ไข่เจียวแบบฉบับคนไทย ที่เรากินๆกันทุกวันนี้ ได้ส่งผ่านกันมารุ่นสู่รุ่นไม่ต่ำกว่า 200 ปีเข้าไปแล้ว หลักฐานที่กล่าวถึงไข่เจียวที่เก่าที่สุดคือ
จดหมายเหตุความทรงจำของกรมหลวงนรินทรเทวี หรือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากุ กรมหลวงนรินทรเทวี หรือเจ้าครอกวัดโพธิ์ ซึ่งเป็นพระน้องนางเธอต่างพระชนนีในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 โดยมีเนื้อหาระบุว่าได้มีการใช้ไข่เจียว จัดเป็นสำรับคาว ไว้ในพระราชพิธีสมโภชพระแก้วมรกตและฉลองวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ซึ่งทำให้เชื่อได้ว่า ไข่เจียวน่าจะมีแพร่หลายมาระยะหนึ่งก่อนหน้านั้นแล้ว แต่ก็ไม่แน่ชัดว่าไข่ที่ใช้นั้น
เป็นไข่เป็ด หรือไข่ไก่ และมีรูปลักษณ์อย่างไร ใช่แบบเดียวกับที่เรากินกันอยู่ทุกวันนี้หรือเปล่า จึงต้องดูบริบทของคำว่าเจียวเสียก่อน แน่นอนว่าการเจียวนั้นคือการทำให้สุกด้วยน้ำมันในปริมาณหนึ่ง แต่ไม่มากเท่าทอด
เอาสิ่งไหนมาเจียวก็จะเรียกสิ่งนั้นแล้วตามด้วยคำว่าเจียวเพื่อขยายความ
อย่าง ไข่เจียว หอมเจียว ส่วนไข่วัตถุดิบหลักนี้ ไม่มีข้อมูลชี้ชัดว่า เราใช้ไข่มาประกอบอาหารกันตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่พอจะคาดเดาได้ ก็น่าราวๆสมัยสมเด็จ
พระนารายณ์มหาราช ที่มีการใช้ไข่มาทำขนมหวานอย่างเท้าทองกีบม้า
ซึ่งเป็นไข่เป็ดเสียส่วนมาก
อนึ่งไข่เป็ดก็มักใช้ในอาหารคาวหลายๆอย่างด้วย ตามที่พอจะเห็นได้จากตำรับอาหารไทยเก่าๆ หลายๆอย่างมักใช้ไข่เป็ดเสมอ ในจดหมายเหตุจึงมีน้ำหนักค่อนไปทางไข่เป็ดเสียมากกว่า อีกอย่างหนึ่งไก่ไข่เอง คนไทยก็เพิ่งจะมาเลี้ยงกันเป็นเรื่องเป็นราวน่าจะประมาณปี พ.ศ. 2489 เพราะได้มีการ
ส่งเสริมให้เลี้ยงไก่ไข่โดยจอมพล ป.พิบูลสงคราม จึงเพิ่งจะทำให้เราเข้าถึง
ไข่ไก่ได้มากขึ้นในตอนนั้น ส่วนไก่ที่เลี้ยงๆกันมาแต่ก่อน เห็นว่าจะเลี้ยงเพื่อ
ไว้กินเนื้อเสียมากกว่า
ส่วนรูปลักษณ์ไข่เจียวนั้นเป็นแบบไหน ใครคิดค้น ใครสืบต่อมา อันนี้ไม่มีหลักฐานไหนว่าไว้แน่ชัด เห็นเขาว่าน่าจะมาจากออมเล็ตแบบฝรั่ง นั้นก็มีเค้าโครงอยู่มาก เพราะมีการตีผสมไข่ให้เข้ากันแบบเดียวกับเรา แต่การเจียว
และวิธีปรุงให้สุกนี่ไม่เหมือนเท่าไหร่ เพราะทางนั้น
เขาใช้น้ำมันน้อย เราใช้มาก เขาคนเพื่อให้สุกพอดีๆแล้วพับ ม้วนเป็นลูก
ลักบี้ แต่เราเจียวแผ่เป็นแผ่นกลม อย่างที่เราเห็นๆกันอยู่ในปัจจุบัน