30 เม.ย. 2020 เวลา 07:26 • การศึกษา
ว.24 หลักเกณฑ์ และวิธีการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู
การย้าย หมายถึง การแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูให้ดำรงตำแหน่งเดิมในสถานศึกษาอื่น ซึ่งอาจเป็นการย้ายไปดำรงตำแหน่งว่าง การย้ายสับเปลี่ยนกับตำแหน่งที่มีคนครอง หรือการย้ายตัดโอนตำแหน่งและอัตราเงินเดือน
การย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู มี 3 กรณีดังนี้
1 การย้ายกรณีปกติ ได้แก่ การย้ายตามคำร้อง
2 การย้ายกรณีพิเศษ ได้แก่ การย้ายตามคำร้อง เนื่องจาก ติดตามคู่สมรส เจ็บป่วยร้ายแรง ถูกคุกคามต่อชีวิต เพื่อดูแลบิดามารดาคู่สมรสหรือบุตรซึ่งเจ็บป่วยร้ายแรงหรือทุพพลภาพ
3 การย้ายกรณีเพื่อความเหมาะสมและประโยชน์ของทางราชการ ได้แก่ เพื่อบริหารจัดการในสถานศึกษา และเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาหรือเกลี่ยกำลังอัตราของสถานศึกษา
คุณสมบัติผู้ขอย้ายกรณีปกติ
1 ได้ปฏิบัติงานในตำแหน่งครูของสถานศึกษาปัจจุบันติดต่อกันมาแล้วไม่น้อยกว่า 24 เดือน นับถึงวันสุดท้ายที่กำหนดให้ยื่นคำร้องขอย้าย
2 ไม่อยู่ระหว่างลาศึกษาเต็มเวลา
3 การย้ายสับเปลี่ยนกับตำแหน่งที่มีคนครอง ต้องมีอายุราชการหรือไม่น้อยกว่า 24 เดือน นับถึงวันที่ 30 กันยายน ของปีที่ครบเกษียณอายุราชการ
ส่วนครูผู้ช่วย จะต้องปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาปัจจุบันไม่น้อยกว่า 4 ปี (ครูผู้ช่วย2+ครู2) และไม่อยู่ระหว่างลาศึกษาต่อเต็มเวลา
ผู้ประสงค์ขอย้ายให้ยื่นคำร้องขอย้ายตามแบบคำร้องย้ายที่ ก.ค.ศ. กำหนดได้ปีละ 1 ครั้ง ในเดือนมกราคมของทุกปี เป็นเวลา 15 วันทำการ ยื่นคำร้องย้ายได้เพียงเขตพื้นที่การศึกษาเดียว
คำร้องขอย้าย ใช้สำหรับการพิจารณาย้ายได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคมของปีเดียวกัน พิจารณาย้ายปีละ 2 รอบ รอบที่ 1 ระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์ถึง 15 มีนาคมและรอบที่ 2 ระหว่างวันที่ 15 กันยายนถึง 15 ตุลาคม
คำร้องขอย้าย ได้ไม่ได้รับพิจารณา ให้ย้ายภายในวันที่ 31 ธันวาคม ให้ถือว่าคำร้องนั้นเป็นอันยกเลิก
การพิจารณาคำร้องขอย้ายของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ให้ อกศจ. เป็นผู้พิจารณากลั่นกรองการย้าย กศจ. พิจารณาอนุมัติ
องค์ประกอบการพิจารณาย้าย ให้ยึดหลักธรรมาภิบาล และคำนึงถึงประโยชน์ที่ทางราชการจะได้รับเป็นสำคัญ
การพิจารณา การย้าย ของ กศจ. ให้พิจารณาการย้ายพร้อมกันทุกเขตพื้นที่การศึกษาในภาพรวมของจังหวัด โดยพิจารณาจาก
1 ความรู้ความสามารถประสบการณ์หรือวิชาเอกตามความจำเป็นของสถานศึกษา
2 ลำดับสถานศึกษาที่ผู้ขอย้ายมีความประสงค์จะย้ายไปปฏิบัติงาน
3 ระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งหรือปฏิบัติหน้าที่ในสถานศึกษาปัจจุบัน
4 สภาพความยากลำบากในการปฏิบัติงานในสถานศึกษาปัจจุบัน
5 เหตุผลการขอย้าย
6 ความอาวุโสตามหลักราชการ
7 ความเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษา
การย้ายกรณีพิเศษ
1 ต้องมีหลักฐานทางราชการ หรือทางการแพทย์แผนปัจจุบันแล้วแต่กรณี ตลอดจนความเห็นและคำรับคำร้องของผู้บังคับบัญชาชั้นต้นประกอบการพิจารณา
2 ผู้ขอย้ายยื่นคำร้องขอย้ายได้ตลอดปี เมื่อคำร้องได้รับการพิจารณาผลเป็นประการใดแล้วถือเป็นอันยุติ
การย้ายกรณีเพื่อความเหมาะสมและประโยชน์ของทางราชการ
1 ย้ายเพื่อแก้ปัญหาในการบริหารจัดการในสถานศึกษา ให้คำนึงถึงความเหมาะสมประโยชน์ของทางราชการและความเป็นธรรมแก่ผู้นั้นด้วย
2 ย้ายเพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา กรณีที่สถานศึกษามีความจำเป็นต้องการ ผู้มีความรู้ความสามารถประสบการณ์หรือวิชาเอกตรงตามความจำเป็น
3 ย้ายเพื่อเกลี่ยอัตรากำลังของสถานศึกษา กรณีมีอัตรากำลังเกินกรอบ
ทั้งนี้ การย้ายเพื่อความเหมาะสมและประโยชน์ของทางราชการ ให้อยู่ในดุลพินิจของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือสำนักงานการศึกษาพิเศษ
การย้ายทุกกรณี สถานศึกษาจะรับย้ายต้องมีอัตรากำลังสายงานการสอนไม่เกินตามเกณฑ์ที่กำหนด
การย้าย
ยื่นคำขอกับผู้บังคับบัญชาชั้นต้นโดยกรรมการสถานศึกษาเสนอความเห็นประกอบ
ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 ผู้อำนวยการโรงเรียน ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เลขา กพฐ. สั่งย้ายโดยอนุมัติ กศจ.
การย้ายภายในจังหวัดเดียวกัน ให้ กศจ. นั้นพิจารณาอนุมัติ
การย้ายไปจังหวัดอื่น ให้ กศจ. ที่รับย้ายอนุมัติ
ไปช่วยราชการในเขตพื้นที่การศึกษา ผู้อำนวยการสำนักงานเขต สั่งย้าย โดย กศจ. พิจารณาอนุมัติ
ไปช่วยราชการ ต่างเขตพื้นที่การศึกษา เลขา สพฐ. อนุมัติ
ทางนี้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่ได้รับการพิจารณาให้ย้าย รายงานตัวเข้าปฏิบัติหน้าที่ในสถานศึกษาใหม่ ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับคำสั่ง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา