Blockdit Logo (Mobile)
สมองจ๋า
•
2 พ.ค. 2020 เวลา 02:00 • ท่องเที่ยว
จากเมืองที่เคยเต็มไปด้วยรอยพ่นสีกลับกลายเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวอยากไปถ่ายรูปมากที่สุด!!!
ลิสบอน (Lisbon) เป็นเมืองหลวงขนาดใหญ่ของประเทศโปรตุเกสตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกบริเวณริมชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกของคาบสมุทรไอบีเรียมีประชากรราว 564,657 คน และมีผู้อาศัยในเขตรอบนอกอีกประมาณ 2,760,723 คน
เมืองแห่งนี้ประสบปัญหาการพ่นกำแพงอย่างหนักทั้งบริเวณตึก อาคาร กำแพง สวนสาธารณะ ฯลฯ ทุกที่ล้วนมีแต่คราบสีของเหล่ามือดีเต็มไปหมด
นั่นทำให้รัฐต้องสูญเสียงบประมาณในการทำความสะอาดโดยใช่เหตุและเปล่าประโยชน์ เพราะทุกครั้งที่มีการทำความสะอาดทีไรก็จะคอยมีผู้แอบมาพ่นสีตลอดเวลา เลยทำให้สภาเมืองต้องนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมกันเป็นการใหญ่เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว
มาถึงตรงนี้สภาเมืองที่นำโดยนายอังตอนียู กอชตา ก็ต้องมานั่งคุยกันแล้วนะครับว่าจะเอายังไงต่อกับสถานการณ์ในตอนนั้นดี เพราะดูเหมือนว่าหากปล่อยไว้แบบนี้คงไม่เป็นผลดีต่อประชาชนและเสียภาพลักษ์ของเมืองแน่ โดยเฉพาะอาจกระทบถึงรายได้จากการท่องเที่ยวในระยะยาวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เมื่อเป็นเช่นนี้ วิธีแก้มีสองแนวทาง วิธีแรกคือการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด คือต้องมีการจับกุมและลงโทษผู้ฝ่าฝืนที่รุนแรงและเคร่งครัด พูดง่ายๆ คือใช้กฎหมายเข้ามาควบคุมพฤติกรรมและสังคมเพื่อไม่ให้ผู้กระทำผิดกล้าฝ่าฝืน
ส่วนอีกวิธีตรงข้ามกับวิธีแรกโดยสิ้นเชิง นั่นคือใช้มาตรการปะนีปะนอมด้วยการสนับสนุนให้พ่นกำแพงได้แต่มีเงื่อนไขคือ ต้องขออนุญาติและเสนอโปรเจคของคุณต่อสภาเมืองก่อน แล้วหลังจากนั้นถึงจะพ่นสีได้แต่ทั้งนี้ก็ต้องอยู่ในขอบเขตพื้นที่ที่รัฐอนุญาติด้วย เช่น เขต Calçada da Glória หรือบางที่อาจพิจารณาให้พ่นได้เลยไม่ต้องขออนุญาต เช่น ในเขต Largo da Oliveirinha เป็นต้น
ทีนี้เมื่อแนวทางการแก้มีสองวิธีแบบนี้ สภาเมืองก็ต้องมาวิเคราะห์และประชุมกันดูแล้วล่ะครับว่าควรจะเลือกวิธีไหนดี
ซึ่งผลสรุปที่ได้คือสภาเมืองในขณะนั้นพิจารณาดูแล้วเห็นว่า สถานการณ์การพ่นสีในเมืองคงไม่อาจสั่งห้ามด้วยกฎหมายได้เพราะหากรัฐเข้าไปเข้มงวดมากเกินไป อาจเกิดการประท้วงหรือแอบแห่กันมาแสดงผลงานศิลปะกันเต็มเมืองเลยก็ได้
โดยเฉพาะนายอังตอนียู กอชตา นายกของโปรตุเกสเองก็ต้องการสนับสนุนงานศิลปะแบบนี้ให้ถูกกฎหมายด้วยเช่นกัน
ดังนั้นสภาเมืองจึงใช้วิธีการสนับสนุนการพ่นสีเหล่านี้ดีกว่า เพราะเหตุผลแรกเลยคือ ทำให้คนได้ออกมาปลดปล่อยผลงานศิลปะของตนเองตามต้องการ ไม่ต้องหลบๆซ่อนๆ แอบแสดงงานศิลปะเหมือนแต่ก่อน แถมยังทำให้ศิลปินสายสตรีทที่อยากมาพ่นสีแบบนี้ต้องพัฒนาฝีมือด้วย เพราะไม่ใช่ว่าทุกคนจะมาพ่นสีได้นะครับ คุณต้องนำเสนอผลงานของคุณต่อเมืองก่อนว่าจะผ่านหรือไม่ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับฝีมือคุณด้วยว่าเจ๋งพอที่จะได้รับการคัดเลือกหรือเปล่า
และที่สำคัญ นี่อาจเป็นการสร้างแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งในเมืองเลยก็ได้ เพราะปัจจุบันงานกราฟฟิตี้พ่นสีแบบนี้ก็ได้รับความนิยมไม่น้อยในหมู่นักท่องเที่ยวเลยทีเดียว
โดยทางเมืองจะมีองค์กรที่ชื่อ Urban Art Galery (GAU) ทำหน้าที่ควบคุมดูแลงานกราฟฟิตี้ในเมืองลิสบอนทั้งหมดและคอยคัดเลือกผู้ยื่นผลงานของตนเองเข้ามาว่าจะได้แสดงฝีมือกันหรือไม่
และไม่น่าเชื่อครับว่าวิธีการดังกล่าวจะได้ผล เพราะหลังจากสภาเมืองประกาศใช้มาตรการดังกล่าวแล้ว ก็ทำให้เหล่าศิลปินสายสตรีทออกมาปฏิบัติตามกฎกันอย่างเคร่งคัด แถมเกิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเกี่ยวกับงานกราฟฟิตี้แห่งใหม่ของประเทศขึ้นมาอีกด้วย
ซึ่งนี่ก็เป็นบางส่วนของผลงานศิลปะกราฟฟิตี้ในเมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส
ปัจจุบันสถานที่ในภาพเหล่านี้กลายเป็นแหล่งถ่ายรูปชื่อดังของนักท่องเที่ยวที่มาในเมืองลิสบอนไปแล้วนะครับ ซึ่งจะว่าไปแนวทางการแก้ปัญหาของที่นี่ก็นับว่าใช้ได้เลย เพราะได้ทั้งงานศิลปะ ได้ทั้งแหล่งท่องเที่ยวใหม่ และได้สนับสนุนคนที่อยากแสดงผลงานของตนเองอีกด้วย
ส่วนในบ้านเรา ณ ขณะนี้การพ่นสีตามที่สาธารณะถือว่าผิดกฎหมายนะครับ เช่น พรบ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 มาตรา 12 ได้ระบุไว้ว่า
"ห้ามมิให้ผู้ใด ขูด กระเทาะ ขีด เขียน พ่นสี หรือทำให้ปรากฏด้วยประการใด ๆ ซึ่งข้อความ ภาพ หรือรูปรอยใด ๆ ที่กำแพงที่ติดกับถนน บนถนน ที่ต้นไม้ หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของอาคารที่อยู่ติดกับถนนหรืออยู่ในที่สาธารณะ เว้นแต่จะเป็นการกระทำของราชการส่วนท้องถิ่น ราชการส่วนอื่นหรือรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานที่มีอำนาจกระทำได้ "
และถ้าหากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท ตามมาตรา 56 ของ พรบ. ฉบับนี้
หรือพูดง่ายๆ เลยก็คือ สถานที่ที่ติดกับถนนหรือพื้นที่สาธารณะห้ามพ่นสีเด็ดขาด ซึ่งหมายความรวมไปถึงกำแพงบ้านของตัวเองด้วยนะครับ ถ้าหากกำแพงบ้านคุณอยู่ติดกับถนน คุณจะพ่นงานกราฟฟิตี้ในแถบกำแพงด้านนอกที่ติดกับถนนไม่ได้ แต่ถ้าพ่นในแถบกำแพงข้างในบ้านอันนี้ทำได้เลยครับกฎหมายไม่ว่าอะไร
แต่อีกประเด็นคือถ้าหากรัฐอนุญาตให้พ่นก็ทำได้เลยเช่น เทศบาลสนับสนุนให้พ่นงานศิลปะเพื่อโปรโมทการท่องเที่ยว การแสดงผลงานแบบนี้ถือว่าไม่ผิดกฎหมายเช่นกันครับ
ส่วนใครมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้สามารถแสดงความคิดเห็นกันได้เลยเด้อออ
❤️
รัก
โฆษณา