1 พ.ค. 2020 เวลา 02:45 • กีฬา
หลุยส์ ซาฮา กองหน้าอับโชค Part 1/2
มันสมอง ร่างกาย จิตใจ และโชคชะตา หากนักเตะคนใดมีครบทั้งสี่คุณสมบัติ ก็มีโอกาสที่จะพัฒนาเป็นนักเตะระดับโลกได้
หลุยส์ ซาฮา กองหน้าระดับแชมป์เปี้ยนชิพที่สร้างความประทับใจให้เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้ตั้งแต่แรกเห็น กองหน้าที่มีคุณสมบัติครบถ้วนที่กองหน้าทุกคนควรมี ขาดแต่เพียงโชคชะตาที่พรากเขาให้ไกลจากคำว่า “ระดับโลก”
--- จุดเริ่มต้น ---
หลุยส์ โลร็อง ซาฮา หรือ หลุยส์ ซาฮา เกิดเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 1978 ณ กรุงปารีส เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส ในช่วงวัยเยาว์ เขาเข้ารับการบ่มเพาะฝีเท้าที่ศูนย์ฝึกฟุตบอลแกลร์ฟงแต็ง หรือ INF Clairefontaine ที่อยู่ห่างจากกรุงปารีสไปทางตะวันตกเฉียงใต้ ประมาณ 50 กิโลเมตร เป็นสถาบันเดียวกันที่ปลุกปั้นตำนานดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศสและสโมสรอาร์เซน่อล เธียร์รี่ อองรี และสุดยอดกองหน้าชาติเดียวกัน คีเลียน เอ็มบัปเป้
หลังจากที่เขาใช้เวลาขัดเกล้าฝีเท้าในศูนย์ฝึกแกลร์ฟงแต็ง ประมาณ 3 ปี ในปี 1995 เขาได้เซ็นต์สัญญาฉบับแรกกับสโมสรเม็ตซ์ (FC Metz) ทีมในลีคสูงสุดของประเทศ สโมสรเดียวกับโรแบร์ ปิแรส ตำนานชาวฝรั่งเศสอีกคนของทีมปืนใหญ่
ในช่วงแรกภายใต้ชายคาสโมสรใหม่ ซาฮาเก็บเกี่ยวประสบการณ์กับทีมเยาวชนของสโมสรเป็นหลัก แต่ผลงานในระดับเยาวชนของเขาก็เฉิดฉายไม่ใช่น้อย เขาติดทีมเยาวชนทีมชาติแทบทุกรุ่น ไล่ตั้งแต่ U17 U18 U20 และ U21
โดยเฉพาะในปี 1997 การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ซาฮาเป็นกำลังสำคัญพาทีมชาติฝรั่งชาติเป็นแชมป์ในรอบแบ่งกลุ่ม ด้วยการเก็บชัยชนะรวดทั้ง 3 แมทช์ จนทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ โดยเข้าไปชิงแชมป์กับทีมชาติโปรตุเกส ของซีเมา ซาโบรซา อีกหนึ่งตำนานชาวโปรตุกีส และสุดท้าย หลุยส์ ซาฮา เป็นผู้ยิงประตูชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษ พาทีมชาติฝรั่งเศสคว้าแชมป์ยุโรปในรุ่นเยาวชนมาได้สำเร็จ
ด้วยผลงานที่น่าประทับใจในนามทีมชาติ ในปีเดียวกันเขาได้ถูกดึงเข้าสู่ทีมชุดใหญ่ของเม็ตซ์อย่างเต็มตัว แต่เขากลับไม่ได้รับโอกาสให้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเลยสักเกมส์เดียว สิ้นสุดฤดูกาลแรกในลีคสูงสุด เขาได้รับโอกาสลงสนาม 437 นาที ในฐานะตัวสำรอง ยิงได้ 1 ประตู กับใบเหลืองอีก 1 ใบ
