Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ถมกอล์ฟท็อปชิต
•
ติดตาม
3 พ.ค. 2020 เวลา 15:29 • กีฬา
"โอกาส" ของ เรอัล มาดริด ใน “วิกฤต” ของทีมอื่น ✨
วงการลูกหนังแดนกระทิงตกอยู่ในยุคของ บาร์เซโลน่า มาอย่างต่อเนื่องหลายต่อหลายปี นับตั้งแต่ที่ ‘แฟรงค์ ไรจ์การ์ด’ นำ ‘บาร์ซ่า’ กลับมาครองแชมป์ลีกได้ในปี 2005
รอยต่อความสำเร็จนับจากนั้น “เจ้าบุญทุ่ม” ครองแชมป์ ลา ลีกา 10 สมัย แบ่งให้ เรอัล มาดริด แค่ 4 สมัย และเปลี่ยนบรรยาศให้ แอตเลติโก มาดริด สร้างตำนานโรบินสัน รัชดา ไป(กับเค้าด้วย)ได้ตั้ง 1 สมัยถ้วน
แต่ถึงอย่างนั้น มาดริด ไม่ถือว่าเสียหน้านักในแง่ของความสำเร็จ ด้วยเพราะการเอาแชมป์ใหญ่กว่าอย่าง ‘UCL’ มาเชยชมสำเร็จ
การได้ ‘ซีดาน’ มาสร้างตำนานเหนือมนุษย์ คุมทีมเก่าสมัยนักเตะคว้าถ้วย “บิ๊กเอียร์ส” ซะ 3 ปีติด จัดว่าเป็นการคานอำนาจคู่แข่งทางตรงได้เป็นอย่างดี
ปัจจัยในการเปลี่ยนวัฎจักรของฟุตบอลโดยเฉพาะลีก ที่ว่ากันตรงๆคือแข่งกันอยู่แค่ 2 ส่วนที่เหลือเป็นได้แค่สีสันบันเทิง นั่นก็คือการตัองจ้องสร้างทีมให้เก่งขึ้นกว่าคู่แข่ง ไม่งั้นก็อดทนรักษาระดับเอาไว้ แล้วรอให้คู่แข่งแพ้ภัยตัวเอง แต่สถานการณ์ที่จะดีที่สุดคือ สร้างทีมให้แกร่งไว้ พร้อมโบนัสคือคู่แข่งอ่อนกำลังไปด้วยพร้อมๆกันเลย
จังหวะของการเปลี่ยนวัฎจักรฟุตบอลสเปนรอบนี้ดูเหมือนใกล้เข้าไปเรื่อยๆ บาร์ซ่า ออกอาการมาตลอดตั้งแต่เสีย ‘เนย์มาร์’ ให้ เปแอสเช
เงินก้อนใหญ่ที่ได้มากลายเป็นเข้าเนื้ออย่างรวดเร็ว จึงเร่งกวาดมาทั้ง อุสมัน เดมเบเล่ และ ฟิลิเป้ คูตินโญ่ เหตุที่จำต้องสอยมาทั้งคู่ ก็เพราะดีล ‘คูตี้’ ล่าช้ากว่าแผนไป 6 เดือนนั่นเอง
เวลาผ่านไปทุกสิ่งย่อมมีเสื่อมเป็นธรรมดา แกนหลักต้องอำลาไปด้วยเรื่องสังขาร ดีลใหม่ๆถ้าเทียบกับเงินที่ลงทุนไปก็ล้มเหลวแทบทุกดีลมาต่อเนื่องซะหลายปี ปัญหาถูกโยงไปหลายจุดลามไปยันการเมืองภายใน แม้แต่เรื่องโค้ชก็ยังไม่รู้ว่าใครคือคนที่ใช่ และตอนนี้สัญญาณเรื่องการเงินก็แทรกเข้ามา ทั้งที่เกิดจากการบริหารและพิษโควิด19 นั่นคือปัญหาของบาร์ซ่าที่ต้องเร่งซ่อม จะช้าจะเร็วต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
ไหนจะทยอยมีข่าว ‘เลโอ เมสซี่’ ที่อำนาจใหญ่คับทีม ออกมาฮึ่มๆกับบอร์ดบริหารไม่ขาดสาย พาลให้ถูกมองว่าอาจจะไม่ได้เลือกอยู่จนจบชีวิตค้าแข้งที่คัมป์นู อย่างที่คิดกันตอนแรกก็อาจเป็นได้
นาทีนี้นับว่าจังหวะกลับมาเข้าทาง มาดริด ให้ถึงเวลายึดอำนาจลูกหนังสเปนกลับคืนได้
ชื่อเสียงเดิมๆของทีมในยุคก่อนที่เคยกวาดต้อนแข้งแม่เหล็กโลก ไม่ใช่นโยบายมาหลายปี เอาให้ชัดก็ตั้งแต่ช่วงที่ ‘ราฟา’ เข้ามาแทน ‘อันเช่’ ในซัมเมอร์ปี 2015 จากนั้น มาดริด เข้าสู่ตลาดนักเตะด้วยวิถีที่ต่างไปจากเดิม เราไม่ได้เห็นการทุ่มซื้อเป็นสถิติกันอีกแล้ว
จนกระทั่ง ซีดาน รีเทิร์นรอบ 2 จึงได้เห็น มาดริด ควักกระเป๋าเป็นเรื่องเป็นราวหน่อยในช่วงซัมเมอร์ล่าสุดนี่เอง บิ๊กเนมคือ ‘เอแดน อาซาร์’ รวมถึงอีกหลายรายที่เป็นพวกดาวรุ่งแววดีค่าตัวสูงระดับหนึ่งอย่าง มิลิเตา, โยวิช, เมนดี้, โรดรีโก้ และล่าสุด เรเนียร์ เชซุส
ทว่าเอาเข้าจริง แข้งเหล่านี้ส่วนใหญ่ยังผลงานยังไม่ดีพอในปีแรก เว้นแต่ เมนดี้ ที่แย่งตัวจริงจาก มาร์เซโล่ ได้อย่างสนุก ส่วนพวกที่เหลือก็คงยังพอมีโอกาสลุ้นพิสูจน์ตัวเองได้ในซีซั่นหน้า (ซึ่ง “เวลา” เป็นสิ่งที่คุณจะได้รับไม่บ่อยแน่ ในการเป็นนักเตะสโมสรแห่งนี้!)
อันที่จริงแนวทางการบริหารเรื่องนักเตะเข้า-ออก ที่ทำให้ผลประกอบการเป็นบวกมาหลายซัมเมอร์ พร้อมด้วยผลงานสุดยอดในถ้วยยุโรปทำให้ มาดริด มีสถานะการเงินที่แข็งแกร่งขึ้นไปเรื่อยๆ นั่นเป็นมุมที่สวนทางกับคู่แข่งตลอดกาลของพวกเขา
ลองดูภาพรวมกันว่า มาดริด จะจัดการกับตลาดนักเตะรอบหน้ากันแบบไหน ที่ถือว่าเป็นจุดที่ทำให้เหนือกว่าคู่แข่งได้
มาดริด อาจไม่จำเป็นต้องระดมเงินสดเข้ามาใช้จ่าย เพราะมีนักเตะในมืออยู่มากพอจะสร้างความได้เปรียบ บางคนอาจจะถูกขาย บางคนอาจจะปล่อยยืม หรือเอาไว้เป็นออพชั่นแลกตัว
หากนับกันตามสัญญาที่มีอยู่ ซีซั่นหน้า มาดริด จะมีนักเตะในทีมชุดใหญ่ 36 คน เคาะให้ได้ขนาดที่เหมาะสม มาดริด จะพร้อมปล่อยนักเตะได้ราว 15 คน
แบ่งเป็นกลุ่มที่ไม่อยู่ในแผนของ ซีดาน ขายขาดได้จะดีที่สุด ฮาเมส โรดริเกวซ, แกเร็ธ เบล, บราฮิม ดิอาซ และมาเรียโน่ ดิอาซ
กลุ่มที่กำลังจะกลับมาจากสัญญายืมตัว อัชราฟ ฮาคิมี่, ดานี่ เซบายอส, เซร์คิโอ เรกีลอน, ออสการ์ โรดริเกวซ, เฆซุส บาเยโฆ่, บาร์ฆ่า มาโยราล, ทาเคฟูสะ คูโบะ และ มาร์ติน โอเดการ์ด
นักเตะกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ผลงานดีจนถึงดีมาก ดังนั้นมูลค่าย่อมสูงขึ้นแน่นอน ยกมาให้ ซีดาน คัดก่อนได้เลยว่าจะเก็บใครไว้ใช้เองบ้าง ที่เหลือจัดสรรทางธุรกิจให้เหมาะว่าจะปล่อยยืมอีกรอบหรือขายทำกำไร
นอกจากนี้เรายังอาจจะได้เห็นนักเตะที่อยู่มา 13 ปี อย่าง มาร์เซโล่ ย้ายออกเพราะเข้าสู่ช่วงขาลง และมี ยูเวสตุส พร้อมรับไว้ดูแล
นี่คือสถานการณ์ของ มาดริด ที่ทำมาหากินกับเรื่องบริหารนักเตะได้ดีอย่างเหลือเชื่อ ผิดกับสมัยก่อนที่เคยขึ้นชื่อเรื่องขยันสร้างหนี้ ตอนซื้ออย่างแพง ตอนปล่อยแทบจะแถมเจลล้างมือ
พอคุมเกมตลาดนักเตะไว้ในมือได้ มาดริด ทำตัวเหมือนนายทุนรอช้อนหุ้นได้สบาย หากตลาดปั่นป่วนเพราะผลกระทบจากโควิด19 นักเตะที่ล็อคเป้าเอาไว้ราคาหล่นลงมาในจุดที่น่าลงทุน ไม่ว่าจะเป็น เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์, ปอล ป๊อกบา หรือแม้กระทั่ง คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้
เมื่อถึงเวลานั้นมั่นใจได้เลยว่า เรอัล มาดริด จะเป็นหนึ่งในไม่กี่ทีมที่พร้อมปฏิบัติการคว้าโอกาสในวิกฤตหนนี้
เรื่อง : ชิตพล
#TGTC
บันทึก
5
6
5
6
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย