3 พ.ค. 2020 เวลา 01:38 • ไลฟ์สไตล์
🌿มาสัมผัสเสน่ห์ของชาว Amish (อามิช) ชุมชนที่ยังยึดวิถีชีวิตที่เรียบง่าย สบาย สงบ และกลมกลืนไปกับธรรมชาติ
1
ภาพที่เห็นไม่ใช่เป็นภาพจากการแสดงภาพยนต์ที่ไหนนะคะ ขอบอกว่ามันคือภาพวิถีชีวิตของชาว Amish จริงๆค่ะ มาดูกันสิคะว่าชุมชนของชาว Amish เขาใช้ชีวิตกันยังไงบ้าง 🙂
ในปัจจุบันผู้คนจำนวนมากพยายามเสาะแสวงหาความเจริญทางวัตถุ และเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อสร้างความสุขและความสะดวกสบายให้แก่ชีวิตประจำวันของตนเอง แต่น่าแปลกที่กลับมีชุมชนเล็กๆ อีกชุมชนหนึ่งบนโลกใบนี้ ที่ยังคงดำเนินวิถีชีวิตราวกับเมื่อหลายร้อยปีที่ผ่านมา และที่นั่นคือ ชุมชนชาว Amish นั่นเองค่ะ
ชุมชนชาว Amish คือชุมชนเล็กๆแห่งหนึ่งอาศัยอยู่ที่เมือง Gap รัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ฟางคิดว่าบางคนอาจจะเคยได้ยินเรื่องราวของพวกเขามาบ้างแล้ว คงพอจะทราบว่าชาว Amish นับถือศาสนาคริสต์ นิกายอนาแบ๊ปติส (Anabaptists) ที่ยังเคร่งเรื่องศาสนา จารีตและวัฒนธรรมประเพณีแบบดั้งเดิม
1
ชาว Amish มีกฏของสังคมหรือกฏของโบสถ์ เรียกว่า Ordnung เป็นภาษาเยอรมัน แปลเป็นภาษาอังกฤษ คือ Order ซึ่งจะครอบคลุมการใช้ชีวิตทั้งหมด ทั้งการแต่งกาย ทั้งเรื่องการใช้ไฟฟ้าได้มั้ย ? มากน้อยแค่ไหน ? ใช้โทรศัพท์ได้หรือไม่ ? แต่ละโบสถ์ก็จะแตกต่างกันออกไปค่ะ
ชาว Amish จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกคือ คนกลุ่มเก่า เรียกว่า Old order และอีกหนึ่งกลุ่มคือ คนกลุ่มใหม่ เรียกว่า New order
1
โดยคนกลุ่มเก่าจะเป็นกลุ่มที่ปฏิเสธการใช้ไฟฟ้า เทคโนโลยีต่างๆ เป็นกลุ่มที่ยังคงวิถีชีวิตแบบเรียบง่ายดั้งเดิมทุกประการ มีเพียงแค่รถม้าเท่านั้นที่คนกลุ่มนี้ใช้เป็นยานพาหนะ
ขณะที่คนกลุ่มใหม่ มีการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านแต่ก็ยังไม่มีเทคโลยีเข้ามาเช่นกัน อย่างเช่น โทรทัศน์ หรือ Internet พวกเขาใช้ไฟฟ้าให้ความสว่างภายในบ้าน มีเตาแก๊สใช้หุงหาอาหาร มีรถยนต์ แต่ว่ายานพาหนะที่พวกเขาใช้เป็นหลักก็ยังคงเป็นรถม้าอยู่ดีค่ะ
ส่วนภาษา พวกเขาใช้ภาษาเยอรมัน แต่พวกเขาก็ยังสื่อสารภาษาอังกฤษได้ และพวกเขาจะไม่ยอมเกณฑ์ทหาร ไม่ซื้อประกันชีวิตใดๆทั้งสิ้น เด็กๆที่นี่จะได้เรียนหนังสือตามกฏหมายถึงแค่เกรด 8 เท่านั้น ส่วนจบออกมาแล้วก็จะเรียนวิชาชีพ โดยมีพ่อแม่และคนในชุมชนที่เป็นผู้สอนให้ และจะเรียนถึงแค่อายุ 16 ปีเท่านั้น หลังจากนั้นจะมีโอกาสได้ไปใช้ชีวิตในโลกภายนอกอย่างสุดเหวี่ยงเท่าที่ตัวเองต้องการ อยากไปเที่ยวที่ไหน อยากเรียนอะไร หรืออยากมีแฟน ทุกคนสามารถทำได้ดังใจปรารถนา และเมื่อเดินทางกลับมายังชุมชนอามิชแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะต้องตัดสินใจเลือกว่า จะยังอยากเป็นชาวอามิชต่อไปหรือไม่ ถ้าตัดสินใจเป็นชาวอามิชต่อไป ก็จะต้องไปรับศีลอนาแบ๊ปติสค่ะ
ชาว Amish เคร่งครัดในคำสอนของคัมภีร์ใบเบิลที่ห้ามสร้างรูปจำลองเหมือนมนุษย์ ทำให้พวกเขาไม่นิยมถ่ายรูปกันเองค่ะและไม่ยอมให้คนภายนอกถ่ายรูปของพวกเขาด้วยนะ แต่ก็มีชาว Amish หลายคนที่มีหัวสมัยใหม่ ไม่ได้ปฏิบัติตามกฏเคร่งครัดมากนัก เลยยืดหยุ่นให้สามารถถ่ายภาพจากระยะไกลได้ หรือขออนุญาตพวกเขาก่อนถ่ายภาพได้ค่ะ
