ตื่นเช้ามาฟังข่าวเปลี่ยนไปแล้วหลายช่อง ก็เจอแต่เรื่องผู้คนที่เครียดเพราะตกงาน ไม่มีเงิน ไม่มีรายได้ ก่ออาชญากรรมบ้าง ฆ่าตัวตายบ้าง ถ่ายทอดเรื่องราวของความสิ้นหวังของผู้คน เป้าหมายตอนนี้ของพวกเขาเหล่านั้น คือ การรอให้มีคนมาช่วยเหลือ การรอรับสิทธิ์บางอย่างที่เหมือนไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ทำให้ย้อนกลับมาคิดได้ว่า ปัญหาของมันก็คือ มีผู้คนมากมายที่ไม่มีความรู้ด้านการบริหารจัดการเงิน แปลกแต่จริงเพราะมันเป็นวิชาที่ไม่มีอยู่ในระบบการศึกษาไทย
.
แน่นอนว่าหลายคนมีรายได้ลดลง ในขณะที่รายจ่ายก็ยังคงเท่าเดิม สาเหตุหนึ่งมาจากการไม่สนใจใฝ่รู้เรื่องของเงินๆทองๆ การมองเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญแต่ไม่ด่วนอยู่ตลอดเวลา และทิ้งมันไว้เป็นเป้าหมาย Reuse ที่ว่าจะทำในทุกๆปี แต่ไม่เคยทำ
.
หลายคนก็พยายามทำอยู่ แต่อาจจะยังแบ่งเงินไว้ในตระกร้าสำรองฉุกเฉินไม่เพียงพอก็เกิดสถานการณ์ไม่คาดคิดขึ้น ในขณะที่บางคนกลับให้ค่าของเงิน โดยเน้นไปที่ความสุขในการใช้สอยมากเกินไป เช่น การออกไปกินข้าวนอกบ้านบ่อยครั้ง การจับจ่ายใช้สอยสินค้าฟุ่ยเฟื่อย แทนการแบ่งเงินมาออมบ้างหรือนำไปลงทุนบ้าง
.
วันนี้ จึงอยากนำเคล็บลับเพื่อสุขภาพทางการเงินที่ดีขึ้นแบบง่ายๆ ที่เชื่อว่าหลายๆคนก็น่าจะรู้กันอยู่แล้ว แต่ว่าอาจจะมีหลายข้อที่ยังไม่ได้ลงมือทำ
.
1.แยกระหว่าง Need กับ Want
ก่อนตัดสินใจซื้อของ ให้หยุดคิด ก่อนว่าเป็นของที่จำ เป็นหรือเป็นของที่อยากได้ ซื้อแล้วคุ้มค่ามั้ย ได้ใช้หรือเปล่า เราจำเป็นต้องซื้อมันเพราะอะไร อย่าปล่อยให้อารมณ์ของความอยากได้ (Want) มาครอบงำเรามากเกินไป เพราะมันจะทำให้เงินในบัญชีเราร่อยหรอ มารู้ตัวอีกทีก็เจ็บตัวไปแล้ว
.
เทคนิคก็คือ ถ้ามันเป็นของชิ้นใหญ่ ราคาสูง ลองแบ่งกระปุกเพื่อเก็บเงินดู เช่น สมมติอยากได้ของราคา 20,000 บาท ก็ลองหยอดกระปุกเดือนละ 2,000 บาท 10 เดือน ดู พอเงินครบแล้ว ลองถามตัวเองว่า ยังอยากได้อยู่มั้ย?? พลังของการเก็บหอมรอมริบนานๆติดกันเป็นเวลา 10 เดือน พอคุณหยิบมันมาใช้ อาจจะทำให้เกิดอาการเปลี่ยนใจ และเริ่มเสียดายเงินในที่สุด
.
หรือถ้าเป็นของชิ้นเล็กๆ ลองทำใจนิ่งๆไว้ถึงแม้ว่าจะอยากได้ เมื่อนึกอยากได้ขึ้นมาเมื่อไหร่ ให้ไปเปิดดูรูป ดูราคา แล้วก็ทำแบบนี้ไป 5 วันทุกครั้งที่นึกถึงของชิ้นนั้น แล้วเราจะเริ่มคิดได้ว่ามันเป็นสิ่งไม่จำเป็นและตัดสินใจให้ Need ชนะ Want ได้ในที่สุด (เคยทดสอบกับตัวเองมาแล้วว่าได้ผล ตอนอยากซื้อตุ๊กตาน่าๆรักๆใน IG)
.
2. ฝันอยากได้อะไรต้องมีแผน
สมมติว่าอยากจะผ่อนสิ่งของ อยากซื้อบ้าน ซื้อรถ อยากซื้อ Notebook ราคารแพง ควรจะวางแผนทางการเงินดีๆ เพราะมีผลต่อสภาพคล่องในระยะยาว อย่างน้อยที่สุดควรจะตั้งคำถามถามตัวเอง และตอบมันให้ได้ รวมถึงลองวิเคราะห์ดูว่าฝันที่เราอยากมีนั้น ถ้าเราซื้อมันไปแล้ว มันจะเป็นฝันร้าย หรือฝันดี ตัวอย่างของแผนการซื้อรถ ที่ได้เรียนรู้มาจากหนังสือ 101 ของพี่หนุ่ม Money Coach แล้วลองมาทำสรุปใส่ ตาราง Excel ไว้ ให้สามารถเอาไปใช้กันได้เลย