Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
นักเล่านิทรา
•
ติดตาม
4 พ.ค. 2020 เวลา 13:40 • ประวัติศาสตร์
หลวงมงคล ตำนานทหารหนังเหนียวจนฝรั่งต้องจดบันทึก
เรื่องนี้ต้องแจ้งก่อนว่าผมเองได้อ่านพบในจดหมายเหตุของวัน วลิต ซึ่งฟังชื่อคนเขียนจะเข้าใจว่าเป็นคนไทยเรา เพราะว่าชื่อนั้นไทยเสียเหลือเกิน ที่จริงแล้วผู้จดบันทึกจดหมายเหตุนี้เอาไว้เป็นพ่อค้าชาวฮอลันดา ชื่อว่า เยเรเมียตส์ ฟานฟลีต ที่เข้ามาพร้อมคณะราชทูตสมัยพระเจ้าปราสาททอง ซึ่งได้ฟังเรื่องราวการผลัดแผ่นดินที่วุ่นวาย อันนำมาซึ่งอำนาจของพระเจ้าปราสาททอง สามัญชนผู้ได้บัลลังก์มาจากลูกหลานของพระนเรศวร ก่อนขึ้นเป็นกษัตริย์ปฐมราชวงศ์ปราสาททอง
เรื่องราวนั้นเริ่มขึ้นในช่วงปลายรัชสมัยพระเจ้าทรงธรรม ซึ่งขณะนั้นพระเจ้าปราสาททองเป็นขุนนางใหญ่ที่ตำแหน่งออกญาศรีวรวงศ์ เจ้ากรมวัง อันมีความสนิทสนมและเป็นที่ไว้ใจเป็นอย่างมาก จนเมื่อใกล้สวรรคตถึงขนาดเรียกมาสอบถามว่าหากจะยกบัลลังก์ให้แก่พระโอรสแทนที่จะเป็นพระอนุชาคือพระพันปีศรีสินมหาอุปราชตามมณเฑียรบาลจะเห็นด้วยและช่วยดูแลพระโอรสได้หรือไม่ ซึ่งก็ได้รับการยืนยันว่าจะช่วยประคับประครองบัลลังก์ของยุวกษัตริย์ตามที่พระเจ้าทรงธรรมต้องการ
ดังนั้นเมื่อผลัดแผ่นดินแล้วปัญหาความไม่สงบจึงเกิดขึ้นทันที ออกญากลาโหม ออกพระท้ายน้ำ ออกญาพระคลัง ถูกประหารและริบทรัพย์พร้อมกับการจับกุมขุนนางใหญ่ที่สนับสนุนพระมหาอุปราช ฝ่ายพระพันปีศรีสินตัดสินใจออกบวชเพื่อหนีราชภัย
1
ซึ่งเพศบรรพชิตไม่สามารถทำให้พระเชษฐาธิราชกษัตริย์พระองค์ใหม่และออกญาศรีวรวงศ์ที่ได้เลื่อนขึ้นเป็นเจ้าพระยากลาโหมศรีสุริวงศ์จะไว้ใจได้ จึงได้วางแผนให้ออกญาเสนาภิมุข(ยามาดะ นางามาสะ) ไปลอบชักชวนให้พระพันปีศรีสินสึกออกมาเพื่อชิงบัลลังก์ โดยอ้างว่าออกญาญี่ปุ่นพร้อมด้วยทหารอาสาจะนำกำลังเข้าวัง เพื่อชิงบัลลังก์คืนแก่พระองค์ ทวงคืนตามสิทธิ์อันชอบธรรม เมื่อฝ่ายพระมหาอุปราชหลงเชื่อก็สึกเข้าวัง สุดท้ายจึงได้รู้ว่าเป็นแผนหลอก หากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้และตัดสินโทษประหาร หากแต่พระเชษฐาธิราชไม่ประสงค์ให้เลือดของพระเจ้าอาแปดเปื้อนแผ่นดินอยุธยา จึงตัดสินโทษตายให้นำไปประหารโดยโยนในบ่อน้ำร้างหวังให้อดข้าวอดน้ำตายที่พริบพรี(เพชรบุรี)
