6 พ.ค. 2020 เวลา 13:16 • ข่าว
โลกนี้มีความไม่สวยงามมากเกินพอแล้ว
(เอาใจช่วยพาพี่เตี้ย มช. กลับบ้าน)
***Updated ล่าสุดตอนเวลาประมาณ 18 นาฬิกาของวันที่ 7 พฤษภาคม 2563 ทางเพจแจ้งข่าวว่าพี่เตี้ยเสียชีวิตแล้วนะคะ😔
.
.
หลายคนบอกว่า "พี่เตี้ยวิ่งถึงจุดหมายแล้ว"
.
.
หลายคนบอกว่า "พี่เตี้ยไปอยู่ดาวหมากับเพื่อนๆตัวอื่น" (ที่เคยอยู่ด้วยกันใน มช. และเสียชีวิตไปก่อน)
.
.
หลายคนอวยพรให้พี่เตี้ยได้กลับมาเกิดเป็นคนเพื่อได้กลับมาเรียนใน มช. อย่างที่พี่เตี้ยชอบ
(พี่เตี้ยชอบเข้าไปอยู่ในห้องเรียนร่วมกับ
น้องๆนักศึกษาหลายคณะ คงนอนฟังอาจารย์
สอนไปด้วย ตามที่มักมีภาพให้เห็นบ่อยๆ)
หลับให้สบายนะพี่เตี้ย ตามเพจเป็น FC มานาน ขอให้พี่เตี้ยไปสู่ภพภูมิดีๆ ขอบคุณสำหรับความสุขและเรื่องดีๆที่พี่เตี้ยมีกับเพื่อนๆใน มช. และกับมนุษย์อย่างเราๆนะ***
ในเวลานี้ ข่าวที่คนรักสุนัขกำลังให้ความสนใจเป็นอย่างมาก คงหนีไม่พ้นเรื่องของ
"พี่เตี้ย มช." กับ "เจ้านมเย็น"
"เตี้ย" เป็นสุนัขที่ใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หรือ มช. มาเป็นเวลานานแล้ว
เตี้ยมีอุปนิสัยที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์
ชอบอยู่ใกล้กลุ่มคน โดยเฉพาะการปรากฏตัวตามคณะต่างๆที่มีการทำกิจกรรมในมหาวิทยาลัย
เตี้ยเคยเป็นข่าวโด่งดังมาแล้วกับการเป็นสุนัขที่วิ่งขึ้นดอย(สุเทพ) อันเป็นประเพณีรับน้องพร้อมกับเด็กนักศึกษาของ มช. ทุกปี เป็นสุนัขที่เด็ก มช. จำนวนมากรู้สึกผูกพัน และเตี้ยมีแฟนเพจของ
ตัวเอง มีผู้ติดตามกว่า 130,000 คน (ยอดจำนวนผู้ติดตามขณะเขียนบทความนี้)
ขอบคุณภาพจากเพจ "เตี้ย มช."
ส่วนหนึ่งต้องชื่นชมบุคลากรและผู้บริหาร
ของมช. ที่ให้การดูแลเอาใจใส่สุนัขหลายตัว
ในรั้วมหาวิทยาลัย ซึ่งไม่ได้มีแค่เตี้ย ทั้งยัง
จัดตั้งเป็นโครงการเพื่อดูแลสุนัขเหล่านั้น
ที่มีการจัดเก็บสถิติว่ามีกว่าร้อยตัว ให้สามารถ
อยู่อาศัยร่วมกับสังคมในมหาวิทยาลัยได้อย่าง
ยั่งยืน อย่างเช่น การจัดให้สุนัขมีคณะต้นสังกัด
การฝึกปรับพฤติกรรม การดูแลความสะอาด
การให้อาหาร วัคซีน ฯลฯ
แต่ปัจจุบัน จนถึงเวลาที่ผู้เขียน เขียนบทความนี้ เตี้ยหายไปจาก มช. เป็นเวลากว่า 3 วันแล้ว
กลุ่มน้องที่เป็นเจ้าของเพจซึ่งเป็นผู้ดูแลเตี้ยมาโดยตลอด กำลังประกาศตามหาเตี้ยในขณะนี้
จนเป็นข่าวกระจายไปทั่วในโลกโซเชียล
เอาจริงๆ เตี้ย ก็เป็นแค่สุนัขตัวหนึ่ง แม้มีคนรักเตี้ยมากมายถึงขั้นติดตามเพจกว่า 130,000 คนข้างต้น แต่ก็มีอุปนิสัยบางอย่างของสุนัขที่ทำให้คนบางคนไม่ชอบใจนัก
เตี้ยชอบขึ้นรถจักรยานยนต์ของเด็กนักศึกษาใน มช. ไปกินลมชมวิวเล่นตามประสา แต่ก็ได้ข่าวบ่อยครั้งว่า เคยมีเด็กนักศึกษาถูกเตี้ยไล่งับ
ไล่เห่า เวลาไม่ให้ขึ้นรถ หรือเวลาให้อาหารแล้ว ถ้าไม่คุ้นวิธีให้ เตี้ยอาจกระโดดงับมือผู้ให้ เป็นต้น
แม้จิตใจเป็นเรื่องยากจะบังคับ แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่า ขณะติดตามข่าวที่เตี้ยหายตัวไปนี้ จะพบการแสดงความคิดเห็นของบางคนในทำนองว่า
เตี้ยเป็นแค่สุนัขจรจัดที่ไม่สมควรได้รับความสนใจถึงขนาดที่เป็นข่าว หรือเตี้ยสมควรหายไปจาก มช. เพราะเตี้ยทำตัวไม่น่ารักคงถูกเอาตัวไปปล่อยไกลๆแล้ว
ข้อความดังกล่าวทำให้เกิดความไม่พอใจจากคนรักเตี้ย และกระทบกระทั่งกันในกลุ่มผู้แสดงความคิดเห็น
ยังดีที่ข้อความในทำนองนี้มีให้พบเห็นในสัดส่วนไม่มากนัก ถ้าเทียบกับบรรดาข้อความที่แสดงความห่วงใยและให้กำลังใจน้องแอดมินในการตามหาเตี้ยให้พบโดยเร็ว
สิ่งที่ต้องชื่นชมอย่างที่สุดคือ การโพสต์ข้อความของน้องแอดมินของเพจ ในทำนองสร้างความเข้าใจระหว่างทุกฝ่าย (ลองอ่านดูนะคะว่า
น้องแอดมินเขียนได้น่ารักขนาดไหน)
โพสต์ของแอดมินเพจ เตี้ย มช.
อีกข่าวที่คงต้องพูดถึงคือ ข่าวของ
เจ้า "นมเย็น " ซึ่งเป็นสุนัขพันธุ์พิทบูล
อายุ 8 เดือน ที่ถูกเจ้าของทำร้าย
เพียงเพราะนมเย็นกัดถุงดินสำหรับปลูกต้นไม้ และกัดรองเท้า ทำให้เจ้าของโมโหลงโทษ
นมเย็นด้วยการทุบตีรุนแรง และจับกดน้ำ
ตามคลิปข่าวที่คงเห็นผ่านตากันไปแล้ว
ยังเป็นโชคดีของนมเย็นที่เป็นข่าวดัง จนมีหน่วยงานที่ดูแลคุ้มครองสัตว์เข้าช่วยเหลือนมเย็นแล้ว
สิ่งที่เจ้าของนมเย็นทำ สมควรได้รับการตำหนิ
ติเตียนว่าเป็นสิ่งที่ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง และไม่ใช่สิ่งมนุษย์ปกติที่มีสุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงพึงกระทำ
แต่สิ่งที่น่าเป็นกังวลยิ่งกว่าการทำร้ายสุนัขที่
สิ้นสุดลงไปแล้วนั้น คือกระแสของการแสดง
ความคิดเห็นในสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆเกี่ยวกับเรื่องนี้
ผู้คนบางส่วนที่รู้ข่าว ตำหนิด่าทอกันด้วยภาษา
ที่รุนแรง เทียบน้ำหนักของความโกรธในใจที่มี
ไม่ต่างจากการทุบตีทำร้ายกัน ราวกับอยาก
ให้เจ็บปวด ให้สาสมกับสิ่งที่เจ้าของสุนัข
ทำกับนมเย็น
ผู้เขียนไม่ได้ต้องการจะสื่อว่า เราไม่ควรไม่พอใจ
หรือไม่ถือสากับการกระทำของเจ้าของเจ้านมเย็น เพราะคนเราไม่ควรเพิกเฉยต่อสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
แบบนั้น
แต่แค่จะสื่อว่า ความรู้สึกสลดใจที่ได้ทราบและเห็นคลิปข่าวของนมเย็น มีมากพอๆกับความรู้สึกด้านลบที่ได้รับเมื่อพบการตำหนิมนุษย์ด้วยกันด้วยถ้อยคำที่เต็มไปด้วยความรุนแรงขนาดนั้น
แม้ข่าวทั้งสองข่าว เทียบกันในความใจร้ายที่มนุษย์มีต่อสุนัขไม่ได้เลย จึงเป็นไปไม่ได้ที่คนจะแสดงความไม่พอใจกับการกระทำของเจ้าของ
นมเย็น "น้อยกว่า" คนที่แสดงความเห็นในด้านลบกับเรื่องของเตี้ย
แต่ข้อความในโพสต์ของน้องแอดมินของเพจ
เตี้ย มช. ซึ่งน่าจะยังเป็นนักศึกษา หรือน่าจะเพิ่งจบการศึกษาไม่นาน ก็เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนอย่างเป็นรูปธรรมว่าการใช้ความอ่อนโยน ความมีเหตุผล และวุฒิภาวะที่เพียงพอย่อมทำให้เรื่องที่ลุกลามบานปลายได้ง่าย กลับสงบราบคาบลงได้ทันที
ทำให้ผู้เขียนนึกถึงประโยคที่ พูดง่าย แต่ทำยากเสียเหลือเกิน คือ
.
.
.
"พึงตอบแทนความไม่ดีด้วยความดี พึงตอบแทนความมืดด้วยความสว่าง"
.
.
ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ผู้เขียนเองยังคงพยายามทำให้เกิดขึ้นกับตัวเอง และหวังว่าจะเป็นสิ่งที่ได้รับการพิสูจน์ว่าได้ผลจริงกับทุกเรื่องในสักวัน
2
โลกเราเต็มไปด้วยความไม่สวยงามมากเพียงพอแล้ว และในมุมมองเล็กๆของผู้เขียน การจะทำให้โลกนี้สวยงามและเต็มไปด้วยความดีงาม
ที่มากขึ้น ไม่ได้มาจากการเติมเชื้อแห่งความรุนแรง ตำหนิ ด่าทอหรือลงโทษกัน
ใจที่อ่อนโยนจะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยความอ่อนโยน ความดีงามจะเพิ่มมากยิ่งขึ้นได้ ก็ด้วยการแสดงออกและมอบความดีงามนั้นให้แก่กันและกันต่างหาก และมันควรให้กับคนที่สมควรได้รับอย่างเร่งด่วนเพื่อเพิ่มความดีงามในใจเขาเหล่านั้น ด้วยการแสดงออกหรือลงมือให้เขาเห็นในสิ่งที่ควรและไม่ควรทำ ไม่ใช่ด้วยการด่าทอที่สุดท้ายอาจเป็นไปเพื่อระบายความอัดอั้นในใจของเราเพียงเท่านั้น
โลกนี้มีความไม่สวยงามมากเกินพอแล้ว
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
แจ้งข่าวเสียชีวิต
.
.
โครงการ (ห)มา ซีเอ็มยู (MaCMU Project)
.
.
โฆษณา