3 พ.ค. 2020 เวลา 16:56 • ประวัติศาสตร์
Topic :คิม จอง อึน (Kim Jong-un) ตอนที่ 4
Title: ชีวิตด้านอื่นๆ ที่นอกเหนือจากนิวเคลียร์และการเมือง
ตอนที่ 4 โรงเรียนใหม่ และ ความหลงไหลใน Chicago Bulls แห่ง NBA
คิม จอง อึน บนหลังม้าสายพันธ์ุแท้ (Orlov Trotter)จากรัสเซีย
โรงเรียนแห่งใหม่ สภาพแวดล้อมที่ต่างออกไป
คิม จอง อึน เดินทางกลับเกาหลีเหนือช่วงปิดเทอมภาค ฤดูร้อน ในปี 1998 และกลับมาเรียนต่อที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในปีเดียวกัน การกลับมารอบนี้ คิม ไม่ได้ไปเรียนที่โรงเรียนเอกชนราคาแพงอีกต่อไป เขาเข้าเรียนโรงเรียนของรัฐที่ชื่อ Liebefeld-Steinhölzli
โรงเรียนรัฐ Liebefeld-Steinhölzli
ปี ค.ศ 1998 ณ โรงเรียนมัธยม Liebefeld-Steinhölzli โรงเรียนเล็กๆของรัฐบาลในเมืองเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โรงเรียน Liebefeld-Steinhölzli ใช้ภาษาเยอรมันในการสอนเป็นหลัก คุณครูแนะนำเด็กนักเรียนใหม่ชาวเกาหลีเหนือ เด็กชายวัย 15 ปี ตัดผมทรงบ๊อบสั้น แต่งกายเรียบง่ายด้วยชุดลำลอง เสื้อและกางเกงวอร์ม รองเท้า NIKE เดินเข้ามาในชั้นเรียน 6A ซึ่งมีนักเรียนนั่งอยู่ในห้องทั้งหมด 22 คน เขาแนะนำตัวเองกับเพื่อนๆ “ผม ชื่อ ปาร์ค อึน(Pak Un) เพื่อนๆสามารถเรียกผมสั้นๆได้ว่า อึน ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งข้างๆเด็กชายชาวโปรตุเกส อายุ 14 ปีชื่อ João Micaelo ในเวลาต่อมา João Micaelo เด็กชายชาว โปรตุเกส และ ปาร์ค อึน(Pak Un) นักเรียนใหม่ชาวเกาหลีเหนือ ได้กลายเป็นเพื่อนสนิทกัน ด้วยความที่ทั้งคู่นั้นนั่งไกล้กัน บวกกับในเวลาต่อมานักเรียนในชั้นถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มนักเรียนที่เรียนดี และกลุ่มนักเรียนที่เรียนได้ช้ากว่าเพื่อนๆ ทั้งสองคนถูกจับย้ายมาอยู่ในกลุ่มหลัง เด็กชายชาวเกาหลีเป็นคนขี้อาย และจะรู้สึกอายเป็นพิเศษเมื่ออยู่ต่อหน้าเพื่อนผู้หญิงหรือ ถูกเรียกออกไปหน้าชั้นเพื่อตอบคำถาม João Micaelo เล่าว่าแน่นอนเพื่อนชาวเกาหลีเหนือของเขานั้นตอบคำถามที่คุณครูถามได้ แต่มันเป็นนิสัยขี้อายโดยส่วนตัวของเขาเองที่ไม่ชอบการออกไปตอบคำถามหน้าห้อง ปาร์ค อึน นั้นเก่งเป็นพิเศษในวิชาคณิตศาสตร์ แต่วิชาทีเด็กชาย ปาร์ค อึน ไม่ถนัดคือ วิชาภาษาเยอรมัน เมื่อมีการบ้านวิชาภาษาเยอรมัน João Micaelo ก็จะคอยช่วย ปาร์ค อึน ส่วนเด็กชายชายเกาหลีนั้นก็จะคอยช่วยเขาในวิชาคณิตศาสตร์ เมื่อทั้งคู่ใช้เวลาร่วมกันนั้นเด็กชายชาวโปรตุเกส สังเกตได้วา ปาร์ค อึนนั้นแม้จะเป็นคนที่ขี้อายไม่ค่อยกล้าแสดงออกในชั้นเรียน แต่ ปาร์ค อึน มีนิสัยที่ แน่วแน่จริงจัง และเด็ดขาดเมื่อต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ
คิมใช้เวลาหลายเดือนในการปรับตัวและฝึกใช้ภาษาเยอรมันที่เขาไม่ค่อยถนัด แต่สุดท้ายเขาก็ปรับตัวได้และเรียนตามเพื่อนๆ ทันในที่สุด ยังไม่มีสาเหตุที่แน่ชัดว่าทำไมเขาถึงต้องย้ายจากโรงเรียนเอกชนสุดแพงมาเรียนโรงเรียนรัฐไกล้บ้าน
คิม จอง อึน กับเพื่อนร่วมชั้นที่ โรงเรียนมัธยม Liebefeld-Steinhölzli
คิม จอง อึน กับเพื่อนร่วมชั้นที่ โรงเรียนมัธยม Liebefeld-Steinhölzli
คิมจองอึน ยืนอยู่แถวหลังสุด คนที่5 นับจากทางขวามือ
โรงเรียน Liebefeld-Steinhölzli ตั้งอยู่ไม่ห่างจากที่พักของคิมมากนัก ใช้เวลาในการเดินจากที่พักไปโรงเรียนเพียงประมาณ 5 นาที โรงเรียนมีพื้นที่ไม่ใหญ่มากนัก ประกอบไปด้วย อาคารใช้สอย ประมาณ 3 หลัง มีนักเรียนตอนนั้นทั้งหมดประมาณ 200 คน เพื่อนๆของเขาจำเขาได้ในภาพของ นักเรียนที่ชอบใส่ชุดวอร์ม( tracksuits)ยี่ห้อ NIKE หรือ Adidas สวมรองเท้า Nike Air Jordans รุ่นใหม่ล่าสุดราคา 200 เหรียญนักเรียนในโรงเรียนของรัฐได้แต่ใฝ่ฝันที่จะเป็นเจ้าของ คิมไม่เคยใส่กางเกงยีนส์มาโรงเรียนเหมือนวัยรุ่นทั่วโลกที่นิยมใส่กัน น่าจะเป็นค่านิยมของคนเกาหลีเหนือที่มองว่ากางเกงยีนส์เป็นสัญลักษณ์ของแก๊งอันธพาลและทุนนิยมที่ชั่วร้าย
หนังสือเดินทางปลอมของคิม 10 ปี ประทับตรา สถานทูตบราซิลในกรุงปราก ในชื่อ‘JOSEF PWAG’ แต่ยังไม่มีข้อมูลที่ยืนยันได้ว่าเขาใช้หนังสือเดินทางปลอมเพื่อจุดประสงค์ใด
การเสพย์ติดของKim jong un-NBA-Michael Jordan-และ Chicago Bulls
โก ยง ฮุ่ย (Ko Yong Hui) แม่ของคิมเป็นคนแรกที่จุดประกายความสนใจในกีฬาให้แก่คิม บรรดาคุณแม่ชาวเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้นิยมบอกลูก ๆ ของพวกเธอว่า ว่าการเล่นบาสเก็ตบอลจะทำให้ร่างกายแข็งแรงและเป็นการเพิ่มส่วนสูงด้วย เนื่องด้วยความที่คิมเป็นเด็กที่ไม่สูงมากนัก นั่นอาจจะเป็นเหตุผลแรกๆที่เขาทุ่มเทให้กับการเล่นบาสเก็ตบอล
คิมจองอึนหมกมุ่นกับบาสเก็ตบอล เขามีแป้นบาส ด้านนอกอพาร์ทเมนต์และจะเล่นที่นั่นบ่อยครั้ง
สิ่งแรกที่คิมจะทำเป็นกิจวัตรประจําวัน เมื่อเสียงระฆังหลังเลิกเรียนดังขึ้น คิม จอง อึน จะมุ่งหน้าไปสนามบาสเก็ตบอลที่โรงเรียน เขามักจะสวมชุดทีม Chicago Bulls หมายเลข 23 กางเกงขาสั้นทีม Bulls และรองเท้า Air Jordan ของเขา แบบเดียวกับนักบาสเก็ตบอลที่เขาคลั่งไคล่ Michael Jordan แห่งทีม Chicago Bulls