ตรงนี้เองที่ตัวเอกของผมได้โลดแล่นออกมามีบทบาทในประวัติศาสตร์ พระเอกในเรื่องของเราคือออกหลวงมงคล โดยชื่อเต็มก็ไม่ปรากฏชัด ฟานฟลีตบันทึกไว้เพียงว่าน่าจะเป็นพระญาติของพระมหาอุปราชหรือจอมทัพมากฝีมือในวังหน้า ซึ่งมีความจงรักภักดีเจ้านายมาก จึงได้หาทางไปช่วยเหลือให้หลุดพ้นพันธนาการ แผนการก็คลาสสิคไม่มีอะไรมาก ในเมื่อถูกขังให้อดตายในบ่อน้ำใต้ดิน ก็ต้องขุดหลุมเข้าไปช่วย โดยความช่วยเหลือของกองทหารเก่าและพระสงฆ์ที่นับถือพระพันปีศรีสิน จึงได้ช่วยกันจนสำเร็จ แล้วเอาศพทหารเปลี่ยนเสื้อผ้าทิ้งไว้ ด้านผู้คุมเห็นว่าร่างเจ้าของภูษามหาอุปราชแน่นิ่งก็มิได้ลงมาตรวจสอบ รีบให้คนกลบฝังปากหลุมแล้วรายงานข่าวดีนั้นเข้าพระนคร
ฝ่ายพระมหาอุปราชหนีออกมาได้ ก็ตั้งตนเป็นใหญ่ที่พริบพรี มีทหารและเจ้าเมืองหลายเมืองเข้าร่วมซึ่งทั้งหมดก็ด้วยการติดต่อของหลวงมงคลทหารเอก พระพันปีศรีสินจึงตั้งตนเป็นกษัตริย์ที่เพชรบุรี แต่งตั้งออกหลวงมงคลเป็นเจ้าพระยากลาโหมแม่ทัพใหญ่ วางแผนยกทัพกลับชิงอำนาจคืน สร้างความหวั่นใจให้ฝ่ายพระเจ้าแผ่นดินผู้เป็นหลานอย่างยิ่ง
1
ฝ่ายเจ้าพระยากลาโหมสุริวงศ์ตัดสนใจใช้แผนเดิมอีกครั้ง เพราะเชื่อว่าความไว้ใจที่มีต่อออกญาเสนาภิมุขนั้นมีอยู่มาก ตรงนี้เองที่น่าแปลกใจ โดนมาขนาดนั้นเชื่อได้อย่างไร แต่เอาเป็นว่าสุดท้ายก็เชื่อด้วยออกญามีชื่อกระทำสัตย์สาบานว่าจะร่วมด้วยฝ่ายเพชรบุรี นำทัพสู้รบกับออกญากำแหงแม่ทัพใหญ่ฝ่ายอยุธยา แล้วก็เข้าอีหรอบเดิม ฝ่ายออกญาเสนาภิมุขกระทำผิดคำสาบาน ยกพวกกองอาสาญี่ปุ่นเข้าก่อกวนไล่ตีกลางทัพของพระพันปีศรีสินจนแตกพ่ายไม่เป็นท่า ไม่น่าเชื่อว่ากองทัพสองหมื่นของพระเจ้าอาต้องพ่ายแพ้ต้อกลศึกของฝ่ายหลาน แม้แต่ตัวเองก็ไม่รอดพ้นถูกจับ
