5 พ.ค. 2020 เวลา 11:53 • ธุรกิจ
โลกหลังจากนี้จะไม่เหมือนเดิม
เเละทองคำคือสิ่งที่จะปกป้องคุณได้
6 CENTRAL BANKS AND THE PONZI SCHEME
THAT WILL BANKRUPT THE WORLD
1
ธนาคารกลางทั้งหกเเละ Pozi Scheme (เเชร์ลูกโซ่)
กำลังจะทำให้ทั้งโลกล้มละลาย
ชะตากรรมของโลกขณะนี้อยู่ในมือของธนาคารกลางทั้งหกเเห่ง..
1.Federal Reserve หรือ Fed (ธนาคารกลางสหรัฐ)
2. European Central Bank หรือ ECB
3.Bank of England หรือ BOE
4.People's Bank of China (PBOC)
5.Bank of Japan (BOJ)
เเละสุดท้าย Swiss National Bank (SNB)
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ คือลางร้ายสำหรับระบบการเงินโลก
นี่มันเหมือนกับการทำให้คนร้ายมารับผิดชอบระบบตุลาการเเละกระบวนการยุติธรรม
เป็นเวลาหลายทศวรรษแล้วที่ธนาคารกลางเหล่านี้ใช้อำนาจในทางที่ผิดและควบคุมระบบการเงินโลก
เพื่อผลประโยชน์ของเพื่อนนายธนาคารและผู้ถือหุ้นของตน
ธนาคารกลางเหล่านี้ได้ทำการทุจริตและทำลายระบบการเงิน
โดยวิธีการการพิมพ์เงินและขยายวงเครดิตที่ไม่มีอยู่จริง
Everyone knows that creating money out of thin air makes
the money totally worthless
ทุกคนก็คงรู้ดีกันอยู่แล้วว่าการพิมพ์เงินจากอากาศนั้นจะทำให้เงินทั้งหมดที่มีอยู่ไร้ค่าเป็นเเค่เศษกระดาษไป..
เเละ bankers ก็รู้ซึ้งในเรื่องนี้ดี..
ถ้าคุณยืนอยู่ข้างๆเครื่องจักรผลิตเงินเเละรีบเก็บเงินก้อนเเรกออกมา
อย่างน้อยมันก็ยังมี Value อยู่บ้าง เเละหลังจากนั้นค่อยส่งเข้าไปในระบบ
เเละนี้คือสิ่งที่กลุ่ม Bankers ทำ
เมื่อเงินเหล่านี้เข้าสู่มือสาธารณชน มูลค่าของเงินก็ลดลงทันที
“Permit me to issue and control the money of a nation, and I care
not who makes its laws.”
ถ้าให้ฉันควบคุมระบบการเงินในประเทศล่ะก็
ฉันก็ไม่สนใจอีกเเล้ว ว่าใครจะเป็นคนสร้างกฏหมาย
1
คำพูดนี้ถูกกล่าวไปเมื่อ 200 ปีที่เเล้ว โดย Mayer Amschel Rothschild
1
WORTHLESS MONEY PRINTING LEADS TO WORTHLESS ASSETS
การพิมพ์เงินออกมาแบบไร้ค่า
จะนำไปสู่ทรัพย์สินที่ไร้ค่าเช่นกัน
เหล่า Bankers ไม่ได้เพียงเเต่ควบคุมเครื่องจักรผลิตเงินเท่านั้น
พวกเขายังควบคุมค่าใช้จ่ายทางการเงินอีกด้วย
ซึ่ง Bankers ทั้งหลายจะควบคุม cost of money ผ่านทาง interest rates
พวกเขาเหล่านี้ได้นั่งทางฝั่งตรงข้ามในเรื่องของ Demand เเละ Supply
So they can print unlimited amounts of money and price it at 0%
กลุ่ม Bankers สามารถพิมพ์เงินออกมาได้ไม่จำกัดจำนวนเเละเเน่นอนยังกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่ 0%
ผลของมันจึงทำให้เกิดฟองสบู่หนี้ขนาดมหึมาที่ไม่สามารถจะใช้คืนได้เลย
เเละการกระทำในส่วนนี้ได้ทำให้เกิดการสร้างตัวของ Assets Bubble
ขึ้นอีกด้วย
เเละตอนนี้เหล่าธนาคารกลางก็กำลังตื่นตระหนก
พวกเขาไม่สามารถที่จะหยุดการพิมพ์เงินได้อีกเเล้ว
นั้นจึงทำให้ Government Debt ปรับตัวสูงขึ้นเป็นอย่างมาก
ลองดูใน Balance Sheet ของหกธนาคารที่กล่าวมาข้างต้นนี้สิ
(ภาพด้านบน)
$3 trillion from $21 trillion at the end of February 2020
to $24T today (เป็นการปรับตัวสูงขึ้นที่น่ากลัวมากๆครับ)
But this is just the beginning...
