3 พ.ค. 2020 เวลา 03:37 • ไลฟ์สไตล์
The Last Leaf.
ลมหนาวพัดพาเอาความแห้งแล้งลงมาด้วย
ไม้ไร่เริ่มปรับตัว...
เปลี่ยนสี ผลัดใบ...
ธรรมชาติทำให้ต้นไม้ใบหญ้าเรียนรู้
ที่จะสะสมอาหารในฤดูฝนอันอุดม เติบโตงดงาม
เตรียมพร้อมรับวิกฤติที่มากับสายลมหนาว
ทิ้งใบลดการคลายน้ำ ลดการใชัพลังงาน
พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง และพร้อมจะเติบโตยิ่งขึ้น
เมื่อฤดูอันเหน็บหนาวผ่านพ้นไป
ใบที่ร่วงหล่นลงพื้น กลายเป็นพลังของการเติบโต
ผลิดอก ออกผลในกาลต่อไป
#ชีวิตก็เช่นกัน
วิกฤติ ก็เป็นดุจลมเหนืออันหนาวเหน็บ
เป็นทั้งมรสุมที่ถาโถมเข้ามาในชีวิต
เป็นสิ่งที่ไม่มีใครปฏิเสธได้
และมาโดยไม่มีคำเตือน
อย่าได้พึงประมาทเลย
สร้างชีวิตยามที่ยังแข็งแรง มีพลัง
จะได้ใช้ชีวิตในเวลาอันควร
ถ้าไม่พากเพียรในท่ามกลางฤดูอันอุดมในสายฝนพร่ำ
จะมีอะไรให้ได้เก็บเกี่ยวในยามแล้งอันหนาวเหน็บเล่า
ความเจ็บปวด ท้อแท้ สิ้นหวัง ในยามวิกฤติ
แปรเป็นพลังที่จะผลักดันให้ลุกเดินต่อไป
เราอาจสูญเสียอะไรมากมายไปกับวิกฤติชีวิต
สูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง ขอไว้เพียงลมหายใจ
และอย่าสิ้นหวัง
เมื่อเราดึงโน้มกิ่งไผ่ลงมาต่ำเท่าไรก็ตาม
ให้เชื่อเถิดว่ามันจะมีพลังที่จะดีดกลับขึ้นไปสูงเท่านั้น
และเมื่อมันยืนอยู่ได้ มันจะแทงยอดสูงขึ้นไปอีก
#ชีวิตก็เช่นกัน
Then one by one the leaves began to fall
and now that winter come to call.
The last leaf that clings to the bound
Just one leaf that’s all there is now
Will my last hope fall with that lonely leaf,
lonely leaf,...
with the last leaf that clings to the bound.
สูญสิ้นอะไรก็ได้
ขออย่าได้สิ้นหวังเลย
๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๐
Kawaguchiko, Japan
โฆษณา