1 พ.ค. 2020 เวลา 13:01 • กีฬา
มันยังคงเป็นคำถามโลกแตก ถ้าหากเกิดกรณีที่ฟุตบอลลีกแข่งกันไม่จบฤดูกาล ว่าระหว่างเลือก “โมฆะ/ยกเลิก” กับ “ตัดจบ” ทางไหนคือทางที่ดีกว่า
ภายในเวลาห่างกันแค่สัปดาห์เดียว เราเห็นตัวอย่างที่แตกต่างกันของ 2 ลีกดังในยุโรปแล้วนะครับ ว่าพวกเขาจัดการกับฤดูกาลที่ไม่สามารถแข่งกันให้จบครบโปรแกรมกันอย่างไร
เอเรดิวิซี่ ของเนเธอร์แลนด์ ใช้วิธี “ยกเลิก” ไม่มีทีมใดคว้าแชมป์รายการไหน และไม่มีการตกชั้น/เลื่อนชั้นใดๆ ทั้งสิ้นในซีซั่นนี้
ส่วน ลีก เอิง ของฝรั่งเศส ใช้วิธี “ตัดจบ” คือได้แค่ไหนเอาแค่นั้น มีตำแหน่งแชมป์ มีทีมตกชั้น และมีทีมเลื่อนชั้น
นั่นทำให้ฤดูกาลสุดท้ายที่ไม่มีทีมใดได้แชมป์ลีกสูงสุดแดนน้ำหอม ยังคงเป็นซีซั่น 1992-93 ที่ โอลิมปิก มาร์กเซย โดนริบแชมป์และปรับตกชั้นย้อนหลังจากข้อหาว่าจ้างล้มบอล
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เหมือนกันของทั้ง 2 ลีกในฤดูกาลนี้ ก็คือในส่วนของการคัดเลือกทีมได้โควตาไปเล่นฟุตบอลยุโรป พวกเขายังคำนึงถึงผลงานฤดูกาลล่าสุดเป็นหลัก
สมาคมลีกอาชีพฝรั่งเศส (แอลเอฟเป) ใช้มติจัดอันดับสโมสรในฤดูกาล 2019-20 ด้วย “แต้มเฉลี่ยต่อเกม” เนื่องจากมี 16 ทีมที่เตะไป 28 นัด และอีก 4 ทีมที่แข่งน้อยกว่า คือแค่ 27 นัด
ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง คว้าแชมป์ ลีก เอิง ฤดูกาล 2019-20 ไปครองอย่างเป็นเอกฉันท์ จากการที่มีคะแนนนำ โอลิมปิก มาร์กเซย ถึง 12 แต้ม แถม เปแอสเช แข่งน้อยกว่า 1 นัด ซึ่งแต้มเฉลี่ยต่อเกมของทีมของ โธมัส ทูเคิ่ล คือ 2.52 (68 แต้ม จาก 27 นัด)
ทีมมหาเศรษฐีจากกรุงปารีส จึงได้แชมป์ลีกแดนน้ำหอมเป็นฤดูกาลที่ 3 ติดต่อกัน และเป็นสมัยที่ 9 ในประวัติศาสตร์ ซึ่ง 7 ครั้งในจำนวนนั้น เพิ่งเกิดขึ้นในรอบ 8 ซีซั่นหลังสุด
ในส่วนของโควตาไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 ทีม นอกจากทีมแชมป์อย่าง เปแอสเช แล้ว ทีมที่ได้เข้ารอบแบ่งกลุ่มโดยอัตโนมัติอีกทีมคือ โอลิมปิก มาร์กเซย ที่รั้งอันดับ 2 มาอย่างยาวนาน
ซึ่งจากการที่เก็บไป 56 คะแนนจาก 28 นัด จึงมีแต้มเฉลี่ยต่อเกมที่ 2 แต้มพอดีโดยไม่มีจุดทศนิยม ทำให้ทัพโอแอ็ม ได้กลับสู่ UCL ครั้งแรกในรอบ 6 ปีเลยทีเดียว
