27 เม.ย. 2020 เวลา 04:11 • ท่องเที่ยว
ตอนที่ ๒ สุดอากาศบนเกาะ กินและชม : วิ่งแหวกทะเล...สู่เกาะพิทักษ์ ชุมพร
ทะเลแหวกที่กล่าวถึง ไม่ใช่ทะเลแหวกให้คนเดินเหมือนในภาพยนตร์เรื่อง “บัญญัติสิบประการ” หรอกนะครับ แต่ทะเลแหวกก็เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นเมื่อน้ำทะเลลดแล้วเกิดสันทรายเป็นทางเดินยาวเชื่อมไปยังชายหาดของเกาะครับ
ในเมืองไทยมีทะเลแหวกที่มีชื่อเสียงมีอยู่หลายแห่งครับ ที่ดังที่สุดเท่าที่ทราบคือ “ทะเลแหวก” จังหวัดกระบี่ ซึ่งผู้เขียนเคยไปชมมาแล้ว ที่เคยไปอีกแห่งหนึ่งคือที่เกาะมัตตะโพน ปากน้ำชุมพร และที่กำลังเขียนถึงคือที่เกาะพิทักษ์ อำเภอหลังสวน นี่แหละครับ
รายการ “วิ่งแหวกทะเลสู่เกาะพิทักษ์” นั้น ได้จัดให้ประชาชนสนใจสมัครวิ่งแข่งขันระยะทางประมาณ ๑ กิโลเมตร ก็วิ่งตอนที่น้ำลดจนสามารถวิ่งจากชายฝั่งไปถึงเกาะพิทักษ์ได้นั่นแหละครับ
แต่ละปีมีนักวิ่งสมัครเข้าแข่งขันเป็นจำนวนมาก งานวิ่งแหวกทะเลสู่เกาะพิทักษ์ประจำปี ๒๕๖๒ ครั้งที่ ๑๕ เมื่อปีที่แล้ว มีคนลงทะเบียนทั้งหมดถึง ๗,๐๐๐ คน ไม่ทราบว่าปี ๒๕๖๓ จะมีเมื่อไร และจะจัดได้หรือไม่นะครับ
ครับ แล้วก็เดินทางถึงริมทะเลที่ขึ้นเรือไปเกาะพิทักษ์ มีสถานที่ให้จอดรถเรียบร้อย เดินไปที่เกาะพิทักษ์ตอนนั้นไม่ได้หรอกครับ เพราะทะเลยังไม่ “แหวก” ส่วนแหวกแค่ไหน นานหรือไม่ ต้องขึ้นกับสถานะการณ์ตามธรรมชาติครับ
นั่งเรือโต้คลื่นน้อยๆ ในทะเล ฟองน้ำแตกซ่า ได้บรรยากาศดีมากๆ ครับ
คุณธงชัย ได้จองที่พักที่เรือนปาริฉัตร โฮมสเตย์ ที่เกาะพิทักษ์ไว้ ที่เกาะนี้มีที่พักแบบโฮมสเตย์หลายแห่งครับ แต่หากไปในเทศกาลวิ่งแหวกทะเล ก็ต้องจองล่วงหน้าครับ
เรือจอดที่บันไดเรือนปาริฉัตร โฮมสเตย์ เลยครับ อาบน้ำอาบท่ากันแล้วก็นั่งมองทะเล ดูปูลมตัวน้อยๆ บนพื้นทรายในน้ำทะเลที่ใสแจ๋วเหมือนกระจกแล้วก็สบายใจ
สักครู่ก็เห็นเรือหาปลานำกุ้งหอยปูปลามาส่งที่เรือนปาริฉัตร ความสุขกายและสบายใจทำให้ลืมถ่ายรูปได้เช่นเดียวกันครับ
วันนั้นได้กินอาหารทะเลสดๆ กันทีเดียว อาหารเย็นวันนั้น นอกจากอาหารที่เรือนปาริฉัตร จัดอาหารทะเลซึ่งเพิ่งจับขึ้นมาหลายชนิดแล้ว ยังได้ผัดสะตอที่เราซื้อไปจากอำเภอสวีให้ด้วย
แหม กินกันอร่อยซิครับ คนปักษ์ใต้กินอาหารแม่ครัวใต้ปรุงซะอย่าง ซีฟู๊ด สะตอและใบเหลียง ใครว่าเข้ากันไม่ได้ อร่อยติดตาติดใจอยู่เลยครับ
ที่โฮมสเตย์ต้องรับสภาพนะครับ เพราะไม่เหมือนโรงแรม ผู้เขียนและภรรยาโชคดีคุณธงชัยจองมาก่อนและมาถึงก่อนจึงได้นอนในห้อง ห้องธรรมดาครับ มีฟูกให้นอน ไม่มีมุ้งแต่มีพัดลมให้ ๑ ตัว ครับ
ส่วนคุณธงชัยและภรรยาและนักท่องเที่ยวอีกหลายคนนอนนอกชานครับ มีพัดลมและไม่มีมุ้งเช่นกัน แต่ไม่ต้องกลัวยุงหรอกครับเพราะชายทะเลไม่ค่อยมี
คืนนั้นนอกไม่ค่อยหลับสนิทหรอกครับ แปลกที่เท่านั้นและครับ
รุ่งอรุณที่เกาะพิทักษ์ สวยอย่าบอกใครครับ
แล้วเราก็เดินไปดูเขาวิ่งกัน ไม่ได้สมัครวิ่งกับเขาหรอกครับ กลัวได้รางวัล และเพื่อเป็นการยืนยันว่าได้ถ่ายภาพกันที่เกาะพิทักษ์จริง ก็ต้องถ่ายกับป้ายชื่อเกาะซิครับ
ต่อจากนั้นก็เดินไปสำรวจทางวิ่งเข้าสู่เส้นชัยครับ ได้อากาศบริสุทธิ์ และได้ล้างปอดอย่างเต็มที่ อยู่ชายทะเลเช้าๆ อากาศดี รู้สึกโปร่ง โล่งและสบายอย่างบอกไม่ถูก
แล้วรายการวิ่งแหวกทะเล...สู่เกาะพิทักษ์ ชุมพร ก็ได้จัดกันในเช้าวันนั้น โดยนักวิ่งมีสองประเภท ประเภทแรกเดินทางมาถึงฝั่งตั้งแต่เช้ามืด ส่วนนักวิ่งที่มาพักที่เกาะพิทักษ์ต้องตื่นประมาณ ๔.๐๐ น. หลังจากอาบน้ำแต่งตัวแล้ว ก็นั่งเรือไปแผ่นดินใหญ่ เพื่อพร้อมวิ่งสู่เกาะพิทักษ์ในเวลา ๖.๑๙ น.
ปีนั้นผู้สมัครวิ่งเสียค่าสมัครคนละ ๒๕๐ บาท และได้รับเสื้อคนละ ๑ ตัว ส่วนรางวัลที่ได้รับไม่ได้เข้าไปดูในรายละเอียดครับ คนเยอะมากเข้าไม่ถึงครับ
ก็คงต้องขอย้ำว่า วิ่งแหวกทะเล...สู่เกาะพิทักษ์ ชุมพร นั้น จัดขึ้นปีละครั้ง ในเดือนมิถุนายนหรือกรกฎาคมของแต่ละปี โดยคำนวณวันที่น้ำลงมากที่สุด แล้วประกาศให้ผู้สนใจสมัครเข้าแข่งขันการวิ่งทราบเป็นการล่วงหน้า
เส้นทางที่จัดให้วิ่งนั้น บางตอนน้ำก็แห้งสนิท แต่บางช่วงบางตอนก็ยังมีน้ำอยู่บ้าง ประมาณครึ่งแข้ง แต่ก็สามารถวิ่งได้
เข้าไปดูนักวิ่งได้วิ่งเข้าสู่เส้นชัยกันครับ
แข่งขันกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็กินข้าวแบบบุ๊ฟเฟ่กันครับ ทั้งนักวิ่ง นักดูและนักท่องเที่ยว อยากกินอะไรก็เข้าไปหยิบกินกันครับ
หลังจากนั้น คณะของผู้เขียนก็กลับไปกินอาหารกลางวันกันที่เรือนปาริฉัตร โฮมสเตย์ ที่จริงยังไม่ทันเที่ยงเลยครับ ก็กินกันอีกแล้ว
อาหารเยอะมากครับ กินแต่กับก็ยังได้เลยครับ
หลังจากนั้น เราก็บ๊าย...บาย เกาะพิทักษ์ ไม่ได้ “แหวก” ทะเล อีกนั่นแหละครับ เพราะน้ำขึ้นแล้วครับ ขืนแหวกทะเลตอนกลับก็อาจจมน้ำกันบ้าง นั่งเรือกลับฝั่งกันครับ
เห็นภาพทะเลก็คิดถึงนะครับ ไม่ทราบว่าเมื่อไรจะได้เดินทางไปชมทะเลอีก
เดินทางถึงอำเภอเมือง จังหวัดชุมพร ไปปากน้ำชุมพร ผ่านเกาะมัตตะโพน ที่จริงไม่ต้องไปเกาะพิทักษ์เพื่อแหวกทะเลก็ได้ เพราะที่ปากน้ำชุมพร ราวเดือนพฤษภาคม มีงานวัดที่เกาะผู้คนสามารถเดินไปที่เกาะมัตตะโพนได้โดยไม่มีน้ำทะเลแม้แต่หยดเดียว แต่ก็ต่างกันที่ต่างมุมมองออกไปนะครับ
วันนั้นกินอาหารเย็นที่ร้านลุย ปากน้ำชุมพร ครับ ร้านนี้อร่อยมาก ไปชุมพรครั้งใดต้องไปกินที่ร้านลุยทุกครั้งครับ แนะนำโดยไม่ได้ค่าเปอร์เซ็นต์จากร้านเลยนะครับ ท่านผู้อ่านไปชุมพร หากมีเวลาต้องไปกินที่ร้านลุยนะครับ รับรองไม่ผิดหวังครับ
กินอาหารทะเแล้วก็ต้องโชว์อาหารครับ เห็นอะไรก็อร่อยไปหมด กินโดยไม่ต้องกลัวคลอเรสเตอรอลเลยครับ
คืนนั้นกลับไปนอนที่บ้านครับ ไมตรี กุลมาตย์ น้องสาวจัดให้นอนให้ในห้องมีแอร์เย็นฉ่ำ แน่นอนต่างกับคืนที่พักที่เกาะพิทักษ์มาก
สุดท้ายก็ขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพมหานคร
ต้องขอขอบคุณคุณธงชัย และคุณจรีรัตน์ (จอย) หนังสือ อีกครั้งหนึ่งที่ได้ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกเป็นอย่างดียิ่งครับ
พุธทรัพย์ มณีศรี
โฆษณา