27 เม.ย. 2020 เวลา 03:33 • ประวัติศาสตร์
ทรราชย์ในคราบพลเรือน “รี ซึงมัน” ประธานาธบดีคนแรกแห่งเกาหลีใต้ ผู้พาประเทศสู่เผด็จการ
ในปี 1948 – 1960 ประธานธิบดีคนแรกของเกาหลีใต้ รี ซึงมัน (Rhee Syngman) เป็นพลเรือน แต่ก็เป็นเผด็จการด้วย ปกครองยาวนานถึง 12 ปี เขาได้รับตำแหน่งจากการเลือกตั้งในปี 1948 ที่จัดขึ้นโดยสหประชาชาติ ในสมัยแรกอาจจะฟังดูไม่น่าจะเรียกว่าเป็นเผด็จการได้
WIKIPEDIA PD
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
แต่ต่อมาสิ่งที่ รี ซึงมัน ทำก็คือ การสืบทอดอำนาจตัวเอง นั่นก็คือเมื่อใกล้ครบวาระและมองเห็นว่าโอกาสที่จะได้กลับมาเป็นมีน้อยมากเพราะในขณะนั้นใช้ระบบการสภาในการเลือกประธานาธิบดี จึงทำการใช้วิธีแก้รัฐธรรมนูญให้ประชาชนเป็นผู้เลือกประธานาธิบดีโดยตรง พอเป็นแบบนี้ก็ไม่มีคู่แข่งที่น่ากลัวเพราะไม่มีใครตั้งตัวได้ และที่สามารถแก้รัฐธรรมนูญได้ก็เป็นเพราะ รี ซึงมัน ใช้กำลังทั้งทหารและตำรวจ คอยกดดัน ข่มขู่สมาชิกสภาจนได้คะแนนเสียงมากพอจะแก้รัฐธรรมนูญได้
ถึงขนาดนี้แล้ว รี ซึงมัน ก็ยังไม่หยุด เพราะว่ารัฐธรรมนูญตอนนั้นยังเขียนไว้ว่า ปธน.เกาหลีใต้อยู่ในตำแหน่งได้แค่ 2 สมัยเท่านั้น เมื่อใกล้ครบเทอมที่ 2 รี ซึงมัน ก็ใช้วิธีแก้รัฐธรรมนูญแบบที่ไม่ชอบธรรมอีกรอบ โดยแก้ให้ตำแหน่งปธน.ไม่มีกำหนดครบวาระ ตัวเขาเองก็ชนะอยู่ต่อไปเป็นวาระที่3 พอถึงการเลือกตั้งวาระที่ 4 ในปี1960 ไม่ว่าประชาชนจะเอือมเผด็จการแค่ไหนเขาก็ชนะเลือกตั้งอีกอยู่ดี เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเลือกตั้งที่มีผู้สมัครเพียงคนเดียว
ทั้งนี้ก็เพราะ รี ซึงมันใช้กฎหมายกำจัดคู่แข่งไปหมดแล้ว ด้วยสถานการณ์บ้านเมืองที่อยู่ในระหว่างสงครามเกาหลี การกล่าวหาว่าคู่แข่งเป็นคอมมิวนิสต์ก็ย่อมทำได้ง่าย มีการบีบฝ่ายค้านจนหนีออกนอกประเทศ นักการเมืองฝ่ายตรงข้ามที่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนเป็นจำนวนมากถูกจับและประหารชีวิตเลยทีเดียว
ร่วม support SpokeDark เพื่อเข้ากลุ่มลับ bit.ly/sp-bott
WIKIPEDIA PD
นอกจากนั้น รี ซึงมัน ก็ยังเริ่มอีกวัฒนธรรม ก็คือความที่ตัวเองมีอำนาจ มีกำลัง มีกองทัพ ก็ได้เรียกรับเงินสนุบสนุนจากนักธุรกิจซึ่งมีผลประโยชน์อิงแอบกับรัฐบาลแลกเปลี่ยนกับการได้ทำมาหากินแบบผูกขาด ได้รับการจัดซื้อจัดจ้าง ได้รับโครงการต่างๆ เขาก็ มีเงินมากมายมหาศาลในการเล่นการเมืองแบบสกปรก จนผ่านการเลือกตั้งมาได้อีกครั้ง ทั้งๆ ที่กระแส ก็ตกต่ำสุดๆ แล้ว
1
ประชาชนเลยฝากความหวังไว้ที่การเลือกตั้งรองปธน. ที่จัดขึ้นพร้อมกัน ซึ่งยังมีหวังเพราะมีฝ่านค้านลงแข่งด้วย ปรากฎว่า คนของ รี ซึงมัน ก็ยังชนะท่วมท้นถึง 80% แม้จะถูกจับได้ว่ามีบัตรเลือกตั้งที่กาไว้ล่วงหน้าเป็นร้อยๆใบ
ในปี 1960 เมื่อประชาชนเห็นว่าไม่สามารถสู้ในระบบได้ เลือกตั้งก็โดนโกง รัฐธรรมนูญก็โดนแก้ให้เหมาะกับเผด็จการไปเรื่อยๆ ประชาชนที่ทนไม่ไหวก็ออกมาชุมนุมกัน โดยมีจุดเริ่มต้นจากนักเรียน นักศึกษาและแรงงาน ก่อนจะลุกลามไปทั่วประเทศเป็นครั้งแรกๆ (April 19 Movement) ประชาชนโกรธแค้นถึงขีดสุด ฟางเส้นสุดท้ายก็คือมีการพบศพเด็กมัธยมอายุแค่16 ปีถูกทิ้งในทะเล (the death of Kim Ju-Yul) โดยที่เด็กคนนี้หายตัวไปหลังเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่กี่วันก่อนหน้านั้น ความแค้นนี้ทำให้เกิดการลุกฮือที่ต่อเนื่องมาอีกถึงสองสัปดาห์ รี ซึงมัน ประกาศสภาวะฉุกเฉิน ทหารตำรวจใช้กระสุนจริงกับประชาชนมีคนเสียชีวิตไปถึง 186 คน แต่ก็ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้
สุดท้ายแล้ว รี ซึงมัน ก็ตัดสินใจหนี โดยขอความช่วยเหลือจาก CIA ให้เอาเครื่องบินพาเขาออกนอกประเทศ รี ซึงมัน ลี้ภัยอยู่ที่ฮาวายอีก 5 ปีก่อนจะเสียชีวิตไปในที่สุด
หลังจากที่ รี ซึงมัน ประธานาธิบดีที่นำพาให้ประเทศเกาหลีใต้เข้าสู่ความเป็นเผด็จการลี้ภัยไปแล้ว เกาหลีใต้ก็เข้าสู่ยุคใหม่ อำนาจกลับมาสู่พลเรือนอีกครั้งและเริ่มกระบวนการเข้าสู่ประชาธิปไตย มีการแก้รัฐธรรมนูญขนานใหญ่ จำกัดอำนาจของปธน.ให้น้อยลง เพิ่มอำนาจให้สภาที่ตั้งขึ้นมาใหม่ ใช้ระบบรัฐสภาอำนาจสู่สุดอยู่ที่นายกรัฐมนตรี นำโดยนายกรัฐมนตรี ชาง เหมียน (Chang Myun)
3
ช่วงนี้เป็นยุคที่ฝ่ายซ้ายเริ่มผลักดันการเมือง มีการตั้งสหภาพอาชีพต่างๆ มากมาย สหภาพครู สหภาพนักข่าว ในช่วงระยะเวลาเพียง 8 เดือนแรกของสาธาณรัฐที่สอง ประชาชนก็มีการเคลื่อนไหวน้อยใหญ่ในเรื่องต่างๆ ถึง 2 พันครั้ง และนายกรัฐมนตรี ชาง เหมียน ถูกกดดันให้เช็คบิลกับเครือข่าย ของนาย รี ซึงมัน มีคนถูกสอบสวนกว่า 4 หมื่นคน ข้าราชการและตำรวจหลายพันคนถูกขับออกจากตำแหน่ง มีการวางแผนปฎิรูปกองทัพ ลดขนาดให้เล็กลงเพราะสงครามเกาหลีจบลงไปแล้ว
แต่ ก็เต็มไปด้วยความน่าผิดหวังหลายเรื่อง รัฐบาลที่ชนะการเลือกตั้งมีคะแนนเสียงปริ่มน้ำเกินมาแค่ 2-3 ที่นั่งเท่านั้น ส่วนฝ่ายค้านก็คือฝ่ายอำนาจเก่า จึงทำให้การกวาดล้างเครือข่ายของ รี ซึงมัน ก็ล้มเหลวในสายตาประชาชน นักธุรกิจรายใหญ่และนายพลรวยๆ ยังลอยนวล แถมเศรษฐกิจก็แย่เอามากๆ ค่าเงินวอนตกต่ำ แค่ช่วงสั้นๆ ไม่ถึงปี ข้าวสารแพงขึ้นถึง 60 % อัตตราว่างงานพุ่งสูงเกิน 23 % เลยทีเดียว
1
WIKIPEDIA PD
คนเกาหลีใต้ มีเวลาให้พักหายใจจากทรราชย์คนก่อนอยู่เพียง 1 ปี ก็ต้องพบกับฝันร้ายครั้งใหม่ เศรษฐกิจไม่ดี สงครามเย็นรอบโลกกำลังเข้มข้น เมื่อสบโอกาส นายพล ปัก จุงฮี (Park Chung hee) ฉีกรัฐธรรมนูญทำรัฐประหาร ในวันที่ 16 พฤษาคม 1961 นายพลปัก จุงฮี ขอเวลา 2 ปี เพื่อแก้ไขปัญหาคอรัปชั่นที่ทำให้ประเทศเศรษฐกิจไม่ดี และฟื้นฟูกองทัพเพราะการปราบคอมมิวนิสต์และรวมประเทศเหนือใต้คือความจำเป็นอันดับหนึ่ง
ตอนหน้าเราจะมาดูกันว่านายพลปัก จุง ฮี จะขอเวลาแค่ 2 ปี จริงหรือไม่?
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
โฆษณา