คราวนี้เพื่อไม่ให้พลาดจึงตัดสินสำเร็จโทษพระองค์ด้วยท่อนจันทร์เสียในกรุง โดยก่อนจะรับอาญาทรงตรัสสอนหลานในทำนองว่า เจ้าพระยากลาโหมผู้นี้เป็นผู้คิดชั่วกระทำผิดเป็นนิจแต่วัยหนุ่ม จนต้องพระราชอาญาบ่อยๆ ไม่ได้มีความภักดี คิดเลี้ยงแต่พวกพ้องของตน ตัวอาแม้จะต้องโทษประหารมิได้เสียดายชีวิต หากแต่เป็นห่วงว่าหากหลานเชื่อแต่ขุนนางทุรยศ วันหนึ่งมันจะล้มบัลลังก์และตั้งขึ้นเป็นกษัตริย์เสียเอง แผ่นดินของบรรพชนจะล่มสลายไป ซึ่งแม้ต่อไปภายหน้าจะเป็นดังคำเตือนของพระพันปีศรีสิน แต่ในวันนั้นพระเชษฐาธิราชมิได้ฟัง และมีคำสั่งประหารทันที
ด้านออกหลวงมงคลที่แสดงฝีมือในการช่วยให้เจ้านายหลบหนีไปครั้งหนึ่งแล้ว ยังได้แสดงความสามารถทางการทูตชักชวนหัวเมืองต่างๆ จนมีกองทัพขนาดสองหมื่นนายและยังโชว์ฝีมือการรบจนเป็นที่เกรงขาม หากแต่ต้องด้วยกลศึกพ่ายแพ้ไป เมื่อทราบว่าเจ้านายสิ้นพระชนม์แล้วก็วางแผนลอบเข้ากรุงหมายจะสังหารศัตรูคู่แค้นสำคัญคือเจ้าพระยากลาโหมนั่นเอง แต่ความที่เป้าหมายถูกดึงรั้งตัวในวังโดยบังเอิญ รอแล้วรอเล่าก็ไม่มาเสียที จึงเลิกแผนแล้วไปช่วยเมียหลวงและเมียน้อยของตนหนีเข้าป่ารอยต่อเมืองมอญหวังมีชีวิตสงบเงียบ
ความทราบถึงเจ้าเมืองที่ดูแลเขตพำนักนักโทษสำคัญ ว่าบัดนี้มีผู้ต้องอาญาร้ายแรงหนีมาอาศัยอยู่ในเขตปกครอง แต่ความที่ร่างกายกำยำดังมหายักษ์ ฝีมือเชิงดาบที่เลื่องชื่อ ไหนจะวิยาอาคมที่ร่ำลือกันว่าออกหลวงผู้นี้หนังเหนียวจนคมโลหะใดๆ ไม่อาจลิ้มเลือดชิมเนื้อได้ ดังนั้นจึงอาศัยช่วงที่ออกหลวงมงคลไปล่าสัตว์ เข้าไปจับตัวเมียหลวงและเมียน้อยไป
ฝ่ายขุนศึกหนุ่มเมื่อทราบเรื่องก็หมดอาลัยตายอยาก เห็นว่านอกจากเจ้านายที่มอบความภักดีให้ทั้งหมดจะได้สิ้นพระชนม์ไปแล้ว ลูกเมียก็ต้องมาพลอยลำบากรับเคราะห์กรรม เลยตัดสินใจไปมอบตัวที่ทางการเมืองขอให้ส่งตัวเข้าพระนครเพื่อรับพระราชอาญา ฝ่ายเจ้าเมืองจะใส่โซ่ตรวนออกหลวงมงคลก็ตวาดเสียหัวหดกันหมด ด้วยว่าที่มามอบตัวก็หมดอาลัยมิได้หวั่นเกรงความตาย ไม่คิดจะหลบหนี ไม่จำเป็นต้องคุมขังให้ไร้เกียรติ หากจะหนีแล้วโซ่เส้นเท่านี้หรือทหารทั้งหมดก็คงไม่อาจจะห้ามได้ จึงได้รับการนำตัวเข้าพระนครดังทหารธรรมดาไม่มีการควบคุมใดๆ
