7 พ.ค. 2020 เวลา 17:38 • ความคิดเห็น
"China's Soft Power" อิทธิพลการศึกษาจีนในต่างแดน
The Confucius Institute programme began in 2004. The Chinese Government aims to establish 1,000 Confucius Institutes by 2020.
หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า 'Soft Power' อำนาจอ่อน หรืออำนาจละมุน ฟังดูมันอาจจะน่ารัก แต่ภายใต้ความน่ารักแอบแฝงไปด้วยอิทธิพลหลายอย่าง
อำนาจอ่อน (Soft Power) ตามแนวคิดของโจเซฟ เนย์ (Joseph Nye) คือ อำนาจที่เกิดจากการสร้างเสน่ห์เพื่อใช้โน้มน้าว รวมถึงการสร้างอิทธิพลทางสังคมและความคิดเพื่อเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมประชาชนประเทศอื่น ๆ โดยอาศัย 3 ปัจจัยสำคัญ คือ วัฒนธรรม ค่านิยมทางการเมือง และนโยบายต่างประเทศ
Telling the story and spreading the voices of China – the Confucius Institute builds a “spiritual express train” connecting china with the people of the world
สถาบันขงจื๊อ (Confucius Institute) เป็นหนึ่งในอำนาจอ่อน (Soft Power) ที่สำคัญมากที่สุดของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2004 เป็นองค์กรการศึกษาสาธารณะภายใต้กระทรวงศึกษาธิการของจีน ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมภาษาและวัฒนธรรมจีนในต่างประเทศ ทว่าองค์กรได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับอิทธิพลของจีนที่เพิ่มขึนในต่างประเทศ และหลายประเทศตั้งขอสงสัยว่า 'สถาบันขงจื๊อ' แท้จริงแล้วมีวัตถุประสงค์เพื่อสิ่งใดกันแน่ ทั้ง ๆ ที่แนวคิดของลัทธิขงจื๊อเป็นสิ่งที่คอมมิวนิสต์จีนต่อต้านมาโดยตลอด
สถาบันขงจื๊อเป็นนโยบายด้านการศึกษา เพื่อใช้ปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ให้กับประเทศจีน ถ้ามองย้อนกลับไปยุคขบวนการ 14 พฤษภาคม และการปฏิวัติวัฒนธรรมใหญ่ของจีน จะเห็นได้ว่า ประเทศจีนมองลัทธิขงจื๊อเป็นแนวคิดที่ล้าสมัยและสร้างความเหลื่อมล้ำระหว่างชนชั้นทางสังคมจีน การปฏิวัติวัฒนธรรมใหญ่ครั้งนั้น ได้ทำลายคตินิยมเก่า ๆ ของลัทธิขงจื๊อ และเปลี่ยนแปลงให้คนเชื่อในลัทธิคอมมิวนิสต์ของเหมา เจ๋อตง
Confucius Institutes: The growth of China's controversial cultural branch --BBC
แก่นแท้ของลัทธิคอมมิวนิสต์จีน คือ การต่อต้านระบบอำนาจเดิม รวมถึงต่อต้านความเชื่อทางศาสนาและลัทธิต่าง ๆ แต่ปัจจุบันสถาบันขงจื๊อได้กลายเป็นอำนาจอ่อน (Soft Power) ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เพื่อใช้ดำเนินนโยบายทางการทูตผ่านระบบการศึกษาของประเทศต่าง ๆ
รวมถึงการลงทุนด้านการศึกษาให้ทุนนักเรียนต่างชาติเข้ามาศึกษาในมหาวิทยาลัยจีน ทุนการศึกษาแบ่งออกเป็นหลายโครงการ ซึ่งการให้ทุนนักศึกษาต่างชาติเป็น Soft Power อย่างหนึ่งเพื่อปรับภาพลักษณ์ของประเทศและเห็นผลเร็วที่สุด
บทความของบีบีซี เขียนโดย Pratik Jakhar เกี่ยวกับการถกประเด็นเรื่องสถาบันขงจื๊อ "เผยแพร่วัฒนธรรมจีน" หรือ "สื่อโฆษณาชวนเชื่อ" อย่างไรก็ตาม ทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีควีนส์แลนด์ กล่าว่า สถาบันขงจื้อในมหาวิทยาลัยเป็นแค่การจัดการเรียนการสอน ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการทำงานของมหาวิยาลัย ก็ถือว่าเป็นการโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลจีน หรือการคุกคามเสรีภาพทางวิชาการ