ขณะที่ แรนส์ คว้าตั๋วไปลุยถ้วยหูโตเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร จากการได้อันดับ 3 โดยมีคะแนนเหนือกว่าอันดับ 4 อย่าง ลีลล์ ในฤดูกาลปกติเพียงแต้มเดียว จากจำนวนเกมแข่งเท่ากัน
แต่ว่า แรนส์ ต้องไปเริ่มเส้นทาง แชมเปี้ยนส์ ลีก ตั้งแต่รอบคัดเลือกรอบ 3 ซึ่งต้องผ่านด่านถึง 2 ด่าน ถึงจะได้เข้าสู่รอบแบ่งกลุ่ม
จากการที่รัฐบาลฝรั่งเศสไม่อนุญาตให้จัดแข่งกีฬาได้อีกจนถึงเดือนกันยายน ทำให้บอลถ้วยทั้ง 2 รายการอย่าง เฟร้นช์ คัพ และ เฟร้นช์ ลีก คัพ ยังไม่มีทีมแชมป์ และนั่นทำให้โควตา ยูโรปา ลีก ตกไปอยู่ที่อันดับ 5 และ 6 แทน หลังจากทีมอันดับ 4 อย่าง ลีลล์ ได้สิทธิ์นั้นอยู่แล้ว
เดิมที แอลเอฟเป ตั้งเป้าว่าเกมนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วย จะกลับมาแข่งกันได้ภายในเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งทีมแชมป์ที่ไม่ใช่ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง จะได้สิทธิ์ไปเล่น ยูโรปา ลีก ทันที
แต่หลังจากที่มีการยืนยันแล้วว่าทั้งศึก เฟร้นช์ คัพ และ เฟร้นช์ ลีก คัพ ไม่สามารถหาทีมแชมป์ได้ภายในเดือนสิงหา ทำให้ทีมอันดับ 5 อย่าง นีซ และอันดับ 6 อย่าง แร็งส์ เตรียมได้ส้มหล่นไปเล่นฟุตบอลถ้วยเล็กของยุโรปแทน
ในส่วนของการตกชั้น-เลื่อนชั้น ทีมอันดับ 19 และ 20 ของ ลีก เอิง อย่าง อาเมียงส์ และ ตูลูส ต้องรับสภาพว่าไม่ดีพอที่จะอยู่ต่อในลีกสูงสุด
ส่วน ลอริยองต์ กลายเป็นแชมป์ ลีก เดอซ์ อย่างกะทันหัน แม้จะมีคะแนนนำ ล็องส์ ทีมอันดับ 2 อยู่แค่แต้มเดียว โดยเหลือการแข่งขันอีกถึง 10 เกมก็ตาม
ลอริยองต์ กับ ล็องส์ ได้สิทธิ์เลื่อนชั้นกลับสู่ลีกสูงสุดของประเทศอีกครั้ง โดยที่ปีนี้ยกเลิกเกมเพลย์ออฟเลื่อนชั้น-ตกชั้น ระหว่างทีมอันดับ 18 ลีก เอิง กับทีมอันดับ 3 ลีก เดอซ์ ไป
นีมส์ จึงรอดตายจากการตกชั้นอย่างหวุดหวิด ขณะที่ อฌักซิโอ้ ต้องลุ้นเลื่อนชั้นใหม่ในฤดูกาลหน้าแทน
การตัดจบฤดูกาลในขณะที่หลายๆ ทีมยังมีโอกาสลุ้นเป้าหมายของตัวเองอยู่ แน่นอนว่ามันย่อมมีทีมที่เสียประโยชน์มากพอสมควร มันจึงไม่สามารถใช้คำว่า “แฟร์” ได้เต็มปาก
ตัวอย่างเช่นทีมอย่าง ลีลล์ ที่ได้อันดับ 4 จากการตามหลัง แรนส์ แค่แต้มเดียว พวกเขามีสิทธิ์ที่จะคิดเต็มที่ว่าถ้าหากแข่งกันต่อให้จบครบโปรแกรม พวกเขาก็อาจพลิกสถานการณ์ขึ้นมาอยู่เหนือกว่าได้
บางคนอาจจะบอกว่า “จะบ่นไปทำไม ถ้าเก่งจริง ทำไมไม่ทำให้อันดับดีกว่าตั้งแต่แรก” แต่ความเป็นจริงก็คือ รูปแบบการแข่งขันฟุตบอลลีก หัวใจหลักมันคือการแข่งกันระยะยาวแบบ “ทุกทีมเจอกันหมด”
และถ้าหากฤดูกาลมันมาจบก่อนกำหนดถึง 10 นัด แน่นอนว่าความยาก-ง่าย ของแต่ละทีมไม่มีทางเท่ากัน
ลีลล์ ผ่านการเจอกับทีมที่แข็งแกร่งอย่าง เปแอสเช, มาร์กเซย, ลียง ครบแล้วในซีซั่นนี้ และมี เฮด ทู เฮด ที่เหนือกว่าทีมอันดับ 3 อย่าง แรนส์ ชัดเจน (ชนะ 1 เสมอ 1) แต่กลับต้องถูกบังคับให้ยอมรับสภาพว่าเป็นทีมที่ทำผลงานได้แย่กว่า แรนส์ เพียงเพราะพวกเขามีคะแนนน้อยกว่าแค่แต้มเดียว
แรนส์ ยังเหลือโปรแกรมต้องเจอกับ เปแอสเช และ ลียง ในช่วงโค้งสุดท้าย และสถิติที่ผ่านมาในฤดูกาลนี้ ก็บอกว่าพวกเขามักทำได้แย่ในการเจอทีมใหญ่ตลอด
ถ้ากลับมาแข่งกันต่อจริงๆ บางที ลีลล์ อาจจะมีลุ้นพลิกสถานการณ์ขึ้นมาแซงก็ได้
ด้วยเหตุนั้น ต่อให้ใช้วิธีจัดลำดับด้วย “แต้มเฉลี่ยต่อเกม” มันก็ยังมีประเด็นให้ถกเถียงได้ ว่าลีกมันจบลงอย่างไม่แฟร์ ตราบใดที่แต่ละทีมไม่ได้เจอโปรแกรมการแข่งขันแบบเดียวกันอย่างแท้จริง
นั่นคือเหตุผลว่าทำไม เอเรดิวิซี่ ของเนเธอร์แลนด์ ถึงเลือกใช้วิธี “ยกเลิก” ซีซั่นนี้ ให้ไม่มีแชมป์ ไม่มีทีมตกชั้น-เลื่อนชั้นแทน เพราะทุกอย่างยังไม่มีอะไรทราบผล 100%
แต่บางทีอาจเป็นเพราะผลงานของ เปแอสเช ที่ยึดตำแหน่งอันดับ 1 ลีก เอิง มาอย่างยาวนาน ตรงกันข้ามกับความสูสีกันในการลุ้นแชมป์ระหว่าง อาแจ็กซ์ กับ อัลค์ มาร์ ทำให้สมาคมฟุตบอลลีกอาชีพฝรั่งเศสถึงไม่สามารถใช้วิธีแบบเดียวกันได้ กับที่ดินแดนทิวลิป
ฌอง มิเชล-โอลาส ประธานสโมสรของ โอลิมปิก ลียง ทีมที่จบฤดูกาลด้วยอันดับ 7 ตามหลังโควตาไปเล่น ยูโรปา ลีก เพียงแต้มเดียว ออกมาประกาศชัดเจน ว่าจะขอใช้สิทธิ์ร้องเรียน ในฐานะที่พวกเขาเป็นผู้เสียโอกาสอย่างไม่เป็นธรรม