ฝ่ายพระเชษฐาธิราชมีความถูกใจออกหลวงมงคลด้วยเห็นว่ามีฝีมือ จึงให้เจ้าพระยากลาโหมไปเกลี่ยกล่อม แต่ออกหลวงมีชื่อกลับสวนด้วยถ้อยคำเจ็บแสบว่าเจ้าแผ่นดินของเขามีองค์เดียวและสิ้นพระชนม์ไปแล้ว ที่มีบนบัลลังก์ตอนนี้ก็แค่เด็กน้อยกับโจรกบฏที่ก่อเหตุทรยศต่อความถูกต้อง ขอความตายเป็นรางวัลแทนที่จะเป็นขี้ข้าพระเจ้าแผ่นดินนอกกฎหมาย
ทำให้แม้จะเสียดายแค่ไหนก็ต้องส่งพระเอกของเราขึ้นสู่ตแลงแกง สั่งประหารด้วยการตัดคอ และเรื่องราววิชาอาคมของออกหลวงมงคลก็ยิ่งเพิ่มสีสันมากขึ้นด้วยปลายปากกาของฟานฟลีตที่ไ
ด้เล่าอย่างสนุกสนานว่า ดาบหลายเล่มฟาดฟันลงไปที่คอกี่เล่มก็เป็นอันหักงอไปเสียหมด จนหลวงมงคลโมโหลุกขึ้นกระชากตรวนขาดสะบั้นแล้วบีบคอเพชรฆาตตายคามือ ก่อนจะขอน้ำมาทำน้ำพระพุทธมนต์ ดื่มกินไปส่วนหนึ่ง นำมาชโลมตัวอีกส่วนหนึ่ง แล้วใช้มือขวาจุ่มน้ำก่อนทาเป็นสัญลักษณ์ที่ชายโครงซ้าย ซึ่งเป็นจุดที่หากฟันแล้วเครื่องในไส้พุงจะไหลออกมาไวที่สุด แล้วสั่งเพชฌฆาตคนใหม่ว่าให้ฟันให้ตรงจุด มิเช่นนั้นจะฆ่าเสียอีกคน
ด้วยความเกรงกลัวก็ยังทำให้เพชฌฆาตพลาดเป้าไปแต่รอบนี้หนังของออกหลวงมงคลไม่เหนียวอีกแล้ว เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นพร้อมคำขู่ให้รีบแทงดาบลงตรงกลางหัวใจ มิเช่นนั้นหากยังรอดในดาบต่อไปเพชรฆาตจะต้องสิ้นชีพเสียเอง ซึ่งสิ้นคำสั่งนั้นเพชรฆาตก็เสือกดาบเข้าแทงกลางหัวใจอย่างสุดแรง ยอดขุนพลในตำนานก็สิ้นชีพลงไปปิดฉากเรื่องราวของเขาแต่เพียงเท่านั้น
เรื่องราวของออกหลวงมงคลไม่ปรากฏในเอกสารอื่นๆ แต่ถือว่าเป็นตัวละครในหน้าประวัติศาสตร์ที่มากสีสัน เรียกได้ว่าเป็นผู้มีคติความคิดแบบชายไทยชาติทหารโดยแท้ ทั้งความจงรักภักดีและวิชาอาคมประกอบความห้าวหาญแบบนักเลง ทำให้เมื่อได้อ่านเรื่องนี้เทีไรก็รู้สึกสนุกอยู่ทุกที จนเคยคิดว่าสักวันอยากจะลองเขียนนิยายเรื่องราวของออกหลวงผู้ที่ได้รับการยกย่องในสายตาพ่อค้ายุโรปนี้ดูสักครั้ง
ปล ขออนุญาตแทกหลายท่านที่สนใจครับ
5 บันทึก
13
1
5
5
13
1
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย