9 พ.ค. 2020 เวลา 14:02 • ท่องเที่ยว
พุทธ พม่า
ความศรัทธที่ล้าหลัง
หากคุณคิดว่าชาวพุทธไทยเจ๋ง คุณต้องลองไปสัมผัสชาวพุทธพม่า แล้วคุณจะหลงรักเชื่อผม
ขุนเขาแห่งศรัทธา มุลาอิ ณ ดินแดนพม่า
วันนี้เปิดหัวมาด้วยเรื่องพระเรื่องเจ้าและการกราบไหว้ เเต่เนื้อเรื่องที่จะเขียนไม่ได้ลงรายละเอียดเหมือนตอนเรียนวิชาพุทธศาสนานะครับ แต่วันนี้จะเขียนถึงการเดินเขาแล้วพบเจอ ความเลื่อมใสศรัทธาของพุทธศาสนาชาวพม่า ณ ดินแดนบนเขา มุลาอิ
พร้อมกันแล้ว ตามแฮมมาเลยครับ
จะพาแบกเป้ นั่งรถตู้ไปร้องอู้ฮู้ อู้ฮู้ กันบนเขา
ครั้งนี้เป็นครั้งที่4ที่มาเยือน มุลาอิ 1ใน4 ขุนเขาที่ได้รับความศรัทธาของชาวพุทธพม่าเป็นอย่างมาก
แต่รอบนี้พิเศษที่สุดตรงที่ การมาเที่ยวครั้งนี้ตรงกับวันงานวัดประจำปีของขุนเขาแห่งนี้
ในขณะที่เราชาวนักท่องเที่ยวแบบแบกเป้สายลุย นั่งรถขึ้นมา ประชาชนนับหมื่นชาวพุทธกระเหรี่ยงและพุทธพื้นเมืองกลับเดินเท้าทีละก้าวเพื่อมาสักการะกราบไหว้พระสารีริกธาตุในเจดีย์บนยอดเขา
หากบ้านเรามีการแสวงบุญคงต้องคิดถึง เขาคิชฌกูฏ ที่จังหวัดจันทบุรีเป็นแน่แท้ แต่หากมาเที่ยวยังพม่า แน่นอนมูลาอิ เป็นสิ่งที่เกินความคาดหมายในความคิดใครหลายคน
ขุนเขาที่มีความสวยงานระดับโลก เราไม่ต้องเสียเงินแพงๆที่ออกไปเที่ยว กำเงิน3,000บาท ก็สร้างความตื่นตาและความสุขให้ได้ในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์
การเดินเท้าขึ้นเขาของชายพม่า
อาหารเจล้วนๆ
ในเส้นทางที่ยากลำบากในการนั่งรถขึ้นเขา นับรวมเวลาก็ 5ขั่วโมงพอดี ข้างบนนี้ มีข้อห้ามมากมายที่เราต้องทำอย่างเคร่งคัด
เริ่มจาก
1.ผู้หญิงห้ามทำอาหารหรือปรุงอาหาร แต่สามารถช่วยเตรียมวัตถุดิบได้
2.ห้ามทานอาหารเนื้อทุกอย่างตลอดเวลาที่อยู่บนเขาแห่งนี้ บนเขาทานอาหารเจ
3.ห้ามพูดคำหยาบคาย
4.เจดีย์สำหรับสักการะ มี2เจดีย์ที่อยู่บนยอดเขาสูง เจดีย์ผู้หญิงอยู่ด้านล่างเจดีย์ของผู้ชาย แบะห้ามผู้หญิงขึ้นไปสักการะยังเจดีย์ด้านบน
5.ต้องใส่ชุดที่สุภาพเรียบร้อย ผู้หญิงนุ่งผ้าถุงหรือกระโปรงยาว ห้ามใส่กางเกงทุกรูปแบบและผู้หญิงที่มีประจำเดือนห้ามขึ้น
6.ผู้หญิงห้ามตักน้ำที่อยู่ในบ่อด้านบน (ความเชื่อถ้าผู้หญิงตักน้ำน้ำจะแห้งบ่อ) ให้ผู้ชายตักน้ำให้
