2 พ.ค. 2020 เวลา 07:00 • กีฬา
แฮรี่ แมคไกว จากแมนฯยู กับ ฟาน ไดจ์ จากลิเวอร์พลู เป็นกองหลังที่โดนนำมาเปรียบเทียบกันมาตลอดนะครับ โดยเฉพาะการมาอยู่ทีมขั้วตรงข้ามกัน และในฐานะที่เป็นกองหลังที่แพงที่สุดในโลกทั้งคู่
หลังจากแฮรี่ แมคไกว ได้ชื่อเป็นกองหลังที่โชว์ฟอร์มดีมากๆ จากตอนที่เล่นให้เลสเตอร์ ในฤดูกาลที่แล้ว 2018/2019 มีสถิติที่จิ้งจอกสยามทั้งฤดูกาลดังนี้
-การแย่งบอลคืนถึง 195 ครั้ง
-ชนะลูกกลางอากาศ 78 %
-ชนะการดวล 1 ต่อ 1 ถึง 72 %
และทำประตูได้ 3 ประตู
ถ้าไม่นับฟานไดจ์ นี่ถือว่าเป็นกองหลังที่น่าจับตัวมองที่สุดในฤดูกาล 2108/2019 (ฤดูกาลที่แล้ว)
ในฤดูกาลเดียวกันนั้น ฟานไดจ์ ก็มีสถิติที่คุ้มค่ากองหลังค่าตัวแพงท่สุดในโลกเช่นกัน
-แย่งบอลคืน 193 ครั้ง
-ชนะลูกกลางอากาศ 75%
-ดวล 1 ต่อ 1 ชนะที่ 72%
ยิงไป 3 ประตู และ แอสซิส 3 ประตู
จะเห็นได้ว่า ตัวเลขไกล้เคียงกันมาก พอเห็นสถิติอย่างนี้ ในขณะที่แมนฯ ยู กำลังหากองหลังระดับท็อปของลีกหรือของโลกมาอุดแนวรับ ก็เลยต้องรีบจัดการคว้าแมคไกวมาด้วยค่าตัวที่แพง 85 ล้านปอนด์ ราคาแพงแซงเจ้าของเดิมอย่าง ฟาน ไดจ์ ซะเลย
ทางด้าน เฟอร์กิล ฟานไดจ์ กองหลังจากฮอลแลนด์ ย้ายมาจากเซาแธมป์ตัน มาอยู่กับหงส์แดง เมื่อปี ต้นปี 2018 ด่วยค่าตัวราวๆ 75 ล้านปอนด์ พาลิเวอร์พลูเป็นหงส์ติดปีก คว้า 3 ถ้วยในฤดูกาลที่แล้ว ทั้งยูฟ่าแชมป์เปี้ยน ลีก ,ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ,และแชมป์สโมสรโลก เป็นทีมแรกของอังกฤษที่ทำได้
นอกเหนือการยกระดับให้ลิเวอร์พลูแล้ว ฟาน ไดจ์ ยังสามารถยกระดับให้ผู้เล่นในแผงหลังของลิเวอร์พลูทั้งแผง โดนเฉพาะคู่หูในเซนเตอร์ ไม่ว่าจะเป็น มาติป หรือ โกเมส ก็สามารถโชว์ฟอร์มได้ดีตามไปด้วย รวมถึงการที่ฟาน ไดจ์ เป็นกองหลังที่ตั้งเกมส์จากแดนหลังได้ จึงทำให้กลางเล่นสบายไปอีก ซึ่งแน่นอนการเติมเกมส์รุกก็สามารถทำได้ดี
และกำลังนำพาลิเวอร์พลูเป็นแชมป์ลีกในปีนี้ ถ้าโลกไม่ติดไวรัส ป่านนี้พวกพี่ๆ เค้าน่าจะกำลังแห่แชมป์กันทั่วโลก
ฟาน ไดจ์ กับ แมคไกว กลายเป็นขั้วตรงข้ามกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องด้วยต้นสังกัดของทั้งคู่นั่นแหละ แม้ทั้งคู่จะไม่ได้เกลียดไรกัน แต่จำใจต้องเป็นคู่แข่ง คู่เปรียบเทียบกันไป เนื่องด้วยฤดูกาลนี้เป็นกองหลังตัวหลักอันดับ 1 ของทีม ทั้งคู่