เราต้องอย่าลืมว่าไม่ใช่เพราะ Coronavirus ที่เริ่มเรื่องจักรการพิมพ์เงินที่ว่านี้ มันเริ่มเดินเครื่องมาตั้งแต่ July 2019แล้ว
ในตอนนั้น ECB ออกมาเตือนชาวโลกถึงเรื่องใหญ่เเละเลวร้ายที่กำลังเกิดขึ้น และบอกว่า we will do whatever it takes (เราจะต้องทำทุกอย่างที่จำเป็น)
เพียงไม่กี่สัปดาห์จากนั้น Fed
ก็มีการเริ่มทำ Repo ทันที
(บังเอิญงั้นหรอ ส่วนตัวบังว่าไม่ใช่)
Fed started daily Repos of $100s of billions
และนั่นคือการเริ่มต้นของปัญหาใหญ่ในระบบการเงิน
$5 TRILLION CREATED WITH ZERO INTRINSIC VALUE
การสร้างเงินมูลค่า $5 ล้านล้าน
เเต่มูลค่าจริงกลับเป็น 0
At the end of Sep 2019
Fed balance sheet มีค่า 3.8T เท่านั้น
เเต่ตอนนี้กลับมีมูลค่าสูงถึง $6.6T
มันคือการปรับตัวสูงขึ้นถึง 2.8 Tเลยทีเดียว
ซึ่งการปรับตัวขึ้นส่วนใหญ่นี้อยู่ในเดือน March 2020
จำไว้ว่านี่ไม่ใช่เงินจริง แต่เป็นเพียงเงินที่ประดิษฐ์ขึ้นจากอากาศบางๆเท่านั้น มันไม่เกี่ยวข้องกับการทำงาน ไม่มีบริการเเละตอบแทนและ
ไม่มีการผลิตสินค้าใดๆ (worthless money)
WHY DOESN’T THE FED JUST PRINT THE ANNUAL US GDP
OF $21.5T
หากเงินกระดาษมีค่าเหมือนที่ทาง Fed พูดมาจริงๆ ทำไมไม่พิมพ์เงิน
$21.5 trillion annually (21 ล้านล้านต่อปี)
เทียบเท่ากับ US GDP ไปเลยหล่ะ
เเจกเงิน $65,000 ($21.5T divided by 331 million population)
ทุกคนก็จะได้ใช้จ่ายเงิน สร้างภาพฝันที่พวกเขาต้องการ
ถ้าตอนนี้เหล่า Bankers คิดว่าการพิมพ์เงินออกมาจะสามารถแก้ปัญหาได้
ทำไมต้องหยุดที่การพิมพ์เงินไว้ $21.5T (ปัจจุบัน)
ทำไมไม่ Double ไปที่ $43T ผู้คนจะได้มั่งคั่งขึ้น
คิดว่ามันน่าตลกมั้ย พวกเขากำลังจะบอกว่าการพิมพ์เงิน
ระดับ 10ล้านล้าน นั้นคือ Real Money
เเต่การพิมพ์เงินระดับ 100ล้านล้าน นั้นคือ Fake money..