ฤดูกาล 1998-1999 สโมสรได้ลงชิงชัยในรอบคัดเลือกของรายการยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก เพื่อคว้าตั๋วสำหรับการผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่ม สโมสรจึงมีการดึงตัวผู้เล่นใหม่เข้ามาเตรียมความพร้อมในช่วงซัมเมอร์ โอกาสในการจะสอดแทรกเป็น 11 ผู้เล่นตัวจริงของ ซาฮา จึงดูเหมือนแสงไฟหริบหรี่ที่ปลายอุโมงค์ ช่วงครึ่งฤดูกาลแรกผ่านไป เขาได้โอกาสลงสนามเพียง 6 นัด รวมทุกรายการ และยิงประตูไม่ได้เลย
แต่ด้วยความสูง 185 เซนติเมตร มีความคล่องแคล่วพอตัว บวกกับรูปร่างกำยำ พอฟัดพอเหวี่ยงสู้กับกองหลังคู่แข่ง เรียกได้ว่าสมรรถนะด้านร่างกายครบถ้วนตามตำรากองหน้า สโมสรนิวคาสเซิล ได้ตัดสินใจยืมตัวซาฮา ข้ามฟากมายังเกาะอังกฤษในเดือนมกราคม 1999 ช่วงตลาดซื้อขายกลางฤดูกาล ซาฮาตอบรับข้อเสนอเพื่อโอกาสที่จะได้ลงสัมผัสพื้นหญ้าให้มากขึ้น ตลอดครึ่งฤดูกาลหลังเขาได้ลงสนามทั้งสิ้น 11 นัด ยิงได้ 1 ประตู
หลังจากฝึกสกิลลูกหนังในดินแดนผู้ดี 6 เดือนเต็ม ฤดูกาลถัดมา เขากลับมาต่อสู้เพื่อตำแหน่งตัวจริงกับทีมต้นสังกัดในฝรั่งเศสอีกครั้ง ครานี้แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ดูจะสดใสขึ้น
ตลอด 34 นัดของลีคสูงสุด เขาได้รับโอกาสลงสนาม 23 นัด โดยได้รับเลือกเป็น 11 ผู้เล่นตัวจริง ถึง 19 เกมส์ แต่ด้วยความด้อยประสบการณ์ในเวทีระดับสูง ทำให้เขายิงประตูคู่แข่งได้เพียง 4 ลูกเท่านั้น และมักจะเป็นตัวเลือกแรกที่ถูกเปลี่ยนตัวออกอยู่บ่อยครั้ง
--- ฉายแสงบนเกาะอังกฤษ ---
หลังพลาดโอกาสในการยึดตำแหน่งกองหน้าเบอร์หนึ่งของทีมในฤดูกาลก่อน อนาคตของเขาบนแผ่นดินบ้านเกิดดูเหมือนจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ในช่วงเวลาดังกล่าวผลงานเก่าที่เขาทิ้งไว้บนเกาะอังกฤษเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ได้เริ่มพลิกดอกออกผล ฌอง ติกาน่า ผู้จัดการสโมสรฟูแล่มในขณะนั้น ได้ตามดูผลงานของเขาตั้งแต่ช่วงที่เขาเล่นให้กับทีมสาลิกาดง และเป็นทีมเจ้าสัวน้อยแห่งเกาะอังกฤษ ได้ยื่นข้อเสนอ 2.1 ล้านปอนด์ให้เม็ตซ์พิจารณา เพื่อเป็นค่าตัวของซาฮา
ในขณะนั้นฟูแล่มอยู่ในช่วงกำลังสร้างทีมเพื่อลุ้นคว้าตั๋วเลื่อนชั้นไปสู่พรีเมียร์ลีก เพียงฤดูกาลแรกในสีเสื้อทีมเจ้าสัวน้อย ซาฮา ระเบิดฟอร์มสุดยอด ซัดไป 27 ประตู จากการลงสนาม 43 นัดในลีก คว้ารางวัลดาวซัลโว ก้าวขึ้นมาเป็นกองหน้าเบอร์หนึ่งของทีม พร้อมพาฟูแล่มเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกด้วยตำแหน่งแชมป์จากเดอะ แชมเปี้ยนชิพ
ส่วนในรายการ FA cup ฟูแล่ม จอดป้ายแค่รอบสาม หลังเปิดบ้านรับการมาเยือนของผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในแมทช์นั้น ยูไนเต็ด เอาชนะเจ้าบ้านไปได้ 1 ต่อ 2 แม้ซาฮาจะไม่มีชื่อเป็นผู้ทำประตู แต่ผลงานของกองหน้าชาวฝรั่งเศส วัย 22 ปี ได้ทำให้บรรดากองหลังของยูไนเต็ดปวดหัวไปตาม ๆ กัน
“เราจะเซ็นต์สัญญาหลุยส์ ซาฮา” เซอร์อเล็กซ์ พูดคุยกับแผงแบ็คโฟร์ที่ปะทะกับซาฮา ในหลังเกมส์วันนั้น