"ผมขอให้เขาโชคดี ผมไม่ขอพูดถึงเรื่องค่าตัวของเค้า ตลาดนักเตะปัจจุบันมันก็ราคานี้แหละ แต่ราคามันก็อาจกดดันเค้า โดยเฉพาะเล่นให้ทีมยิ่งใหญ่ มันก็ต้องกดดันอยู่แล้ว ขอให้คุณโฟกัสและสนุกกับการช่วยทีม ก็โอเคแล้ว" นี่คือคำพูดของ ฟาน ไดจ์ ตอนที่แมคไกวย้ายมาแมนฯยู
นับจากวันนั้นจนถึงตอนนี้ ทั้งคู่ต่างโชว์ฟอร์มได้ดีทั้งคู่ ต่อไปนี้จะเป็นสถิติในพรีเมียร์ ลีก ที่ออกมาในฤดูกาลปัจจุบันแล้วนะครับ ว่าใครมันสุดยอดกว่ากัน
ขึ้นดวลลูกกลางอากาศ
- แมคไกว 190 ครั้ง
-ฟาน ไดจ์ 190 ครั้ง เท่ากัน
ชนะลูกกลางอากาศ
- แมคไกว 136 ครั้ง คิดเป็น 71.6 %
- ฟาน ไดจ์ 143 ครั้ง คิดเป็น 75.3 %
ผลงานการทำประตูในทุกรายการ
- แมคไกว ยิงได้ 2 ประตูและ แอสซิส 2 ประตู
- ฟาน ไดจ์ ยิงได้ 4 ประตู และ แอสซิสได้ 2 ประตู เท่ากัน
คลีนชีต
- แมคไกว 8 ครั้ง
- ฟาน ไดจ์ 12 ครั้ง
เสียประตู
- แมคไกว 30 ประตู
- ฟาน ไดจ์ 21 ประตู
เข้าสกัด
- แมค ไกว 32 ครั้ง (เข้าสกัดตัวสุดท้าย 0)
- ฟาน ไดจ์ 22 ครั้ง (เข้าสกัดตัวสุดท้าย 2)
บล็อกลูกยิง
- แมคไกว 6 ครั้ง
- ฟาน ไดจ์ 4 ครั้ง
ตัดบอล
- แมค ไกว 53 ครั้ง
- ฟาน ไดจ์ 30 ครั้ง
เคลียร์บอล
- แมคไกว 132 ครั้ง
- ฟาน ไดจ์ 135 ครั้ง
:ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก siamsport
เห็นมั้ยครับ บางสถิติที่ขึ้นกับผลงานทีม ต้องยอมรับนะครับว่าปีนี้ผลงาน ลิเวอร์พลูมันดีเหลือเกิน เพราะฉะนั้นบางสถิติของฟาน ไดจ์ ก็ดีตามผลงานนั่นแหละ เช่น คลีนชีต หรือการเสียประตู ผลงานส่วนตัวกับทีมมันแปรผันตรงกัน
กลับกันกับของ แมค ไกว ที่ผลงานของทีมไม่ดีเท่าไร จึงเสียประตูมาก และเก็บคลีนชีตไม่ค่อยได้มากเท่าลิเวอร์พลู แต่ในระยะหลังก็เก็บคลีนชีตได้ดีขึ้นมากแล้วนะครับ
แต่ถ้าไปดูตัวเลขของ ผลงานส่วนตัว เช่น การเข้าสกัด การบล็อกลูกยิง การตัดบอล แมค ไกว ไม่ได้มีตัวเลขที่น้อยกว่า ตรงนี้ไม่ได้หมายความว่า แมคไกว ดีกว่า หรือเก่งกว่านะครับ แต่ผมกำลังจะบอกว่า แมคไกว ก็ไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้น
และผลงานก็สามารถนำมาเปรียบเทียบกับ ฟาน ไดจ์ ได้ ในบางด้าน ย้ำว่าแค่บางด้าน
ถ้าจะให้ยอมรับ ผมยอมรับมานานแล้วครับว่า ฟาน ไดจ์ เป็นกองหลังที่ดีที่สุดในโลกมนุษย์ ยุคปัจจุบัน และ แฮรี่ แมคไกว ยังคงเป็นรองฟาน ไดจ์อยู่ ไม่เถียงเลยครับ
แต่การที่จะมาบอกว่า แมคไกว เล่นไม่สมค่าตัว แบบที่ใครหลายๆ คนพูด ก็ต้องบอกว่า ไม่จริงขนาดนั้น มันอยู่ที่ความคุ้มค่ามันขึ้นกับอะไร แชมป์ ผลงานทีม ซึ่งตรงนี้ก็ต้องบอกว่า ใช่ๆ แมคไกว ยังไม่มีผลงานเป็นถ้วยเป็นถาดแบบ ฟาน ไดจ์ แต่ก็รอดูก่อนสิ นี่แค่ปีแรก
ก็เหมือนที่ เกรี่ เนวิลล์เคยพูดไว้ตอนที่ แมคไกว จะย้ายมาใหม่ๆ แหละครับ ว่า
"มันยังเร็วเกินไปที่นะพูดว่าเขาสามารถสร้างความแตกต่างเหมือนกับฟาน ไดจ์ "
ปัจจุบัน แมคไกวก็เป็น กำลังหลักของปีศาจแดง และยกระดับแนวรับได้ และเป็นคนที่เซ็ตบอลจากแดนหลังได้เช่นกัน คิดดู ถ้าฤดูกาลนี้ไม่มีแมคไกว แล้วใช้โจนส์ที่หมดสภาพ ไบญี่ที่เก่งแต่เจ็บง่ายไม่ค่อยได้ลง มีพี่เลิฟเป็นตัวยืนคนเดียว ไม่ไหวแน่
จากตอนที่จะย้าย มาถึงตอนนี้จะจบฤดูกาล ผมก็มองว่ายังเร็วไปที่จะตัดสินว่าคุ้มค่าตัวมั้ย แต่ถ้าไม่ดีจริงคงไม่ได้ปอกแขนไปใส่ในปัจจุบัน และมีลุ้นแชมป์อยู่เหมือนกัน อย่าง เอฟเอคัพ และ ยูโรป้า ไม่ใช่หมดลุ้นแชมป์ไปแล้ว ถ้าไม่หนีไวรัสแบบนี้
หรือปีข้างหน้า ค่อยมาว่ากัน เรื่องคุ้มไม่คุ้ม แชมป์ได้หรือไม่ได้ แต่อย่าลืมฤดูกาลนี้ แมคไกว ลงสนามให้แมนฯยู มากที่สุดในทีม ด้วยจำนวน 41 นัด ในทุกรายการ โดยเฉพาะพรีเมียร์ลีกลงเล่นทุกนัด 29 นัด และถ้วยเล็กถ้วยใหญ่ โซลชาร์ใช้แมคไกวเสมอ เพราะมีความน่าไว้วางใจที่สุดในแนวรับ
เรื่องการใช้งานนี่ถือว่าคุ้มแล้ว ดีกว่าซื้อมาแล้วเจ็บ หรือเล่นไม่ได้ แล้วไม่ได้ใช้ อันนั้นค่อยมาบอกว่าไม่คุ้ม แต่นี่คือกำลังหลักของทีม มีไว้ยังไงแฟนๆก็อุ่นใจ แหละนะ
สรุปเรื่องการเปรียบเทียบ เห็นชัดๆ ว่า ฟาน ไดจ์เหนือกว่า ผลงานในสนามก็ดีกว่า ผลงานของทีมก็ดีกว่า แต่ไม่ใช่ตัวมาตัดสินแมคไกวนะครับ ว่าไม่คุ้มค่าตัว นะครับ แมคไกวก็มีจุดโดดเด่น และยกระดับเกมส์รับแมนฯยู ได้มากๆแล้ว ในฤดูกาลนี้
มีคำหนึ่งที่ผมจำมาจากพี่แจ๊คกี้แฟนหงส์นั่นแหละ ว่า "ฟุตบอลไม่ใช่บัญญัติไตรยางค์" บางทีการเปรียบเทียบกัน ก็บอกอะไรไม่ได้เลยครับ
-กดไลค์ 👍👍👍
-กดแชร์ 👈👈👈👈
- กดติดตาม ให้ยอดมันขึ้นบ้างเถอะครับ 555 ❤❤
ไม่กดอะไร แต่หลงเข้าอ่านมาถึงตรงนี้ ก็ขอขอบคุณนะครับ🙏🙏🙏
เครดิตข้อมูล
-Siamsport.com
-thairath.co.th/sport/
โฆษณา