ส่วนอาชีพของพวกเขาส่วนใหญ่ก็จะทำนา รีดนมวัว ไม่มีการใช้ปุ๋ยหรือสารเคมีใดๆทั้งสิ้น เสื้อผ้าที่พวกเขาสวมใส่ก็จะเลือกสีที่ใกล้กับธรรมชาติมากที่สุด เช่น สีดำ น้ำเงิน น้ำตาล ไม่นิยมสีฉูดฉาด (ถ้าเป็นเราก็คงอยากใสสีอื่นบ้างเนาะ 🤣)
ชาว Amish จะแยกสังกัดโบสถ์แต่ละแห่ง และจะแต่งงานกันเฉพาะสมาชิกภายในโบสถ์เท่านั้นนะคะ ซึ่งในแต่ละโบสถ์ก็จะมีสมาชิกอยู่ประมาณ 20-30 ครอบครัวกันเลยทีเดียว ดังนั้นการแต่งงานภายในกลุ่มของพวกเขาเองนี่แหล่ะค่ะ ที่เรียกว่า " โบสถ์ " คือกลุมที่ทำพิธีทางศาสนาร่วมกัน มีบาทหลวง มีศาสนาจารย์เหมือนกัน เพียงแต่ไม่มีตัวโบสถ์จริงๆ พวกเขาจะย้ายไปประกอบพิธีตามบ้านของสมาชิกในแต่ละราย อาทิตย์เว้นอาทิตย์สลับกันไปเรื่อยๆค่ะ
มาถึงตรงนี้คงจะอยากรู้แล้วใช่ไหมคะว่า คนส่วนใหญ่เลือกเส้นทางไหนกัน จากสถิติพบว่า 95% เลือกรับศีลที่จะเป็นชาวอามิช และอาศัยอยู่ในชุมชนต่อไป ฟางคิดว่าพวกเขาเติบโตมาในสังคมแบบนี้ พวกเขาคงเกิดความเคยชินกับการใช้ชีวิตแบบนี้ไปเสียแล้ว เลยไม่อยากออกไปเผชิญกับโลกภายนอก
แต่สิ่งที่ชาว Amish กำลังกังวลคงจะเป็นเรื่องประชากรที่เพิ่มขึ้น เพราะพวกเขาไม่มีการคุมกำเนิดใดๆ ทำให้เกิดการขาดแคลนที่ดินตามมา เพราะเหตุผลนี้ในปัจจุบันจึงมีหนุ่มสาวชาว Amish หลายคนออกไปทำงานในเมืองกันมากขึ้น จึงทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะทำให้วิถีชีวิตของชาว Amish ค่อยๆเปลี่ยนแปลงไป
"เราพอใจในสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้ รู้ไหม โลกภายนอกอาจมองเข้ามาแล้วพากันสงสารเรา ขณะเดียวกัน เราก็มองว่า คนในโลกข้างนอกนั่นแหละที่น่าสงสาร เรารู้ดีว่าชีวิตในโลกข้างนอกนั้นยากลำบากกว่าเรามากนัก แน่นอน ผมไม่ได้บอกว่าชีวิตของชาวอามิชโรยด้วยกลีบกุหลาบ เรามีคนที่อยู่แบบนี้ไม่ได้ และลาออกไป บางทีก็มีเรื่องที่ไม่ถูกไม่ควรเกิดขึ้น แต่ชีวิตก็เป็นแบบนี้ การเป็นอามิชไม่ได้หมายความว่า เราดีกว่าใคร หรือชีวิตแบบเราถูกต้องเสมอไป ไม่มีชีวิตใครสมบูรณ์แบบ เราเพียงแค่พยายามใช้ชีวิตให้ดีที่สุด เท่าที่เราจะทำได้" คุณปู่ชาวอามิช กล่าว
จริงๆแล้วสิ่งที่ฟางชอบเกี่ยวกับพวกเขา คือ พวกเขาไม่มีเทคโนโลยีใดๆภายในบ้านเลย เช่น โทรทัศน์ และโทรศัพท์ การที่พวกเขาไม่มีสองสิ่งนี้ มันทำให้พวกเขามีเวลาในการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันมากขึ้น
พวกเขากลับจากทำนาทำสวนหรือรีดนมวัว ก็จะหุงหาอาหารร่วมกัน รับประทานอาหารพร้อมกัน หลังจากนั้นพวกเขาจะมานั่งรวมกันที่โซฟาเพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนว่าวันนี้ทำอะไรกันมาบ้าง ? มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง?หรือพูดคุยในเรื่องทั่วไป ชาว Amish จะศรัทธาในครอบครัวและเพื่อนมาก
ซึ่งมันแตกต่างจากสังคมของเราเป็นอย่างมาก สังคมที่ทุกวันนี้คนในครอบครัวพูดคุยไม่ค่อยจะมองหน้ากันก้มหน้ามองแต่จอโทรศัพท์ โซฟาทุกบ้านหันหน้าเข้าหาโทรทัศน์ ถ้าไม่ดูโทรทัศน์ก็ใช้โทรศัพท์ แทบจะไม่ค่อยได้พูดคุยกันเลย
ฟางว่า บางทีคนเราต้องการมีชีวิตที่ดีและมีความสุข มันไม่ได้หมายความว่าเราต้องมีทุกสิ่งทุกอย่างที่เราต้องการ แต่มันอาจหมายถึงการที่มีแค่สิ่งที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิต เพื่อที่จะใช้เวลากับสิ่งจำเป็นและสำคัญกับชีวิตของเราจริงๆ นั่นอาจจะเป็นความสุขที่แท้จริง เหมือนชาว Amish ก็ได้นะคะ😊
แหล่งอ้างอิง
โฆษณา