พวกเขาคิดว่าจะทำเเบบนี้ไปได้อีกนานเเค่ไหน สักวันก็ต้องมีคนรู้ถึง
Ponzi scheme (เเชร์ลูกโซ่) ของพวกเขา
FED TO PRINT $9.5 TRILLION AND BUY ALL THE GOLD
IN THE WORLD
ถ้าจะทดสอบมูลค่าของเงินที่เเท้จริง
ผมเเนะนำให้ Fed ลองพิมพ์เงินสัก $9.5 ล้านล้าน
แล้วซื้อทองคำให้หมดโลกไปเลย
เมื่อถึงตอนนั้นตลาดจะรับรู้ได้ถึงมูลค่าของเงินกระดาษว่ามันไม่มีอยู่เลย
เเล้วสุดท้ายราคาทองคำก็จะวิ่งขึ้นไปไม่จำกัด (go to infinity)
1
ทองคำ GOLD
ทองคำเเละเงิน จะเป็นผู้ชนะอย่างเเท้จริง ในช่วงเวลาที่เกิดการเสื่อมค่า
อย่างรุนเเรงในสกุลเงินนั้นๆ
ผมยังคงยืนยันเป้าหมายเดิมที่ $10,000
กราฟนี้แสดงถึงราคาทองต่อปริมาณ Us Fiat currency
มันแสดงให้เห็นว่าทองคำในปัจจุบันมีราคาถูกเหมือนในปี 1970 เมื่อราคาอยู่ที่ $ 35 หรือในปี 2000 เมื่อทองคำอยู่ที่ $ 290
1
และเมื่อมีแรงกดดันของตลาด physical
เเละหากไม่สามารถส่งมอบทองคำจริงๆได้...
ทองคำก็เเค่รอเวลาในการ Break Out เท่านั้น
ผมก็ไม่ชอบคาดเดาราคาทองคำหรอกนะ
Still 10x today’s price or $17,000
เเต่ราคา $17,000 หรือ 10 เท่าของราคาปัจจุบัน
เมื่อมองไปที่ normal inflation มันก็ยังสมเหตุสมผล
Gold adjusted for real inflation would be at $18,100 to be equal to
the 1980 top of $850
ทองคำเมื่อคิดกับเงินเฟ้อเเล้ว
ราคาควรจะวิ่งไปที่ $18,100 ด้วยซ้ำ
เพื่อให้เท่ากับปี 1980 ที่ราคาทองคำ $850 นั่นเอง
Hyperinflation จะเป็นตัวที่จะเติมศูนย์หลายๆ ตัวในราคาทอง
เเต่มันก็ไม่มีความหมายหรอกนะ เพราะมูลค่าเงินมันได้เสื่อมไปเเล้ว
แต่มันจะมีความหมายสำหรับคนที่ยังคงถือเงินกระดาษไร้ค่าเหล่านั้น
Just speak to people who have lived in Venezuela, Zimbabwe, Hungary or Yugoslavia
ลองไปคุยกับคนที่อยู่ใน Venezuela ,Zimbabwe, Hungary หรือ
Yugoslavia ดูสิ
คุณจะได้รู้ถึงความเจ็บปวดของพวกเขา
เเละคุณจะเห็นถึฃความเเตกต่างอย่างชัดเจนของคนที่ถือเงินกระดาษเเละคนที่ไม่เชื่อในมัน
1
จำไว้เลยว่า Hyperinflation
ไม่ได้เกิดขึ้นจาก Demand ที่ไปทำให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้น
เเต่เพราะเกิดจากการล้มของ Currencies ต่างหาก
เเละเราจะได้เห็นเนื่องจากการพิมพ์เงินที่เพิ่มมากขึ้น
Physical gold ไม่ใช่สินทรัพย์เพื่อการเก็งกำไร
เเต่มันคือเงินตราที่รักษาอำนาจของตัวเองได้
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเเค่ไหนก็ตาม...
ทองคำ คือ หลักประกัน ที่จะปกป้องเราจาก Financial System
เเละ currency system ที่จะต้องล่มลายไป..
