นอกจากแบ่งชั้นตามหน้าที่แล้ว ยังแบ่งหน้าที่ของรูปภายในอีก ๒๔ อย่าง เรียก อุปทายรูป อุปาทายรูป(รูปอาศัย) อีกส่วนอาศัยในรูปอยู่ทำงานให้รูป ได้ดำรงอยู่ได้แก่
ก. ถือเป็นกายที่อาศัยในดินมี จักขุ ตา, โสต หู, ฆานะ จมูก, ชิวหา ลิ้น, กาย, มโน ใจ
ข. เมื่อเกิดอินทรีย์จะผ่านความรู้สึกได้จาก รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ (สัมผัส)
ค. แสดงเพศความเป็นหญิง ความเป็นชาย
ง. หทัยรูป ๑ คือ หทัยวัตถุ( ที่ตั้งของจิต ) จะแสดงความรู้สึก,อารมณ์
จ. ชีวิตตินทรีย์ ภาวะที่รักษารูปให้เป็นอยู่ ถ้าวัดในทางการแพทย์ คือ สัญ- ญาณชีพ
ฉ. กวฬิงการาหาร อาหารคำข้าวที่เราต้องกินเกิดเป็นโอชา(หัวอาหาร)ไป เลี้ยงร่างกาย
ช. อากาศธาตุ ช่องว่าง ในกายทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
ญ. การไหวกายให้รู้ความ, ไหววาจาให้รู้ความ คือพูดได้
ฎ. ลหุตา(ความควรแก่งานก่อตัวเป็นลมปราณ ),มุทุตา (ความอ่อนก่อตัวเป็น เสมหะ), กัมมัญญุตา (ความเบาก่อเป็นไฟเรียกอัคนี)
ฏ. ลักขณรูป 4 (รูปคือลักษณะหรืออาการเป็นเครื่องกำหนด
(รูปัสส) อุปจย (ความก่อตัวหรือเติบขึ้น )
(รูปัสส) สันตติ (ความสืบต่อ )
(รูปัสส) ชรตา (ความทรุดโทรม)
(รูปัสส) อนิจจตา (ความปรวนแปรแตกสลาย )
รวมความหมาย เมื่อมีความเติบโตขึ้นที่เราได้มาจากไฟธาตุในรูปแบบของต่อมไร้ท่อต่างๆ, สืบต่อได้แก่ต่อมเพศ, ทรุดโทรมได้, ความสลายไม่ยั่งยืน กลุ่มอุปทายรูปนี้จะเชื่อมโยงการทำหน้าที่ไปกับกาลเวลา กลางวันแลกลางคืน ในเวลากลางวันเรียกลมสูรย์, กลางคืนเรียกลมจันทร์)