27 เม.ย. 2020 เวลา 17:36 • ไลฟ์สไตล์
นิทาน วาฬเกยตื้น.......
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
ณ ท้องทะเลที่กว้างใหญ่แห่งหนึ่ง
มีวาฬหนุ่ม..ตัวหนึ่ง
ที่แหวกว่ายอยู่ท่ามกลางทะเลนี้ อย่างมีความสุข
วาฬเกยตื้น "รองเท้าแตะเหยียบดวงจันทร์"
ทุกวันมันจะลงไปดำน้ำเล่น
เป็นเพื่อนกับสัตว์ทะเลที่อยู่ใต้พื้นน้ำ
วันไหนที่อารมณ์ดี มันจะโผล่ขึ้นมาพ่นน้ำอย่างสบายใจ
วาฬหนุ่มตัวนี้ใช้ชีวิตอย่างอิสระเพียงตัวเดียว
ภายใต้ผืนทะเลแห่งนี้
สมัยก่อนมันเคยมีพ่อและแม่ที่ดูแล
และใช้ชีวิตครอบครัวที่มีความสุข
วันหนึ่งขณะที่ว่ายน้ำอยู่ตัวเดียว
ก็มีพายุลูกใหญ่พัดพามันออกมาไกลจากทะเลเดิม
จนออกมาไกลแสนไกล และหาทางกลับไม่ได้
วาฬหนุ่มใช้ชีวิตอย่างเดียวดายมาเรื่อยๆ
จนวันหนึ่งมันว่ายไปยังเกาะแห่งหนึ่ง
และได้ยินเสียงเพลงที่เพราะจับใจ
มันจึงว่ายไปใกล้ๆเกาะ
และพบเจ้าหญิงที่เป็นมนุษย์
เจ้าหญิงองค์นี้หน้าตาสวยงาม
มีผมสีทองและอยู่บนเกาะคนเดียว
เนื่องจากเรือของเธอโดนพายุและอับปาง
เจ้าหญิงยืนร้องเพลงบนโขดหินด้วยความเศร้าสร้อย
ความเศร้านั้นถูกถ่ายทอดเป็นบทเพลงที่ขับขาน
ราวกับการรอใครสักคนมาช่วยเหลือ
เป็นครั้งแรกที่วาฬหนุ่มได้ยินเสียงเพลงที่ไพเราะ
มันอยู่ฟังจนจบและว่ายน้ำหายไป
.
.
ทุกวัน...วาฬหนุ่ม จะว่ายมาฟังเสียงร้องเพลงที่ไพเราะ
นอกจากจะตั้งใจว่ายมาฟังแล้ว
มันยังคาบปลาแล้วโยนขึ้นบนเกาะให้เจ้าหญิงเสมอ
ความสัมพันธ์นี้ ผ่านมานับปี
จนวาฬหนุ่มรู้สึกว่ามันหลงรักเจ้าหญิงเข้าแล้ว
วันไหนที่เจ้าหญิงไม่ออกมาร้องเพลง
วาฬหนุ่มจะส่งเสียงร้องด้วยความเป็นห่วง
และว่ายวนเวียนจนกว่าเจ้าหญิงจะออกมา
วาฬหนุ่มรู้สึกมีความสุขที่ใช้ชีวิตเช่นนี้
มันฝันตลอดว่าวันหนึ่งจะพาเจ้าหญิงออกจากเกาะ
แล้วพาท่องทะเลแห่งนี้ด้วยกัน
.
.
เวลาผ่านไปอีกหนึ่งปี
ก็มีเรือโจรสลัดเข้ามาที่เกาะ
โจรสลัดนั้นพาเจ้าหญิงขึ้นเรือแล้วแล่นออกไป
.
วาฬหนุ่มเห็นดังนั้นจึงเร่งว่ายตามเรือโจรสลัด
หมายช่วยเจ้าหญิงในทันที
.
.
มันว่ายน้ำทะเลไม่ยอมหยุดเพื่อไล่ตามเรือลำนี้
ทุกครั้งที่มันเหนื่อยและถอดใจ
มันจะได้ยินเสียงร้องเพลงของเจ้าหญิง
ที่เต็มไปด้วยความเศร้า ดังแว่วเข้ามาเสมอ
ทำให้มันมีเรี่ยวแรงและว่ายต่อไป
จากวันเป็นเดือนและเป็นปี
จนวาฬหนุ่มผ่ายผอม
มันไม่ได้สนใจอะไร
นอกจากว่ายน้ำไล่ตามเรือโจรสลัด
เพื่อช่วยเจ้าหญิงเท่านั้น
จนกระทั่งวันหนึ่ง
มันไล่ตามเรือโจรสลัดจนถึงเกาะใหญ่แห่งหนึ่ง
มันว่ายสุดกำลังแล้วพุ่งตัวเข้าใส่เรือโจรสลัดทันที
แต่ระยะที่พุ่งนั้นไกลเกินไป
มันจึงทำได้แค่ชนกับท้ายเรือไม่แรงมาก
แต่ก็ได้บาดแผลที่หัวจนเลือดไหลอาบ
มันยกครีบที่ใหญ่โต หมายพุ่งชนอีกครั้ง
แต่น่าเสียดาย ...
.
ตอนนี้น้ำทะเลที่เคยโอบอุ้ม
ร่างอันใหญ่โตของมันไม่มีอีกแล้ว
.
มีแต่ผืนทรายที่หยาบกระด้าง
ทันใดมันรู้ตัวทันทีว่า....มันกำลังเกยตื้น
นี่คือสิ่งที่อันตรายที่สุด
ที่พ่อและแม่ของมันย้ำเตือนเสมอ
เมื่อรู้ว่าไม่สามารถกลับลงทะเลได้อีกครั้ง
วาฬหนุ่มจึงร้องเสียงดัง เพื่อเรียกหาเจ้าหญิง
และหวังจะได้พบหน้าเป็นครั้งสุดท้าย
แต่อนิจจา.....
.
เจ้าหญิงกลับเดินลงไปอีกทางพร้อมหัวหน้าโจรสลัด
.
.
“เจ้าทำได้ดีมากสามารถล่อวาฬตัวใหญ่มาถึงเมืองนี้ได้
โดยที่พวกข้าไม่ต้องออกแรง”
“ข้าบอกท่านแล้ว ว่าวาฬตัวนี้มันชอบฟังข้าร้องเพลง
ขนาดข้าหลบหน้ามัน มันยังว่ายวนเวียนเพื่อฟังเพลงของข้า”
“ไปเถอะไปหาพ่อค้ามาซื้อมัน แล้วเอาเงินไปจัดงานแต่งงานของเราดีกว่า”
.
หัวหน้าโจรสลัดเดินจูงมือเจ้าหญิงและหายไปในตลาด
.
.
.
เช้าวันรุ่งขึ้น วาฬหนุ่มก็ส่งเสียงร้องเรียกหาเจ้าหญิง
เป็นครั้งสุดท้ายและสิ้นลม
.
ในเวลานั้นชาวประมงชราและเด็กชายคนหนึ่ง
ก็ผ่านมาเห็นเข้าพอดี เด็กน้อยจึงเอ่ยถามว่า
“ปู่ วาฬตัวนั้นมันร้องทำไม?”
“ใครจะรู้ มันคงร้องให้ช่วยมั้ง”
.
.
“แล้วทำไม วาฬตัวใหญ่ถึงมาอยู่บนชายหาดได้?”
ชายชรามองที่วาฬหนุ่มสักพัก ก่อนตอบว่า....
.
.
.
“มันก็คงเป็นแค่วาฬ...ที่"หลง"ทาง...
จนลืมทางกลับบ้าน...เท่านั้นเอง”
.
.
“รองเท้าแตะเหยียบดวงจันทร์”
.
.
.
ปล.นิทานเรื่องนี้แต่งขึ้นหลังจากได้ฟังเพลง“วาฬเกยตื้น”
ของ GUNGUN
โดยลองพยายามแต่งให้เศร้าน้อยกว่าเรื่องอื่นๆที่เคยแต่ง
เพื่อให้เข้ากับทำนองและเนื้อเพลงที่น่ารักของเขานะครับ
ลองอ่านแล้วไปฟังเพลงต้นฉบับ ที่มาของนิทานได้ที่
โฆษณา