ซ้าย :Dennis Rodman ขวา : Michael Jordan Chicago Bulls ซึ่งต่อมาภายหลัง Dennis Rodman ได้เดินทางไปเกาหลีเหนือโดยคำเชิญ ของ คิม จอง อึน
เมื่อคิมอยู่ในสนามบาสเก็ตบอล เขาจะมีความมุ่งมั่น เกรี้ยวกราด บางครั้งถึงกับก้าวร้าว และพูดคำสบถ เขาเป็นคนจริงจังใสนาม คิมแทบจะไม่เคยหัวเราะหรือพูดอะไรเลย คิดจดจ่ออยู่กับเกมส์การแข่งขัน บางครั้งเมื่อเขาเล่นบาสเก็ตบอลไม่เข้าฟอร์ม คิมจะพุดสบถ บางทีถึงกับ กระแทกศีรษะเข้ากับกำแพง คิมเคยเดินทางไปปารีส เพื่อดูการจัดนิทรรศการของเอ็นบีเอ(NBA) ที่นี่เขามีภาพถ่ายคู่กับ นักบาส NBA 2 คน Toni Kukoc แห่งทีม Chicago Bulls และ Kobe Bryant แห่งทีม Los Angeles Lakers
แม่ของคิมเองก็รู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นลูกชายของเธอชอบการเล่นบาสเก็ตบอลซึ่งเป็นกีฬาที่เธอเชื่อว่าจะช่วยให้ สมองของคิมน้อย รู้สึกเคลียร์และปรอดโปร่ง อีกเหตุผลหนึ่ง เธออยากจะลดความหลงใหลในวัยเด็กของคิมน้อย ซึ่ง คิม ชื่นชอบเครื่องบินและเครื่องยนต์ ในไม่ช้า แม่ และป้าของคิมจองอึน ก็เห็นว่าคิมน้อยนั้นเสพย์ติดในกีฬาบาสเก็ตเป็นอย่างมาก แม้ในเวลาเข้านอน เขาก็ยังพกลูกบาสไปไว้บนเตียงนอนของเขาด้วย เมื่ออยู่ที่บ้านคิมมักจะหมกหมุ่น อ่านนิตยสาร NBA และจะวาดภาพเกี่ยวกับ นักบาสเก็ตบอลที่เขาชื่นชอบเสมอ NBA ของ อเมริกาได้ครอบงำหัวใจของคิมไปแล้ว หลายครั้งแม่ของคิมถูกโรงเรียนเรียกพบ คุณครูรายงานว่าคิมมีความสนใจในกีฬาชนิดนี้มากเกินไปจนทำให้ผลการเรียนของเขาแย่ลง
ความชอบส่วนตัวของคิม เกี่ยวกับเครื่องบิน และ เครื่องยนต์ ในวัยเด็ก
เทอมสุดท้ายที่ สวิตเซอร์แลนด์
การศึกษาที่ คิม ได้รับในสวิตเซอร์แลนด์นั้นเป็นโลกทัศน์ที่แตกต่างจากเกาหลีเหนือดินแดนบ้านเกิดของเขาอย่างสิ้นเชิงคนละขั่ว โรงเรียนที่สวิตเซอร์แลนด์นั้น ในหลักสูตรการศึกษา คิม ได้ศึกษา สิทธิมนุษยชน สิทธิสตรี และการพัฒนาประชาธิปไตย ที่นี่คิมยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติของ มาร์ติน ลูเทอร์คิง จูเนียร์- เนลสันแมนเดลา และมหาตมะ คานธี การต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษย์ในความกดขี่ของผู้กุมอำนาจ ซึ่งสะท้อนความหลากหลายทางวัฒนธรรม กลุ่มศาสนา ชาติพันธุ์และสังคมผ่านบทเรียน
ก่อนที่โรงเรียนจะจบเทอมอีกเพียงไม่กี่เดือน วันหนึ่ง ในช่วงเทศการ อีสเตอร์ ปี 2001 คิม ได้บอกกับ João Micaelo เพื่อนของเขาเพียงสั้นๆว่า พ่อของเขามีคำสั่งให้เขาบินกลับไปเกาหลีเหนือในเร็ววันนี้ เขาไม่ทิ้งช่องทางการติดต่อของเขากับเพื่อนๆ ไว้เลย เพื่อนๆและคุณครูในชั้นคนอื่นไม่มีใครรู้ว่าเขาไปไหน วันนึงเขาก็ไม่มาเรียนซะเฉยๆ
ปาร์ค อึน ของเพื่อนๆ โรงเรียน Liebefeld-Steinhölzli จากไป เพื่อนร่วมชั้นของเขาจะไม่เห็นเขาอีกเป็นเวลาเกือบหนึ่งทศวรรษ จนเมื่อเขาปรากฏตัวขึ้นที่ระเบียงของอาคารอันสง่างามในใจกลางของ กรุงเปียงยางกับพ่อของเขาซึ่งได้รับตำแหน่งผู้สืบทอดที่ยิ่งใหญ่แห่งเกาหลีเหนือ
คิมจองอึนในชุดดำ และ คิม จอง อิล (ขวาสุด) ใน พีธีสวนสนามของกองทัพ ณ กรุงเปียงยาง
บทแนบท้าย: คิม จอง อึน ในทัศนะของเพื่อนร่วมชั้น
João Micaelo : กล่าวว่า“เรามีความสุขและรู้สึกสนุกกันมากในช่วงที่เขาอยู่ที่นี่ เขาเป็นคนดี เด็กจำนวนมากชอบเขา เขามีเชฟส่วนตัวที่บ้าน หลายครั้งพวกเพื่อนๆ จะไปที่บ้านเขา ทำกิจกรรมต่างๆร่วมกัน เช่น ทานอาหาร ดูหนัง เล่นเกมส์ เขาชอบการเล่นกีฬาบาสเก็ตบอลมากๆ ทุกวันคุณจะเจอเขาได้ที่ คอร์ทสนามบาสเก็ตบอล คิมจองอึนไม่ใช่คนที่ชอบงานปาร์ตี้ หรือดิสโก้ผับ เขาไม่ใช่เพลย์บอย ผมไม่เคยเห็นเขาแตะหรือดื่มแอลกอฮอล์แม้แต่หยดเดียว ผมคิดว่าจริงๆแล้วเขาเป็นเพื่อนที่ดี ไม่ใช่คนที่ก้าวร้าว แต่เขามีความมุ่งมั่นและทะเยอทะยานสูง”
João Micaelo ปัจจุบันเขามีอาชีพ เป็นเชฟ อยู่ ที่ เบิร์น ,สวิตเซอร์แลนด์
Marco Imhof :กล่าวว่า ”คิมจองอึน นั้น เป็นคน ตลกและมีอารมณ์ขันคนนึงเลยละ บ่อยครั้งที่เขาทำให้ผมหัวเราะ เขาปรับตัวเข้าหาเพื่อนๆทุกคนได้ดี แม้แต่นักเรียนที่มาจากประเทศที่เป็นศัตรูของเกาหลีเหนือก็ตาม ยกเว้นพวกผู้หญิงนะเพราะเขาจะอายเมื่อต้องคุยกับพวกเธอ คิมคุยเรื่องส่วนตัวกับพวกเธอน้อยมาก แต่ในมุมมองด้านอื่น ผมคิดว่า คิม 'เกลียดการพ่ายแพ้' และ ชัยชนะเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับเขา"
Anna Fifield และหน้าปกหนังสือ "The Great Successor"
จบช่วงชีวิตในวัยเด็ก จนถึงการใช้ชีวิตและการศึกษาของเขาในยุโรป บทความต่อไป จะเป็น เรื่องราวชีวิตด้านอื่นๆของเขา ผ่านประวัติพอสังเขปของ คิม จอง อึน เมื่อเขากลับไป บ้านเกิดที่เขาจากมา ณ เกาหลีเหนือ
ครอบครัว ตระกูลคิม 3 ผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือ
Editor : Soulless
Credit : / Politico.eu / Anna Fifield / Exploredprk / Reuters
/ Thestar
โฆษณา