“โอลิมปิก ลียง ขอใช้สิทธิ์ในการยื่นร้องเรียนคัดค้านการตัดสินใจดังกล่าว และขอเรียกร้องค่าเสียหาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของการสูญเสียโอกาส และในแง่ของกฎหมาย สำหรับกีฬาระดับอาชีพประเภทอื่นๆ ที่กำลังดำเนินอยู่ เนื่องจากความเสียหายที่เกิดขึ้นกับสโมสร เป็นมูลค่าสูงถึงหลายสิบล้านยูโร”
“เราได้เสนออย่างเร็วที่สุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ให้ทางลีกศึกษาทางเลือกแก้ปัญหาวิธีอื่นๆ ที่จะทำให้การแข่งขันจบลงได้อย่างรักษาความเป็นธรรมโดยแท้จริง ในการแข่งขันของทุกกีฬา และเป็นไปตามข้อเสนอของ ยูฟ่า ที่ให้ยึดคุณสมบัติด้านการกีฬาเป็นวัตถุประสงค์หลัก อย่างมีความโปร่งใส และไม่เลือกปฏิบัติ”
ถ้าหากทีมที่แค่อดไปเล่นฟุตบอลยุโรปยังเสียหายขนาดนี้ แล้วทีมที่ต้องมาตกชั้น ทั้งที่ควรมีโอกาสต่อสู้ให้ถึงที่สุด จะรู้สึกว่ามันไม่แฟร์ขนาดไหน
แบร์กนาร์ โชอันแน็ง ประธานสโมสรของ อาเมียงส์ กล่าวผ่าน เฟซบุ๊ก ไลฟ์ อย่างไม่พอใจที่ แอลเอฟเป ตัดสินใจตัดจบฤดูกาลไปดื้อๆ แบบนี้ และทำให้พวกเขาเสียหาย
“มันไม่เป็นธรรมจริงๆ อาเมียงส์ ไม่สามารถต่อสู้ในสนามได้จนถึงท้ายที่สุด เพื่อยืนหยัดใน ลีก เอิง ให้ได้ต่อไป”
“ผมจะขอต่อสู้กับทุกทีมเพื่อยืนกรานสิทธิของเรา เพราะผมคิดว่าการตัดสินใจมันไม่ถูกต้อง เราจะรอดูรายงานการประชุมของบอร์ดบริหารของ แอลเอฟเป มันจะมีการส่งผ่านต่อไปถึงการประชุมสามัญทั่วไป และเราขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินการต่อไป เพื่อให้ผ่านเรื่องนี้ไปอย่างยุติธรรม”
จะไปว่า โอลิมปิก ลียง และ อาเมียงส์ ว่าไม่ยอมรับกติกาก็ไม่ถูกสักเท่าไรนะครับ เพราะความเป็นจริง มันไม่มีการระบุกฎชัดเจนมาแต่แรก ว่าถ้าหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินที่ไม่สามารถทำให้การแข่งขันจบลงอย่างสมบูรณ์ได้ จะใช้เกณฑ์ใดในการตัดสิน
ด้วยเหตุนั้นทางด้าน ดิดิเย่ร์ กีโยต์ ซีอีโอของ แอลเอฟเป จึงเผยว่า ทีมที่เสียหายสามารถยื่นร้องเรียนเข้ามาได้ แต่ก็ยืนยันเช่นกัน ว่าทางสมาคมได้ตัดสินใจลงไปอย่างหนักแน่นแล้ว
สมาคมลีกอาชีพของฝรั่งเศส เผยว่า สิ่งที่เขาให้ความสำคัญมากกว่าคือการทำให้การแข่งขันในฤดูกาลหน้าเป็นไปแบบไม่เจอผลกระทบอะไร
แอลเอฟเป ตั้งเป้าว่า ลีก เอิง และ ลีก เดอซ์ ซีซั่น 2020-21 จะเริ่มสตาร์ทได้ภายในวันที่ 22-23 สิงหาคมเป็นอย่างช้าที่สุด
หากฟุตบอลแข่งกันให้จบไม่ได้ บางคนก็มองว่า “โมฆะ” ไปเลยคือทางที่ยุติธรรมกว่า
เพราะทุกทีมจะอยู่ในสภาพนับหนึ่งใหม่กันทั้งหมด ในเมื่อไม่มีใครสามารถแข่งให้ครบโปรแกรมได้เลยสักทีม
แต่บางคนก็มองว่า “ตัดจบ” แล้วนับผลคะแนนล่าสุดถึงจะเหมาะสมอย่างที่สุด เพราะฤดูกาลนี้มันแข่งกันมาแล้วเกิน 75% ทีมที่ทำผลงานกันมาได้ดี สมควรที่จะได้รางวัลตอบแทนคุณภาพการทำงานหนักถึงจะถูก
ตัวอย่างเช่นกรณีของพรีเมียร์ลีก ถ้าหาก “โมฆะ” ตอนนี้ แน่นอนว่าฝ่ายที่เสียประโยชน์ชัดเจนที่สุดคือทีมที่กำลังจะเป็นแชมป์อยู่แล้วอย่าง ลิเวอร์พูล เช่นเดียวกับทีมที่นานๆ ทีจะได้ลุ้นไปเล่นฟุตบอลยุโรปอย่าง เลสเตอร์ ซิตี้ และ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด
แต่ถ้าหากเลือก “ตัดจบ” มันจะไม่แฟร์เท่าไรสำหรับทีมที่อยู่ในโซนตกชั้น หรือทีมที่อันดับปัจจุบันยังไม่ดีพอจะไปเล่นฟุตบอลยุโรป เพราะแต้มยังทิ้งกันไม่ขาด และอะไรก็เกิดขึ้นได้ต่อจากนี้
ผมมองว่ากรณีของพรีเมียร์ลีก มีความใกล้เคียงกับ ลีก เอิง มากกว่า เอเรดิวิซี่ นั่นคือมันเห็นๆ กันอยู่แล้ว ว่าทีมที่จะต้องได้แชมป์คือใคร โอกาสที่จะให้เลือก "ตัดจบ" มันจึงสูงกว่า "โมฆะ" เยอะมาก
ขณะที่ 4 อันดับแรกของตาราง ก็เป็น ลิเวอร์พูล, แมนฯ ซิตี้, เลสเตอร์ และ เชลซี มาตั้งแต่เดือนตุลาคม โดยที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เพิ่งจะมาฟอร์มดีจริงๆ ก็ช่วงหลังๆ แต่ก็ยังขึ้นท็อปโฟร์ไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ทีมปีศาจแดงมีลุ้นได้ส้มหล่นไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ถ้าหากทีมเรือใบสีฟ้าไม่สามารถอุทธรณ์โทษแบนจากยูฟ่า ที่ห้ามเข้าแข่งรายการฟุตบอลยุโรปได้เป็นผลสำเร็จ
ถ้าจะเป็นเรื่องเสียหายหนักที่สุด คงเป็นการเลื่อนชั้น-ตกชั้นนั่นแหละ เพราะหากไม่นับทีมบ๊วยอย่าง นอริช ซิตี้ ที่เหลือมีถึง 4 ทีม ที่กำลังลุ้นหนีตายกันอย่างสูสี
ขณะที่ในแชมเปี้ยนชิพ ลีดส์ ยูไนเต็ด ก็นำจ่าฝูงโดยทิ้งห่างโซนเพลย์ออฟถึง 7 แต้ม ถ้าพวกเขาไม่เลื่อนชั้นกลับลีกสูงสุดได้ในปีนี้ มันจะเป็นเรื่องน่าเสียดายมากกว่าครั้งไหนๆ ตั้งแต่ตกชั้นลงมาในปี 2004
.
