ทุกข์ของสมาชิกกงสี เมื่อไม่ได้รับโอกาส
คนนอกต่างมองลูกหลานทายาทว่าเกิดมาโชคดีที่บ้านมีกิจการมั่นคง คงจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขแน่ๆ โพสต์นี้ผมจะมาเล่าด้านที่เป็นทุกข์บ้างครับ
ลูกหลานบางคน ไม่ได้ปรารถนาจะสืบสานต่อกิจการสักเท่าไร เนื่องจากตอนก็เรียนวิชาที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับธุรกิจกงสี และก็ไม่ได้มีความสนใจมากนักจึงไม่ได้รับโอกาสเข้าไปบริหารงาน ซึ่งก็ดูปกติ ไม่ได้เข้าไปก็ไม่ได้เข้าไป
แต่เมื่อ อยากทำธุรกิจที่ตัวเองชอบ อยากจะขอทุนสักก้อน ซึ่งก็ไม่ได้มากมายอะไรเทียบกับเงินที่กงสีมี ทำไมมันยากเย็นแสนเข็ญเช่นนี้ ผมขอรวบรวมเหตุผลไว้เป็นข้อๆดังนี้ครับ
1. ยังมองลูกๆหลานๆเด็กเสมอ ข้อนี้สมเหตุสมผลครับหากว่าลูกหลานคนนั้นยังเด็กเกินไปจริงๆเช่น เรียนยังไม่จบ หรือ เพิ่งจบมาไม่นาน ก็จะถูกมองแบบนี้เป็นปกติ แต่ข้อนี้ก็เป็นอคติอย่างนึงครับ เพราะไม่ว่าจะอายุเท่าไรอายุ30หรือ40 ยังไงก็จะถูกมองว่าเป็นเด็กขาดประสบการณ์เสมอ ต่อให้ไปทำงานข้างนอกเก่งอย่างไรก็ยากจะลบอคติข้อนี้ไปได้ จนกว่าจะพิสูจน์ให้เขาเห็นด้านธุรกิจ แต่ก็จะวนมาที่ปัญหาข้อนี้อีกเช่นกันครับเพราะ จะพิสูจน์อย่างไรในเมื่อไม่ได้มีโอกาสให้แสดงเสียที
2. ไม่เข้าใจธุรกิจใหม่ที่เสนอ ข้อนี้ก็เป็นปัญหาเช่นเดียวกันครับ เมื่อพ่อแม่เจ้าของเงินซึ่งเกิดมาคนละยุคกับเรา(น่าจะอยู่ในช่วงBaby Boomer) ดังนั้นเทรนธุรกิจมันได้เปลี่ยนไปเกือบหมดแล้วครับ ตัวอย่างเช่นย้อนไปสัก25-40ปีก่อน ยังเป็นยุคออฟไลน์ เช่น โรงงานผลิตสินค้าต่างๆ โรงสี โรงจำนำ ร้านทอง พัฒนาอสังหาฯ ขายวัสดุก่อสร้าง และอื่นๆ หวังว่าจะนึกออกนะครับว่าธุรกิจที่เกิดมานานแล้วก็จะมีประมาณนี้
ส่วนธุรกิจชนิดที่คนGen Y อยากจะทำในยุคดิจิตัลนี้ เช่น ธุรกิจเกี่ยวกับสุขภา ความงาม ค้าขายออนไลน์ พัฒนาแอพพลิเคชั่นต่างๆ ดังนั้นการไปขอเงินทุนเพื่อทำธุรกิจใหม่ๆจึงยากเข้าไปอีกครับ พอไม่เข้าใจธุรกิจก็จะพาลหาว่าเป็นธุรกิจที่เพ้อฝันด้วยซ้ำไปครับ ให้ลองคิดว่าจะไปกู้ธนาคาร แต่ธนาคารไม่เข้าใจแผนที่เราเขียนไว้เลยครับ ไม่เคยใช้บริการไม่เคยเห็นประโยชน์จากธุรกิจนี้ มันจะยากแค่ไหนที่ธนาคารจะยอมปล่อยสินเชื่อ
3.ความขัดแย้งภายในกงสี ข้อนี้เป็นปัญหาที่ยากจะแก้จริงๆครับ หากในกงสีประกอบด้วยสมาชิกหลายคน เช่น มีลุงป้าน้าอาเข้ามามีส่วนร่วมด้วย ยิ่งบรรดาลุงป้าน้าอาเหล่านี้ต่างมีครอบครัวมีลูกด้วยแล้วละก็ย่อมเกิดปัญหาได้ง่ายๆเลยครับ เพราะกงสีมีหลักการที่ว่าหากหาเงินเข้าบ้านมาได้ต้องนำมารวมกัน การที่จะขอเงินจากส่วนกลางแบบนี้ย่อมมีเจ้าของเงินหลายคนครับ ที่มาและรายละเอียดของปัญหาข้อนี้ผมจะแยกเขียนอีกโพสครับเพราะโพสนี้จะยาวเกินไป เอาเป็นว่าปัญหาข้อนี้อาจเกิดมาจากความขัดแย้งที่คาราคาซังกันมานานครับคนGen Yก็อาจไม่รับรู้มาก่อน จนส่งผลต่อการเบิกจ่ายเงินกงสีไปด้วย ข้อนี้สรุปง่ายๆว่าไม่มีใครเห็นด้วยในการเบิกจ่ายเงินครับไม่ได้เกี่ยวกับตัวธุรกิจที่เสนอ
4. เงินทุนที่ต้องการมากเกินไป ตัวอย่างเช่นหากกงสีจะต้องลงทุนธุรกิจใหม่แต่ต้องใช้เงินคิดเป็น20-30%ขึ้นไป (ตัวเลขนี้ผมคิดขึ้นเองนะครับ คิดว่าเป็นจำนวนมากพอที่จะทำให้เจ้าของเงินรู้สึกว่าจะเกิดความไม่มั่นคงหากเสียเงินจำนวนนี้ไป) ด้วยเจ้าของเงินมักเป็นคนยุค Baby Boomer ที่ผ่านเหตุการณ์ร้ายๆมาโดยเฉพาะวิกฤตปี40 ที่มักจะได้ยินบ่อยๆนะครับ จึงทำให้คนยุคนี้ค่อนข้าง conservative ประกอบกับอายุที่มากขึ้นยิ่งทำให้ไม่กล้าเสี่ยงเข้าไปใหญ่ วิธีแก้ข้อนี้ไม่ยากครับ ก็ต้องลดขนาดเงินลงทุนลงมาจนเจ้าของเงินไม่รู้สึกเสียดายนั่นเองครับ
หากเพื่อนๆเคยประสบปัญหาแบบใดรวมถึงมีวิธีแก้ไขอย่างไร สามารถคอมเม้นใต้โพสนี้ได้เลยครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
