27 เม.ย. 2020 เวลา 00:00 • ธุรกิจ
เศรษฐกิจโลกตกต่ำรุนแรงที่สุดในรอบ 90 ปี!!
ช่วงนี้แอดได้อ่านข่าวเศรษฐกิจเยอะมากๆ แน่นอนช่วงนี้มีแต่ข่าวน่าสนใจเยอะมากจริงๆ และแน่นอนเพื่อนๆคงรู้ว่า โรค COVID19 ทำให้เศรษฐกิจแย่ลงทุกวัน ตอนนี้มีหลายคนตกงาน ถูกลดเงินเดือน หรือมีหลายบริษัทที่ใกล้จะเจ๊ง
จริงๆ ก่อนหน้านี้ซักปีสองปีที่ผ่านมา นักเศรษฐศาสตร์เคยออกมาบอกว่า เศรษฐกิจหลายๆประเทศเริ่มถดถอยกันแล้ว แต่พอมาวันนี้ นักเศรษฐศาสตร์ระดับโลกหลายคน ออกมาเตือนว่า เศรษฐกิจจะทำให้คนตายยิ่งกว่า COVID19 ซะอีก และกลัวว่าจะเกิด Great Depression อีกครั้ง⚠️⚠️
- Recession หมายถึง ภาวะเศรษฐกิจถดถอย คือ GDP ติดลบ 2 ไตรมาสติดๆกัน ซึ่งเกิดขึ้นแน่ๆในปีนี้
- Great depression คือ ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอย่างรุนแรง‼️
ครั้งที่เกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง นับเป็นแค่ภาวะ Recession เองนะคะ แต่วิกฤติครั้งนี้แย่กว่าต้มยำกุ้ง แย่กว่าแฮมเบอร์เกอร์ไปอีก (มีแต่ชื่ออาหาร แอดเริ่มหิวละนะ5555) โลกเคยเกิด Great depression ครั้งหนึ่ง
คือเมื่อปี 1930 ตอนนั้นเป็นช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 พอดี ตอนนั้นหลายประเทศล่มสลาย พ่วงด้วยปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาการเงินมากมาย แต่ยกเว้น สหรัฐ กับ ญี่ปุ่น ที่ไม่ค่อยโดนผลกระทบอะไรเท่าไหร่อ่ะนะ
เอาเป็นว่า ช่างสงครามโลกไปก่อนละกันค่ะ ประเด็นหลักๆที่ทำให้เกิด Great Depression คือ ความโลภของนักลงทุนของสหรัฐนั่นแหละค่ะ เพราะช่วงนั้นเศรษฐกิจสหรัฐรุ่งมากที่สุดในโลกก็ว่าได้ ตอนนั้นดัชนีดาวน์โจนพุ่งแรงมาก จนนักลงทุนอยากเข้ามาเก็งกำไรในตลาดหุ้น แม้ว่าเขาจะไม่มีเงินก็ตาม
นี่แหละคือประเด็น พอไม่มีเงิน ก็ยืมสิจ๊ะ ธนาคารให้ยืมเงินไปลงทุน แค่วางหลักประกันไว้แค่ 10% ก็พอ สมมติ วางเงินไว้ 10,000 USD แต่กู้ไปซื้อหุ้นได้ถึง 100,000 USD (ถ้าเทียบกับทุกวันนี้ก็เหมือนกับการเปิดบัญชีมาร์จิ้นนั่นแหละค่ะ แต่ปัจจุบันต้องวางหลักประกันไว้ครึ่งนึงของเงินที่จะกู้ยืม)
ผลที่ตามมาคือ ราคาหุ้นถูกดันให้สูงขึ้นจนโอเวอร์เกินมูลค่าจริง สุดท้ายฟองสบู่แตก โป๊ะะะ!!! 🤯💢ราคาหุ้นเริ่มร่วงลงเรื่อยๆ นักลงทุนเริ่มกลัว ก็เลยต่างคนต่างเทขายออกมาพร้อมๆกันเลย ราคาหุ้นยิ่งตกลงไปอีก ดาวโจนร่วงลงมาถึง 30% ภายในวันเดียวเท่านั้น‼️ นั่นคือ “Black Thursday”
เป็นวันที่นักลงทุนสหรัฐไม่มีวันลืมเลยล่ะ จากนั้นเหล่านักลงทุนขาดทุนย่อยยับ ไม่มีเงินไปจ่ายหนี้คืนธนาคาร ธนาคารก็ล้มละลาย ในที่สุดตลาดหุ้น Wall street [ชื่อเล่นของตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ ตั้งอยู่ที่ถนน wall street] ก็ล่มสลายตามไปด้วย พอเศรษฐกิจสหรัฐล้ม ทั่วโลกก็กระทบหมด เป็นทอดๆ เกิดเศรษฐกิจตกต่ำที่สุดที่เคยมีมา คนว่างงานในสหรัฐสูงถึง 20 % กว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวได้ ใช้เวลาถึง 10 ปีเลยทีเดียว
ย้อนกลับมาที่วิกฤติ COVID19 ครั้งนี้ ตัวเลขคนว่างงานในสหรัฐเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ มีตำแหน่งที่ถูกปลดถึง 16 ล้านตำแหน่ง และเค้าคาดว่าตัวเลขคนว่างงานอาจจะแตะ 12.5% ในเร็วๆนี้
เปอร์เซ็นต์อัตราการว่างงานของสหรัฐฯ จากเว็บ investing.com
คนจะเริ่มหยุดจับจ่ายใช้สอย โดยเฉพาะของฟุ่มเฟือย เมื่อ Demand น้อยกว่า Supply มากๆ เหล่าผู้ประกอบการต่างๆก็ต้องลดราคาสินค้า เพื่อให้เค้าขายของได้ ภาวะนี้เรียกว่า เงินฝืด เงินฝืดน่ากลัวกว่าเงินเฟ้อซะอีก เพราะเงินฝืดทำให้ผู้ประกอบการไม่อยากผลิตสินค้าบริการออกมา เพราะเค้าขายของได้ถูกลง ยิ่งทำให้เศรษฐกิจย่ำแย่ลงไปอีก
ดังนั้นตอนนี้เลยมีหลายประเทศพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยอัดฉีดเงินเข้าระบบบ้าง ,ลดภาษีบ้าง ,ลดดอกเบี้ยบ้าง บางประเทศเกือบจะเหลือ 0% แล้วบางประเทศให้ดอกเบี้ยติดลบไปแล้ว ส่วนประเทศไทยเราก็ลดลงมาเรื่อยๆ ตอนนี้เหลือ 0.75 % แล้ว
ส่วนเรื่องที่ว่าเศรษฐกิจจะใช้เวลาฟื้นตัวนานแค่ไหน อันนี้ขึ้นอยู่กับว่าควบคุมโรคได้เร็วแค่ไหน นักเศรษฐศาสตร์มองการฟื้นตัวออกเป็นหลายรูปแบบด้วยกัน ได้แก่ รูปแบบตัว V ,ตัว U ,ตัว W และตัว L
ถัาใครอยากรู้ต่อว่ารูปแบบต่างๆหมายความว่าอะไรบ้าง โปรดกดไลค์ กดแชร์ และโปรดติดตามต่อในโพสถัดไปจ้าาา😁😁
ปล. พามาเล่าประวัติศาสตร์ตั้งนาน ไม่รู้ว่าจะมีใครสนใจอ่านมั้ยนะ555 แต่แอดชอบอ่านนะมันสนุกมากๆแหละ
โฆษณา