ปลายเดือนสิงหาคม 2019 New South Wales ประกาศปิดสถาบันขงจื๊อและโครงการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และอีกไม่กี่เดือนต่อมา สถาบันขงจื๊อในสหรัฐฯ สหราชอาณาจักรฯ สวีเดน และเดนมาร์กปิดไปตาม ๆ กัน และโรงเรียนรัฐบาลในรัฐนิวบรันสวิก ประเทศแคนาดา ประกาศยกเลิกโครงการบางส่วนของสถาบันขงจื๊อ
สำนักข่าว RFA ได้สัมภาษณ์ประเด็นที่ประเทศสวีเดนได้ปิดสถาบันขงจื๊อ 4 แห่ง รวมถึงสถาบันขงจื๊อที่ทำการร่วมกับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในสวีเดน
Fredrik Fällman, นักวิชาการด้านจีนศึกษา มหาวิทยาลัยกอเทนเบิร์ก ให้สัมภาษณ์สื่อว่า "ชาวตะวันตกไม่ได้เข้าใจเกี่ยวกับลัทธิขงจื่ออย่างถ่องแท้ แต่ความจริงแล้วคนส่วนใหญ่รู้จักประเทศจีนในฐานะประเทศเผด็จการ ประเทศที่ปกครองด้วยลัทธิคอมมิวนิสต์ ไม่ใช่สังคมที่โปร่งใส เสรี และเปิดกว้าง เราเป็นนักวิชาการด้านจีนศึกษา มีประสบการในด้านนี้ และค่อนข้างเข้าใจความพยายามของรัฐบาลจีน สิ่งเหล่าเราสามารถควบคุมได้"
ประเด็นที่เป็นปัญหาสำคัญของสถาบันขงจื๊อ เป็นองค์กรอิสระที่ถูกควบคุมเนื้อหาการเรียนการสอนโดยรัฐบาลจีน สั่งห้ามไม่ให้พูดถึงหรือถกประเด็นเกี่ยวกับนักกิจกรรมฝ่าหลุนกง ปัญหาของจีนกับทิเบต ซินเจียง ไต้หวัน รวมถึงประวัติศาสตร์ของชนชาติพันธุ์กลุ่มน้อยในจีน ซึ่งเป็นการศึกษาเรื่องราวประวัติศาสตร์ของประเทศจีนที่ไม่ครอบคลุม, Fredrik Fällman กล่าว
ทั้งนี้จีนเป็นประเทศที่ปิดกั้นอินเตอร์เน็ตจากโลกภายนอก และปิดกั้นสื่อที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน อย่างไรก็ตาม จีนใช้โอกาสเสรีภายนอกในการสร้างอิทธิพลสื่อ เช่น ใช้ประโยชน์จากแฟลตฟอร์มอย่าง Facebook, Twitter, Instagram, YouTube เพื่อโปรโมทภาพลักษณ์ หรือสร้างสื่อโฆษณาชวนเชื่อ (Propaganda)
นโยบายขององค์กรการศึกษาที่จีนกำลังดำเนินอยู่นั้น สอดคล้องกับทฤษฎีอำนาจอ่อน (Soft Power) ของโจเซฟ เนย์ (Joseph Nye) แม้ว่าอำนาจอ่อนจะไม่สามารถคาดเดาผลลัพธ์ได้ 100% ทว่าการใช้อำนาจอ่อนกระจายไปทั่วโลก โดยการแทรกซึมทางวัฒนธรรม ซึ่งเป็นบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการเปลี่ยนแปลงความคิดทางสังคม
1
ดังนั้นรัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์จีน จึงได้พยายามสร้างอิทธิพลการเมืองผ่านสถาบันขงจื๊อ รวมถึงแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างประเทศ และใช้สถาบันขงจื๊อที่เป็นเครื่องมือในการขยายอิทธิพลทางการศึกษา เพื่อครอบงำความคิดของคนทั่วโลก และเพื่อปิดบังความจริงในอดีตและปิดปากผู้คนไม่ให้พูดถึงเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อพรรคคอมมิวนิสต์จีน
1
References:
[1] What are Confucius Institutes?, https://no-confucius-institutes.org
[2] Confucius Institutes: The growth of China's controversial cultural branch, www.bbc.com/news/amp/world-asia-china-49511231
[3] 从中亚孔子学院看中国软实力外交-中国讯息网 - 相信讯息的力量, http://chinaxunxi.com/yd/10614.html
[4] 瑞典关闭孔子学院 不接受中国独裁, https://www.rfa.org/mandarin/yataibaodao/zhengzhi/cl-04262020202639.html
โฆษณา