การเดินทางมายัง ขุนเขาแห่งนี้จะมีวัด กลางทางและบนยอดเขา เมื่อเรามาถึงยังวัดกลางทาง เราต้องอาบน้ำชำระร่างกายก่อนขึ้นไปยังวัดด้านบน และที่นี่ยังมีโรงทานอาหารเจ ไว้ให้ทุกคนที่มาเยือนได้อิ่มท้องกัน
วัดด้านบนก็เช่นกันมีทุกอย่างที่กล่าวมาเหมือนกันหมด
โรงทานประจำวัดบนเขา
ความโชคดีของแฮมคือ การมาครั้งนี้ตื่นตามาก เนื่องจากผู้คนนับร้อยนับพัดเดินทางมาทุกทิศ มองไปทางใหนหรือมองยอดเขาด้านหน้าก็จะเห็นกลุ่มคนเดินเท้ามายังที่นี่
แฮมได้มีโอกาศพูดคุยกับชาวบ้าน เนื่องจากการแต่งตัวของเราแปลกแยก เค้าเริ่มบนสนทนาด้วยภาษาไทยไม่ค่อยชัดในแบบแรงงานต่างด้าวบ้านเรา "น้องเป็นคนไทยใช้ใหม"
เค้าเล่าให้แฮมฟังว่า "ที่นี่เป็นเขาที่ทุกคนนับถือกันมากๆและต้องทำตามกฎอย่างจริงจัง ที่เราเห็นคนนับหมื่นมาที่นี่ ทุกคนเดินเท้าขึ้นมาทั้งนั้น บางคนออกเดินทางมา5วัน บางคนออกเดินทางมา3วัน เพื่อมาให้ถึงที่นี่ แล้วมาอยู่บนนี้อีก3คืน แล้วเดินเท้ากลับบ้าน"
จากที่ได้ฟังเรื่องราวของพี่สาวชาวพม่า เราไม่แปลกใจเลยทำไมถึงต้องมีหน่วยพยาบาลเคลื่อนที่มาตั้งโต๊ะเพื่อทำการรักษา เราสังเกตุเห็นคนเจ็บป่วยเยอะมามารอคิวเพื่อพบหมอ จากที่เข้าไปสอบถาม คนส่วนมากจะปวดขา ปวดนิ้วเท้า ฝ่าเท้า และเป็นไข้หวัด พี่ชาวพม่าเล่าให้เราฟังว่า แม้ร่างกายจะเจ็บช้ำแต่ทุกคนต้องมาที่นี่เพื่อกราบไหว้ และต้องมาให้ได้สักครั้งในชีวิต บางคนมีลูกก็พาลูกมา บางคนแก่คราวปู่ย่าก็ยังเดินเท้ามา วัยรุ่นหนุ่มสาวเยอะมากไม่ต้องพูดถึง ทุกคนล้วนแต่งตัวด้วยชุดพื้นเมืองที่สวยงานกันทั้งนั้น
เมื่อมองย้อนกลับมาที่บ้านเรา นับวันความเป็นชาวพุทธแบบดั้งเดิมก็จางหายไปตามความเจริญของวัตถุ ถ้าเปรียบเทียบกันประชาชนบ้านเราคงไม่มีใครออกเดินเท้าขึ้นเขาข้ามวันข้ามคืน ค่ำใหนนอนนั่นกันหรอก
คงอาจจะเป็นเพราะเราชาวไทย ได้รับวัฒนธรรมชาวตะวันตกมาเยอะจนลืมลากเหง้าของความเป็นไทยและลืมความเป็นเอกลักษณ์ที่มีมาอย่างยาวนานของชนชาติสยามในอดีต หลังจากนี้คงได้แต่นั่งดูรูปเก่าๆหรือเปิดกูเกิลเพื่อค้นคว้าความเป็นวิถีพุทธแบบดั้งเดิม
#เขียนให้คิด #อ่านเพื่อเตือน #วิถีพุทธวิถีที่ลืมเลือนของชาวไทย
โฆษณา