Egon von Greyerz
มุมมองของบัง
สำหรับคนที่ Anti Dollar หรือ ไม่ชอบสกุลเงินกระดาษนั้น (รวมถึงบังด้วย)
บทความนี้คงทำได้เห็นภาพ
เห็นมุมมองของระบบการเงินโลกที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้
ทองคำนั้นเป็นเหมือนกับประกันนั้นเเหละครับ
1
ประกันไปกับการเสื่อมค่าของสกุลเงินในเเต่ละประเทศนั้นๆ
คำถามที่หลายคนสงสัย
ถ้าถามบังว่าเเล้วราคาของทองคำมันควรไปอยู่ที่เท่าไหร่กันเเน่
1000,2000 หรือ 10,000 ดอลล่าร์เหมือนที่ Egon von Greyerz
อันนี้บังก็ตอบไม่ได้เหมือนกันครับ
เเต่ถ้าลองคิดกลับกัน เปลี่ยนส่วนนึงของคำถามขึ้นมาหล่ะ
บังครับ การลงทุนในทองคำ มันจะได้กำไรงั้นหรอครับ
บังก็จะตอบกลับไปว่า ตราบใดที่สกุลเงิน Fiat Currencies ยังไม่มีการผูกกับ Real Asset หรือ ไม่ถูกจำกัดปริมาณ Supply
Gold หรือ ทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ Hedge กับการเสื่อมค่าของสกุลเงิน
ก็จะปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ
(พูดเเบบง่ายๆคือกำไรนั้นเองครับ)
เปรียบเทียบทองคำกับสกุลเงินต่างๆ
1.GOLD PRICE IN RUSSIAN RUBLE
2.GOLD PRICE IN TURKISH LIRA - TURKEY
3.GOLD PRICE IN HUNGARIAN FORINT - HUNGARY
4.GOLD PRICE IN CHINESE YUAN - CHINA
5.GOLD PRICE IN EGYPTIAN POUND - EGYPT
6.GOLD PRICE IN IRANIAN RIAL - IRAN
7.GOLD PRICE IN US DOLLAR - UNITED STATES
เเละสุดท้าย
GOLD PRICE IN THAI BAHT - THAILAND
ทุกคนเห็นอะไรมั้ยครับ ?
เมื่อเปรียบเทียบทองคำกับมูลค่าของ
Currencies ต่างๆ
ทุกคนก็จะเห็นคำตอบอย่างชัดเจน
ถ้าสกุลเงินประเทศไหนอ่อนเเอ ราคาทองคำจะ Outperform ออกมาทันที..
ถ้าคุณถือทองคำ 1 ออนซ์
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเเค่ไหน
ในท้ายที่สุดคุณก็จะมีเเค่ทองคำ 1 ออนซ์เท่าเดิม
นี้คือคำพูดของคุณปู่ Warren Buffett..
ถ้าคุณถามคนที่เชื่อมั่นในหุ้น
คำตอบที่คุณจะได้ยินคือการลงทุนในหุ้น
ถ้าคุณถามคนที่เชื่อมั่นในอสังหาริมทรัพย์
คำตอบคือ การลงทุนในอสังหาริมทัพย์
ถ้าคุณถามคนที่เชื่อมั่นในสกุลเงิน Us Dollar
คำตอบคือ สกุลเงินดอลล่าร์จะยังอยู่เเละไม่หายไปไหน
ถ้าคุณถามคนที่เชื่อมั่นในทองคำ
คำตอบที่คุณจะได้ คือทองคำคือการลงทุนที่ดีที่สุด...
คุณอยากฟังคำตอบเเบบไหนงั้นหรอครับ.. ?
ตลาดหุ้นเป็นตลาดกระทิงมาตลอดตั้งเเต่เกิด
Great Financial Crisis
ถ้าวิกฤตในครั้งนี้ ได้ผลักให้เม็ดเงินจากตลาดหุ้นมาตลาดทองคำขึ้นมาหล่ะ ?
อย่าลืมทำการบ้าน คิด วิเคราห์เเละหาข้อมูลด้วยตนเอง
ก่อนที่จะลงทุนในสินทรัพย์ทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในอะไรก็ตาม
ดูเเล ช่วยเหลือกันเเละกันนะครับ
บังก็จะพยายามช่วยทุกคนให้มากที่สุด เท่าที่บังจะทำได้
ขอให้ทุกวันเป็นวันที่ดีของทุกคนนะ
เพราะความรู้คือของขวัญที่ดีที่สุด📚
ตอนนี้บังได้สร้างซีรีส์อัลบั้มของบทความไว้เเล้ว
สำหรับคนที่สนใจสามารถติดตามอ่าน
ย้อนหลังได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้เลยนะครับ
ถ้าตลาดหุ้นกำลังจะถล่ม
เราอยู่ในจุดที่ต่ำสุดเเล้วหรือยัง ?
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะครับ
ถ้าชอบบทความนี้ ช่วยกด Like กดติดตาม
เเชร์บทความนี้ เพื่อเป็นกำลังใจให้บังด้วยนะครับ🖤

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา