5 พ.ค. 2020 เวลา 12:00 • ประวัติศาสตร์
MovieTalk "MovieMove Gallery " วันนี้ในอดีต
จดหมายเหตุแห่งกรุงรัตนโกสินทร์
"งานพระราชพิธี พระบรมราชาภิเษก"
ประมวลภาพบรรยกาศวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๒
ช่วงเดือนพฤษภาคม ของปีที่แล้ว ได้ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ เนื่องจากเป็นวันที่มีพระราชพิธี พระบรมราชาภิเษก ที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๑๐
เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติบรมราชาภิเษกเป็นพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
นำมาซึ่งความปิติแก่พสกนิกรทุกหมู่เหล่า
โดยงานพระราชพิธีฯ ถูกกำหนดขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ ๔ - ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๒
ในช่วงเวลาดังกล่าว ผมได้ไปปฏิบัติหน้าที่เป็นนักข่าว-ช่างภาพอาสา และมีโอกาสได้เก็บภาพบรรยากาศตามสถานที่ต่าง ๆ และนำมาโพสต์ในบทความผ่านทางหน้าโปรไฟล์ของผมในปีที่แล้ว
วันนี้ของปีที่แล้วจึงมีความสำคัญจนควรแก่การถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ไทย ถือเป็นจดหมายเหตุแห่งกรุงรัตนโกสินทร์
และสำหรับพวกเราที่ได้มีโอกาสร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงานพระราชพิธีอันสำคัญเช่นนี้ วันนี้จึงเป็นตอนที่ ๒ ของซีรีย์สชุดนี้
ประมวลภาพงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
วันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๒
นี่คือตลอด ๑๒ ช.ม.ภาพบรรยากาศแห่งความปีติของพสกนิกรชาวไทยที่เฝ้ารับเสด็จในหลวงเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร
ภาพจาก ทรท.
วันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๒ เป็นวันที่ ๒ ของงานพระราชพิธี พระบรมราชาภิเษก ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร พร้อมเดินขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ริ้วขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค จากพระบรมมหาราชวังไปยังวัดบวรนิเวศวิหาร, วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
ภาพจาก ทรท.
ภาพจาก ทรท.
ภาพจาก ทรท.
ภาพจาก ทรท.
ภาพจาก ทรท.
ภาพจาก ทรท.
ภาพจาก ทรท.
ภาพจาก ทรท.
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ทรงพระมาลาเส้าสูง ประทับบนพระที่นั่งพุดตานทอง สมเด็จพระนางเจ้าสุทธิดาและสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาในฉลองพระองค์เครื่องแบบเต็มยศนายทหารพิเศษมหาวิทยาลัยรักษาพระองค์ได้เข้าร่วมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศเคียงข้างพระราชทาน ทำการพสกนิกรเฝ้าชื่นชมพระบารมีแน่นทั้งสองฟากฝั่งถนนตลอดระยะทาง
ภาพจาก ทรท.
ตลอดสองฝั่งถนนตามเส้นทางเสด็จ พระราชดำเนินเลียบพระนคร รายล้อมไปด้วยพสกนิกรที่พร้อมใจกันใส่เสื้อเหลืองเฝ้ารอรับเสด็จท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนแรงไม่ได้ทำให้ย่อท้อต่อการชื่นชมพระบารมีอย่างใกล้ชิด
และไม่เพียงพสกนิกรชาวไทย บรรดาชาวต่างชาติ บ้างก็สมัครเป็นจิตอาสา บ้างก็เป็นนักท่องเที่ยวที่ขอมีส่วนร่วมเป็นประจักษ์พยานในพระราชพิธีแห่งประวัติศาสตร์ หลายคนซาบซึ้งถึง ความผูกพันระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์และประชาชนชาวไทย สะท้อนให้เห็นความหมายของประโยคที่ว่า "พระมหากษัตริย์ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจคนไทยทั้งชาติ"
ผมมาปักหลักรอรับเสด็จอยู่ตรงถนนข้าวสาร ฝั่งตรงข้ามกับเบอร์เกอร์คิง ตั้งแต่เที่ยงครึ่ง กลางแสงแดดจ้า
จิตอาสาชาวต่างชาติ
ขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค
ทรงพระเจริญ
ทรงพระเจริญ
ทรงพระเจริญ
ทรงพระเจริญ
เมื่อในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ทรงเสด็จพระราชดำเนินผ่าน ณ จุดที่รับเสด็จ และทรงหันพระพักตร์พร้อมกับแย้มพระโอษฐ์มาทางที่ผมนั่งรับเสด็จ และมองผ่านเลนส์กล้อง ผมก็น้ำตาหลั่งออกมา และเปล่งเสียง "ทรงพระเจริญ" ตลอดเวลา
หลังจากนั้นผมก็ย้ายจุดไปนั่งรอรับเสด็จรอบที่สองที่บริเวณท่าช้าง เพื่อเก็บภาพบรรยากาศในช่วงค่ำคืนอีกหนึ่งรอบครับ
เนื่องจากผมไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ขาตั้งกล้องนะครับ ดังนั้นภาพอาจมีอาการสั่นไหว ก็พยายามประคองมือให้นิ่งที่สุด แต่เลนส์มันก็หนักล่ะนะ ก็ทำให้ความคมดชัดลดลง
ทรงพระเจริญ
ทรงพระเจริญ
ทรงพระเจริญ
พอส่งเสด็จเสร็จก็เที่ยงคืนพอดิบพอดี ผมก็เดินเท้ากลับบ้านถึงบ้านประมาณก่อนตี 1 รีบนอนเพราะยังมีภารกิจในวันพรุ่งนี้อีก 1 วันครับ
แล้วพบกันใหม่ในตอนที่ ๓ เป็นประมวลภาพของวันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ครับ
Photo by มูฟวี่
ขอบคุณที่มาข้อมูล: phralan.in.th, thairath.co.th
ขอบคุณที่มาภาพประกอบ: โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา