8 พ.ค. 2020 เวลา 09:55 • การศึกษา
สาระ ควรทราบ เพื่อคิด ปรับใช้
การ Pre-test กับ Post-test สำคัญเพียงไหน สัมพันธ์กับหลักการศึกษาธรรมดา และ ออนไลน์ ที่จะเกิดขึ้น หรือไม่
เครดิต ภาพปก https://www.ftpi.or.th/2015/1812
การศึกษาของมนุษย์มีการพัฒนาการ มานานแล้ว มีจดบันทึก ตั้งแต่ยุคหินเก่า เช่นภาพผนังในถ้ำ เป็นทั้งจดหมายและการบันทึก อีกทั้งยังเป็นการสื่อการสอนให้บุคคลอื่นอีกด้วย ก็มีการพัฒนากันเรื่อยๆมา จากการลองผิดลองถูก เพื่อให้มีมาตรฐาน มีหลายรูปแบบ ทั้ง 4 เผ่าพันธุ์ ซึ่งอาจแตกแขนงเป็นเผ่าพันธุ์อื่นๆกันอีก ถ้าเรายังจำกันได้ 4 เผ่าพันธ์ของมนุษย์
ซึ่งเป็นความรู้มัธยมต้น จะประกอบไปด้วย
1 มองโกลอยด์ ผิวดำแดง(เหลือง) ผมดำ ตาสีน้ำตาลหรือดำ เช่น คนในทวีปเอเชีย
2 นิกรอยด์ ผิวดำ ผมหยิก จมูกบี้แบน เช่นคนในทวีปอาฟริกา
3 เซมิติค ผิวขาว ผมดำหรือน้ำตาล ตาสีน้ำตาล จมูกโด่ง เช่น คนในแถบเอเชียกลาง
4 คอเคซอยด์ ผิวขาว ผมสีทองหรือน้ำตาล ตาสีฟ้า จมูกโด่ง เช่น คนในทวีปยุโรป
ซึ่งหลักการในการจัดระบบ ของ เผ่าพันธุ์คอเคซอยด์ จะเป็นการจัดระบบระเบียบที่ดี ง่ายต่อการศึกษา ทำให้คนสนใจบทเรียนของเผ่าพันธุ์นี้กันเป็นส่วนใหญ่ จนถึงปัจจุบันจะนิยมกันมาก
**หลักการศึกษาธรรมดาทั่วโลก** โดยส่วนใหญ่ จะแบ่งแบบนี้
ประถม Primary School เป็นการเรียนรู้เรื่องรอบตัวใกล้ ให้เป็นหลักการ เพื่อจะได้นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน หรือ ศึกษาต่อเนื่อง
มัธยมต้น Secondary School เป็นการเรียนรู้เรื่องรอบตัวใกล้ๆ และหาข้อพิสูจน์หลักการที่เรียนมา เพื่อจะนำมาปรับใช้ให้ถูกต้อง
มัธยมปลาย High School เป็นการเรียนรู้เรื่องไกลตัวขึ้น และ พิสูจน์ รวมถึงการค้นคว้าหาความรู้ต่อเนื่อง และปรับใช้
อุดมศึกษา Bachelor เป็นการเรียนรู้เรื่องทั้งโลกทุกเรื่องเพื่อพิสูจน์และค้นคว้าต่อเนื่องต่อไป นำมาประกอบใช้กับอาชีพ หรือ ใช้ในประจำวัน
เครดิต ภาพประกอบ1 https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/877251
เราจะเห็นความไม่พร้อมเต็มที่ ที่จะเริ่มศึกษาออนไลน์กันใน ประเทศไทย ซึ่งถ้าจะทำก็ทำได้ แต่ ยังไม่เต็มประสิทธิภาพที่ต้องการและวางแผนไว้ โดยมาจากหลากหลายสาเหตุ ทั้งทางด้านหลักการ และ กระบวนการของสื่อต่างๆ
สาเหตุหลักที่การศึกษาออนไลน์ในประเทศไทย จะไม่มีประสิทธิภาพเต็มตามต้องการและวางแผน นั่นคือ ถ้าเราแก้ไขเรื่องเทคโนโลยีไปได้ มันก็
จะมาจากการหลักการศึกษา ซึ่ง แม้แต่หลักสูตรแบบธรรมดาไปโรงเรียน เรายังไม่สามารถกระทำได้เต็มที่ เพราะ ขาดแผนการวัดประสิทธิผล ของการเรียนการสอน ซึ่งจะมาตั้งแต่หลักการให้การศึกษาแบบธรรมดา ก็ยังไม่มีประสิทธิภาพดี ซึ่งจะมาจากสาเหตุประการเดียว ที่จะทำให้ทราบถึงประสิทธิภาพของการเรียนการสอนของผู้สอน และ ประสิทธิภาพของการรับรู้ของผู้รับ นั่นคือ การวางแผนการสอนที่ดี ซึ่งต้องสามารถวัดประสิทธิผลได้
เครดิต ภาพประกอบ2 https://thestandard.co/teaching-fight-covid-19/
1 วางแผน เรื่องที่จะสอน พร้อมทั้ง เวลา ที่ใช้ ในแต่ละครั้ง และเวลารวมทั้งหมด
2 การวางแผน การสอน โดยตั้งเป้าไปที่ การรับรู้ของเด็กนักเรียน โดยมี รายการปัญหาที่จะเกิดขึ้นโดยคาดการณ์ล่วงหน้า
3 วางแผน Pre-test
4 วางแผน Post-test
5 ออกแบบ ข้อสอบ Pre-test, Post-test ไว้ โดยสัมพันธ์กับแผน และเป้าหมายของวิชานั้นๆที่ต้องการให้เรียนรู้ และเน้นการเปรียบเทียบวัดผล ของ Pre-test กับ Post-test ในเชิงสถิติและตัวเลข
6 นำเสนอแผนกับผู้บริหาร โดยตั้งเป้าไว้ ประสิทธิผล ควรจะอยู่ที่ 75% ขึ้นไป
7 เมื่อมีแผนที่แน่นอน ก็ต้องมีการ Pre-test การทดสอบก่อนการสอน โดยข้อสอบชุดนี้ จะตรวจและเก็บไว้ โดยไม่คืนนักเรียน
8 สอนไปตามแผนการสอนที่วางไว้ จนครบกำหนด
9 ทำการ Post-test แล้วนำ มาวัดผลการศึกษาในวิชานั้น โดยเทียบกับ Pre-test ที่เก็บไว้
10 ประเมิน ประสิทธิผล(Efficiency)ของการสอน
เครดิต ภาพประกอบ3 https://marketeeronline.co/archives/152421
การทำ Pre-test กับ Post-test นี้ เป็นกระบวนการที่ มาจาก แผนกทรัพยากรมนุษย์ ฝ่ายพัฒนาคุณภาพแรงงาน เพื่อวัดผลการฝึกอบรมทักษะแรงงาน ของแต่ละองค์กร ซึ่งมีหลายประเทศนำหลักนี้มาใช้กับการศึกษา แต่ประเทศเรา 20 ปีก่อนเคยขยับตัวกันในเรื่องนี้ ตามหลายๆประเทศที่เขาทำกันอยู่ จวบจนถึงปัจจุบันนี้ ก็ยังไม่มีให้เห็นเป็น เด่นชัด ไม่ว่าจะโรงเรียนไหน หลักสูตรไหน หลักสูตรชั่วคราวรายวิชา ความรู้ใหม่ๆนอกตำราหรือในตำรา ที่เปิดขายเรียนกัน ก็ยังไม่เห็นเป็นที่เด่นชัดและกล่าวถึงกัน
เห็นการวางหลักสูตรของรัฐบาล ความตั้งใจ และการวางแผนทดสอบและแก้ไขในด้านปัญหาต่างๆได้ดี แต่ปัญหาที่กล่าวมานี้ผู้เขียนเห็นว่าสำคัญที่สุด ถึงจะวางแผนหรือหลักการใดๆสอดแทรก เพื่อให้เกิดความอยากเรียน แต่ถ้าขาดหลักการที่วัดประสิทธิผลไม่ได้นั้น มันก็แทบจะสูญเปล่าโดยไม่รู้ว่าผิดพลาดกัน ณ จุดใดบ้างในการเรียนการสอน ซึ่งไม่ใช่ปัญหาทางเทคนิค
จึงอยากจะขอย้ำ เรื่อง **Pre-test กับ Post-test** นี้ไว้เป็นสำคัญ ให้ช่วยกันคิดช่วยกันทำ เพราะ การทำรูปแบบนี้ ถึงไม่เป็นการเรียนการสอนออนไลน์ เป็นหลักสูตรธรรมดา ก็ควรมีแผนนี้ไว้ เพื่อจะหาทางแก้ไขปรับปรุงการเรียนการสอนได้ง่าย
เครดิต ภาพประกอบ4 https://www.nuttaputch.com/25-things-you-are-succeeding-at-life/
ก็ขอแนะนำรัฐบาล เลย แม้นผู้เขียนจะมีความรู้น้อย แต่ก็อยากจะ เสนอข้อแนะนำให้เป็นผลดีต่อเด็กๆที่จะกลายมาเป็นอนาคตของชาติต่อไป
โฆษณา