“จัดไป ครับ” แกรี่ เนวิลล์และผองเพื่อนตอบอย่างพร้อมเพรียง
นับจากนาทีนั้น ทุกย่างก้าวของกองหน้าผิวสี ชาวฝรั่งเศส ได้อยู่บนจอเรดาร์ของท่านเซอร์เรียบร้อย
ในฤดูกาลต่อมา ปี 2001-2002 นัดเปิดสนามของทีม คราวนี้ฟูแล่มต้องออกไปเยือนโรงละครแห่งความฝัน แน่นอนว่าทีมน้องใหม่ที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาในลีกสูงสุดดูแล้วเป็นรองทีมแชมป์เก่าอยู่หลายขุม บรรดากูรูลูกหนังฟันธงเป็นเสียงเดียวกันว่า ทีมเจ้าสัวน้อยน่าจะโดนผีแดงสอยร่วงได้ไม่ยาก แต่ความจริงไม่เป็นเช่นนั้น
เริ่มต้นเกมส์ได้เพียง 4 นาที ฌอน เดวิส วางบอลยาวให้หลุยส์ ซาฮา ดูดบอลลงอย่างนิ่มนวลบริเวณเส้น 30 หลา ปล่อยให้บอลตกลงพื้น เด้งไปข้างหน้าเล็กน้อย พร้อมใช้เท้าซ้ายข้างถนัดกระดกบอลข้ามหัว ฟาเบียง บาร์กเตซ นายทวารทีมผีแดง จากบริเวณเส้นหัวกระโหลก บอลลอยลงไปซุกก้นตาข่ายอย่างสวยงาม ทำเอาแฟนผีแดงอึ้งกันเป็นแถว ๆ เสียงเชียร์จากฝั่งผู้มาเยือนดังลั่นโรงละครแห่งความฝัน
หลังจากนั้นแมนฯยูไนเต็ด เดินหน้าเต็มสูบ และตามตีเสมอได้ในนาทีที่ 35 จากลูกฟรีคิกทีเด็ดของเดวิด เบ็คแฮม จบครึ่งแรกทั้งสองทีมเสมอกัน 1-1
เริ่มต้นครึ่งหลังได้แค่ 3 นาที ในนาทีที่ 48 สตีฟ มัลบรอง กองกลางชาวฝรั่งเศสของทีมเยือน ตัดบอลได้ตรงกลางสนาม แทงทะลุให้ซาฮา ซาฮาจับบอลพร้อมกระชากหนีแกรี่ เนวิลล์ กองหลังดีกรีทีมชาติอังกฤษของเจ้าถิ่น พร้อมสับไกด้วยขวา บอลเลียดหนีมือนายทวารหัวใสชาวฝรั่งเศสเบียดเสาเข้าประตูไป พาฟูแล่มขึ้นนำเป็นหนที่สอง
แม้ในท้ายที่สุด ทีมผีแดงจะแซงเบียดเอาชนะไปได้ 3 ต่อ 2 แต่ก็ถือเป็นการเปิดตัวที่น่าประทับใจไม่น้อยของหลุยส์ ซาฮา และทีมน้องใหม่อย่างฟูแล่ม หลังจบเกมส์แรกที่ Old Trafford ซาฮา ยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง ยิงประตูปิดกล่องให้ทีมเอาชนะซันเดอร์แลนด์ 2 ต่อ 0 ส่งผลให้เขาคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนตั้งแต่เดือนแรกที่ได้สัมผัสเกมส์ในลีกสูงสุด
แต่หลังจากนั้นผลงานของการทำประตูของซาฮาก็ไม่ได้เปรี้ยงปร้างเหมือนตอนต้นฤดูกาล จบ 38 แมทช์ เขาได้ลงสนาม 36 นัด ทำได้เพียง 8 ประตูเท่านั้น แต่เขาก็เป็นกำลังสำคัญช่วยฟูแล่มคว้าอันดับ 13 อยู่รอดในพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ
--- อาการบาดเจ็บ ---
ฤดูกาลถัดมา ซาฮายังคงเป็นตัวความหวังในการเบิกสกอร์ให้ทีมและเขาก็ไม่ทำให้แฟนบอลผิดหวัง ในนัดแรกของฤดูกาล 2002-2003 เขายิงจุดโทษตีเสมอให้ทีมในครึ่งแรก และช่วยให้สโมสรถล่มเอาชนะโบลตัน วันเดอร์เรอร์สไปได้ 4-1 เปิดสนามเกมส์แรกได้อย่างน่าประทับใจ
แต่เพียงการลงสนามแมทช์ที่ 4 ของฤดูกาล วันที่ 12 กันยายน 2002 ฟูแล่ม เปิดสนามรับการมาเยือนของทีมไก่เดือยทอง ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ในนาทีที่ 21 ขณะที่ทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0 หลุยส์ ซาฮา ได้รับบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ถูกเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่ช่วงกลางครึ่งแรก
ผลการตรวจโดยละเอียดพบว่า ซาฮาได้รับบาดเจ็บบริเวณแฮมสตริงหรือกล้ามเนื้อหลังต้นขา ในตอนแรกคาดว่าเขาต้องพักรักษาตัวราวหนึ่งเดือน แต่ผลลัพธ์กลับเลวร้ายกว่านั้นมาก เขาเข้ารับการผ่าตัดและใช้เวลาพักฟื้นเกือบ 4 เดือน
เขากลับมาลงสนามนัดแรกหลังการผ่าตัดในวันที่ 5 มกราคม 2003 ในเกมส์ที่ฟูแล่มดวลกับเบอร์มิงแฮม ซิตี้ ในการแข่งขัน FA cup รอบสาม เขาลงสนามครบ 90 นาที สามารถช่วยให้ทีมเอาชนะไปได้ 3-1 โดยเขาเป็นคนทำประตูที่สามให้ทีม
ดูเหมือนจะเป็นการกลับมาที่สวยงาม นัดต่อมาเขาก็ได้เล่นครบ 90 นาที เป็นแมทช์ออกไปยันเสมอกับโบลตันฯ แบบไร้สกอร์ หลังเกมส์วันนั้นเขาพบว่าร่างกายของเขายังไม่พร้อมกับการกลับมาลงเล่นในเกมส์การแข่งขันระดับสูง ทำให้เขาต้องใช้เวลาพักเพิ่มอีก 3 สัปดาห์ และกลับมาลงสนามได้อีกครั้งในฐานะตัวสำรองในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ เป็นเกมส์ที่ฟูแล่มต้องออกไปเยือนอาร์เซน่อล ที่สนามไฮบิวรี่
“หลังเกมส์กับโบลตันฯ ผมรู้สึกว่าผมใช้ร่างกายมากเกินไป ผมต้องการพักสัก 2-3 สัปดาห์ แต่มันไม่เกี่ยวอาการบาดเจ็บนะ”
“ผมคิดว่า ผมพยายามเร่งและซ้อมหนักเกินไป” ซาฮา กล่าวถึงสาเหตุที่เขาต้องพักเพิ่มเติม
แม้ว่ามันจะช่วงเวลาที่ยาวนานและยากลำบากสำหรับเขา แต่ซาฮายังคงมีจิตใจที่แข็งแกร่งและเชื่อว่าเขาได้ประโยชน์จากการบาดเจ็บครั้งนี้
“ในตอนแรกที่ผมบาดเจ็บ ผมรู้สึกแย่มาก ผมไม่มีความสุขเลย”
“แต่หลังจากนั้น ผมได้มีโอกาสดูเกมส์ในมุมมองที่กว้างมากขึ้น”
“ผมดูทุกเกมส์ พยายามวิเคราะห์วิธีการเล่นของทีม”
“มันทำให้ผมเข้าใจเกมส์มากยิ่งขึ้น มันเปิดมุมมองใหม่ให้ผม” เขากล่าวเพิ่มเติม
เมื่อเขากลับมาลงเล่นได้เต็มสูบ เขาช่วยให้ทีมเก็บคะแนนทิ้งห่างโซนตกชั้น จบฤดูกาลเขาลงสนามทั้งสิ้น 17 นัด ยิงได้ 5 ประตู ส่วนฟูแล่มได้อับดับที่ 14 ของตารางคะแนน อยู่รอดในลีคสูงสุดได้อีกปี
เปิดฤดูกาล 2003-2004 ซาฮา มาพร้อมกับร่างกายที่ฟิตเต็มถังและความมั่นใจเต็มเปี่ยม เขายิงประตูชัยพร้อมส่งให้เพื่อนทำประตูอีก 2 ลูก แบกฟูแล่มเอาชนะมิดเดิ้ลสโบรช์ไปได้ 3 ต่อ 2 ในนัดเปิดสนาม จากนั้นฟอร์มของเขาร้อนแรงต่อเนื่อง
ผ่านไป 21 นัดแรกในลีก เขาซัดไป 13 ประตู กับอีก 5 แอสซิสต์ พาฟูแล่มทะยานขึ้นอันดับ 7 ของตาราง มีลุ้นพื้นที่ยุโรป
ถ้าชอบเรื่องเล่านี้ Comment มาคุยกันครับ อย่าลืมกด Like กด Share เป็นกำลังใจสำหรับเรื่องเล่าเรื่องต่อไปด้วยนะครับ
- หวังว่าจะมีความสุขกับการอ่านนะครับ -
โฆษณา