ก่อนหน้านี้ เคยมีคนผุดไอเดียว่า ถ้าพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้จะจบแบบบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่นที่สุด ในกรณีที่แข่งกันต่อไม่ได้ ก็คือให้ประกาศยกแชมป์ให้ ลิเวอร์พูล ยึดตารางปัจจุบันไปเล่นรายการของ ยูฟ่า และไม่มีทีมตกชั้น
ส่วน ลีดส์ กับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ในฐานะทีม 2 อันดับแรกของแชมเปี้ยนชิพ ก็ให้เลื่อนชั้นขึ้นมาเลย ฤดูกาลหน้า พรีเมียร์ลีกก็จะมีทั้งหมด 22 ทีม
จากนั้นในซีซั่น 2020-21 ค่อยคัดทีมตกชั้นลงไป 5 ทีม ส่วนแชมเปี้ยนชิพก็เลื่อนชั้นขึ้นมา 3 ทีมกันเหมือนเดิม เท่านี้ภายในเวลาแค่ไม่ถึง 2 ปี ทุกอย่างมันก็จะกลับมาเป็นปกติ
ถือว่าเป็นไอเดียที่ไม่เลว และน่าจะมีการถูกยกมาพูดคุยกันในที่ประชุมแน่ ถ้าถึงจุดที่พรีเมียร์ลีกพิจารณากันแล้วว่า โปรแกรม 9-10 นัดที่เหลืออยู่ของแต่ละทีม มันแข่งกันให้จบไม่ได้จริงๆ
ความเป็นจริงก็คือ ไม่ว่าจะเลือกทางไหน มันไม่มีทางเลยที่จะไม่มีใครเสียประโยชน์
ถ้า “โมฆะ” มันจะมีทีมที่เหนื่อยฟรี และความดีทุกอย่างที่ทำมาจะกลายเป็นอากาศ
แต่ถ้า “ตัดจบ” มันก็จะมีทีมที่เรียกร้องค่าเสียโอกาส และสามารถบอกว่าตัวเองไม่ได้รับความยุติธรรมได้
จริงๆ แล้วฝ่ายจัดการแข่งขันของทุกๆ ลีก และทุกๆ สโมสรฟุตบอล ไม่มีใครหรอกครับ ที่ไม่อยากให้เกมฟุตบอลกลับมาแข่งต่อ
แต่ถ้ามันจะไปต่อไม่ได้ จงเข้าใจว่ามันมีสิ่งอื่นอีกมาก ที่สำคัญกว่าผลประโยชน์ หรือเกียรติยศใดๆ ทั้งสิ้นในตอนนี้
ผมไม่คิดว่าเป็นเรื่องเหมาะสม ถ้าคุณจะบอกว่าค่าเสียหายเรื่องลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดมูลค่าหลายร้อยล้านปอนด์ มันคือเรื่องที่ใหญ่กว่า ความเสี่ยงของชีวิตคนเป็นแสนๆ คน โดยมีอัตราเสียชีวิตจากการติดเชื้อเกิน 10% อย่างที่เป็นอยู่แบบนี้
#เสียบสามเหลี่ยม #Ligue1 #Eredivisie #PremierLeague #Coronavirus #COVID19
ชอบกดไลค์ ถูกใจกดแชร์ และเพื่อไม่พลาดบทความคุณภาพจากเรา อย่าลืมกดไลค์เพจ และติดตามเพจแบบ See First ไว้เลยนะครับ
..สนใจติดต่อลงโฆษณา, สนับสนุนเพจ ติดต่อจ้างงานเขียนบทความฟุตบอล งานแปลข่าว เขียนสคริปต์สำหรับ Content ฟุตบอล หรือแปลหนังสือฟุตบอล ทักอินบ็อกซ์ สอบถามได้ตลอดเวลาครับ
โฆษณา