกมการแข่งขันจะเริ่มต้นขึ้น Gerrie Muhren เพื่อนร่วมทีมคนหนึ่งหาเสื้อหมายเลข 7 ของตัวเองไม่เจอ ครัฟฟ์ เลยยกเสื้อของเขาให้ มูห์เรน ก่อนเดินไปที่ตะกร้าเพื่อเลือกเสื้ออีกตัวแบบสุ่มขึ้นมาปรากฏว่าเสื้อที่เขาหยิบขึ้นมาเป็นหมายเลข 14 เขาสวมเสื้อตัวนั้นลงสนามและเกมนั้น อาแจ็กซ์ชนะพีเอสวี 1-0 และ ครัฟฟ์ เลยแนะนำให้ทุกคนในทีมยึดหมายเลขเดิมของตัวเองต่อไปในเกมต่อๆไปเพราะถือเป็นหมายเลขนำโชคของพวกเขา" มูห์เรน เล่าเรื่องราวนี้ผ่าน โฟเอทบาล สื่อในประเทศฮอลแลนด์
การทำแบบนั้นมันเป็นหนึ่งในเรื่องราวที่ท้าทายสมาคมฟุตบอลดัตช์ อย่างมาก เพราะอย่างที่ทราบว่าในยุคนั้นนักบอล 11 ตัวจริงจะสวมเสื้อหมายเลข 1 ถึง 11 ลงสนามแต่หลังจากนั้น ครัฟฟ์ ยังคงใช้หมายเลข 14 ต่อไปทั้งในทีมอาแจ็กซ์และในนามทีมชาติ เมื่อได้รับอนุญาติจากสมาคม
ในฟุตบอลโลก 1974 ไรนุส มิเชลส์ โค้ชของทีมเนเธอร์แลนด์ ชุดนั้นต้องการให้ทีมของเขาใส่เบอร์ตามอันดับรายชื่อและ Cruyff เป็นผู้เล่นคนแรกในบัญชีรายชื่อ เขาควรต้องสวมเสื้อหมายเลข 1 แต่เขาปฏิเสธและยืนยันที่จะใส่หมายเลขนำโชคของเขาคือเบอร์ 14 พร้อมทั้งส่งต่อเสื้อหมายเลข 1 ให้กับ รุด กีลส์ ที่เป็นมิดฟิลด์ของทีมและเป็นหมายเลข 1 คนเดียวในทัวร์นาเมนต์ที่เบอร์ 1 ไม่ใช่ผู้รักษาประตูขณะที่ Jan Jongbloed ผู้รักษาประตูได้เสื้อหมายเลข 8
หมายเลข 14 อาจจะเป็นเครื่องหมายการค้าของ ครัฟฟ์ แต่มีหลายโอกาสที่เราได้เห็นเขาเบอร์ 9 หมายเลขเก่าเช่นกันโดยเฉพาะช่วงที่เล่นให้กับบาร์เซโลน่า เพราะลา ลีกา ต้องการผู้เล่นที่เริ่มหมายเลข 1 ถึง 11, รวมทั้งทัวร์นาเมนต์ยูโร ในปี 1976 ที่เขาสวมหมายเลข 9 ให้ทีมชาติฮอลแลนด์แต่ก็ไปไม่ถึงดวงดาวแพ้เชกโกสโลวาเกีย ในรอบรองชนะเลิศ และชนะยูโกสลาเวีย คว้าอันดับ 3 ในปี 2007 อาแจ็กซ์ยกเลิกหมายเลข 14 ของครัฟฟ์ ซึ่งหลังจากเขาย้ายออกไปมีนักเตะ 18 คนที่ได้สวมเสื้อหมายเลข 14 ของเขา เป็นนักเตะชื่อคุ้นหูอย่าง มาร์โก ฟาน บาสเท่น 1982/83, โทมัส แฟร์มาเล่น 2004/05 และ โรเกร์ การ์เซีย เด็กปั้นจากบาร์เซโลน่า คือคนสุดท้ายทีได้สวมเบอร์ 14 นี้
#ปรากฏการอาดิดาส2แถบของครัฟฟ์
ในฟุตบอลโลกปี 1974 ครัฟฟ์ ทำสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด ในเกมนัดชิงชนะเลิศระหว่างทีมชาติฮอลแลนด์ กับเยอรมันตะวันตก ทั้งสองทีมมี อาดิดาส เป็นสปอนเซอร์ชุดแข่ง แต่แล้วเรื่องราวที่หลายคนไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อ โยฮัน ซึ่งเป็นพรีเซ็นเตอร์หลักของพูม่ ในยุคนั้น ผูกพันกับแบรนด์เอามากๆ และปฏิเสธที่จะใส่แบรนด์อื่นๆ แต่คุณจะทำอย่างไรเมื่อคุณถูกบังคับให้สวมเสื้ออาดิดาส ลงสนาม สิ่งที่ครัฟฟ์ทำคือตัดแถบหนึ่งจาก 3 แถบที่ตัวเสื้อและกางเกงออกให้เหลือเพียง 2 แถบเท่านั้น แม้เรื่องราวในวันนั้นเขาอาจจะไม่โดนลงโทษอะไรแต่ลองคิดดูเล่นๆ ถ้าเป็นทุกวันนี้เขาจะได้ออกจากห้องแต่งตัวมั้ย เจ้าของฉายามิสเตอร์พูม่า ที่ทำงานกับแบรนด์มา 40 ปีดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาการตลาดอาวุโสกล่าวไว้
#สตั๊ดครัฟฟ์
ค. ศ. 1979 ครัฟฟ์ ในวัย 32 ปี เรียกว่าช่วงท้ายๆ ของการค้าแข้งก็ว่าได้ เขาเริ่มจินตนาการถึงการสร้างรองเท้าที่มีทั้งคุณภาพและความหรูหรา ถือเป็นความทะเยอทะยานที่ค่อนข้างผิดปกติของนักกีฬามืออาชีพในเวลา ในที่สุดเขาก็ทำงานร่วมกับเพื่อนสนิทของเขา เอมิลิโอ ลาซซารินี่ ดีไซเนอร์ชาวอิตาลีและใช้ความรู้ของเขาในการสร้างรองเท้าที่ช่วยในการปรับบาลานซ์เวลาอยู่ในสนามและดูดีมีชาติตระกูล ในช่วงแรกเน้นที่รองเท้าฟุตบอลแบบอินดอร์ก่อน แต่พวกเขาก็ใช้เป็นรองเท้าแฟชั่นอย่างรวดเร็วเนื่องจากมีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูด หลังจากนั้นแบรนด์ Cruyff Classics จึงถือกำเนิดขึ้น
#ทำเรื่องเล่นเป็นเรื่องใหญ่
โฆษณา