15 พ.ค. 2020 เวลา 10:04 • ท่องเที่ยว
กาลครั้งหนึ่ง ณ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
ต้นไม้ ภูเขา ลมหนาว แสงแดด เป็นครั้งแรกกับการตัดสินใจลองออกจากการนอนห้องแอร์ ไปนอนกลางภูเขารับลมธรรมชาติ ความทรงจำอันล้ำค่า เหล่านี้คงไม่วิ่งมาหาเรา ถ้าเราไม่ลุกขึ้นออกจาก comfort zone แล้วไปสัมผัสด้วยตัวเอง
...ความเดิมจากตอนที่แล้ว...
เราออกจากเชียงคานเพื่อเดินทางไปอุทยานแห่งชาติภูกระดึง
DAY 1
การเดินทางวันนี้ เราใช้เวลา 2 ชั่วโมง เพื่อไปถึงจุดลงรถผานกเค้า สังเกตป้ายร้านเจ้กิมจะเด่นชัดมากในจุดนั้นแล้วลงรถทัวร์เพื่อไปต่อรถสองแถวแดงเพื่อเข้าไปที่ตัวอุทยานแห่งชาติภูกระดึง
ส่วนใหญ่คนที่ขึ้นภูกระดึงจะไปช่วงเช้าแต่เราไปถึงร้านเจ้กิมตอน 11โมงครับ ค่าโดยสารรถสองแถว คนละ 30 บาท แต่รถจะออกก็เมื่อมีผู้โดยสาร 10 คน แน่นอนครับเราหาผู้ร่วมชะตากรรมไม่ได้เลย555 งานนี้ก็ต้องเหมารถสองแถวละครับ 300 บาท เราไป 3คน ก็คนละ100 สบายใจกันไป555 ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็ถึงตัวอุทยาน
ค่าเข้าอุทยาน ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
- หมอน ใบละ 10 บาทต่อคืน
- เบาะรองนอน 20 บาทต่อคืน
- ผ้าห่ม 30 บาทต่อคืน
- ถุงนอน 30 บาทต่อคืน
- เต็นท์ขนาด 2 คนนอน 150 ต่อคืน
- เต็นท์ขนาด 3 คนนอน 200 ต่อคืน (เราจองขนาด 3คนนอนคับแต่เรานอนคนเดียว 555)
- บ้านพักหลายขนาดไว้บริการซึ่งสามารถติดต่อกับทางอุทยานได้เลยครับ
พอถึงอุทยานก็ติดต่อเจ้าหน้าที่ให้เรียบร้อย แล้วเดินเข้าได้เลย ทางอุทยานจะเปิดให้ขึ้นได้ตั้งแต่ 07.00 - 14.00 น. ส่วนเราขึ้นตอนเกือบๆเที่ยงโชคดีที่ไม่ร้อน อุณหภูมิตอนนั้นอยู่ที่ 19 องศา อย่าลืมหยิบไม้เท้าไปด้วยนะครับตรงทางเข้ามีเยอะ สำหรับผมที่มีอาการเจ็บหัวเข่าช่วยได้เยอะเลยครับ
เอาล่ะครับหลังจากได้ไม้เท้าอันที่เหมาะมือแล้วก็ได้เวลาลุยระยะทางเกือบ 10กิโลเมตร เพื่อจะไปให้ถึงที่พักก่อนแสงหมด
พร้อมเดินทางกันแล้ว
ระหว่างทางไม่ต้องกลัวหิวนะครับมีขายของเป็นระยะๆ อาหารตามสั่ง ผลไม้ เสื้อผ้า และอีกหลายๆอย่างเลยครับ (จนบางครั้งผมคิดเล่นๆว่ามาตัวเปล่าแล้วค่อยซื้อระหว่างทางขึ้นก็ได้555)
แนะนำว่าเตรียมร่างกายมาสักหน่อยนะครับจะได้สนุกกับการเดินชมธรรมชาติ
พอเราไปถึง "หลังแป" เราก็รู้สึกว่าถึงประตูสวรรค์แล้ว555 เพราะหลังจากนี้ก็จะเป็นทางเดินเรียบๆ อีกประมาณ 3.5 กิโลเมตร ก็จะถึงเต็นท์ที่เราจองไว้แล้ว
หลังแป
ทางเดินหลังจากถึง"หลังแป" ครับ
จุดที่พักครับ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง
เรามาถึงจุดบริการนักท่องเที่ยววังกวางเกือบ17.00น. เมื่อถึงแล้วก็ติดต่อเจ้าหน้าที่อีกครั้งเรื่องเต็นท์และก็สิ่งต่างๆที่เราจองไว้
หลังจากเสร็จเรื่องเราก็ได้ถามเจ้าหน้าที่ว่าเมื่อคืนอุณหภูมิเท่าไรหรอครับ ก็ได้ตำตอบคือ 2องศาเราจึงไม่รีรอครับเช่าผ้าห่มเพิ่มทันทีครับ( กันไว้ก่อน555)
หลังจากเก็บของเสร็จ เราก็เดินเล่นกันนิดหน่อยแล้วก็ไปทำตามจุดมุ่งหมายของพวกเราอีกอย่างหนึ่งนั่นก็คือการกินหมูกระทะที่ภูกระดึงท่ามกลางอุณหภูมิ 12องศา
ซึ่งตอนกินอยู่ก็นึกถึงซีรี่ส์เกาหลี ญี่ปุ่น เวลาที่เขากินหม้อไฟกันตอนหน้าหนาว ก็คงจะประมาณนี้แหละมั้ง มันช่างฟินจริงๆ555
ราคาชุดละ 500บาทครับแถมข้าวผัดจานใหญ่ให้อีก1จานครับ
และเราก็ทิ้งท้ายก่อนเข้าคืนนี้ด้วยการไปอาบน้ำในอุณหภูมิ 10 องศา555 สะใจมากครับ แล้วก็เข้านอนประมาณ22.00น. ครับ พรุ่งนี้ตี5เราจะตื่นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นกันครับ
DAY 2
เช้านี้เราเริ่มต้นวันกัน ตอนตี 5 เพื่อจะไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่นซึ่งไม่ไกลจากที่พักมาก และจะมีเจ้าหน้านำทางไปด้วยเพื่อความปลอดภัย
หลังจากดื่มด่ำกับแสงแรกของวันที่สองที่ส่องผ่านหมอกและอากาศหนาวมากระทบร่างกายเราจนพอใจแล้ว ก่อนที่จะเดินเส้นทางต่อไปเราก็กลับไปทานอาหารเช้าที่บริเวรที่พักครับ ซึ่งมีมากมายหลายร้านให้เลือกกันเลยครับ
อาหารเช้าของพวกเราครับร้านนี้จานละ60บาทครับให้เยอะเหมาะสมกับราคาและอร่อยถูกปากมากครับ
หลังจากเติมพลังกันเสร็จแล้ว เราก็พร้อมที่จะเดินเข้าสู่ป่าอีกครั้งโดยมีข้าวเหนียวหมูปิ้งเป็นเสบียงระหว่างทาง เราเดินกินลมชมป่ากันไปเรื่อยๆเหนื่อยบ้างพักบ้างจนครบทุกจุด รวมๆแล้วระยะทางที่เราเดินทั้งหมดประมาณ 30กิโลเมตร (ก่อนมาเราเตรียมร่างกายมาดีครับ555)
ใครจะไปรู้เดินเข้าป่าจนถึงหน้าผาประมาณเกือบ10กิโลเมตรจะมีร้านส้มตำ555ก็ต้องจัดสัก1ชุดครับระหว่างรอชมพระอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสัก
เรากลับถึงจุดพักประมาณ 20.30น. กินข้าวและอาบน้ำเข้านอนเพราะพรุ่งนี้เช้าเราต้องลงเขากันแต่เช้าเพื่อไปให้ทัน ไฟลท์บิน ตอนเที่ยง(ก็หวั่นๆเหมือนกันครับกลัวว่าจะไปไม่ทันเครื่อง555)
DAY3
วันนี้เราเริ่มต้นวันเหมือนเดิมครับตี5 เราออกมาพร้อมกันขบวนคนที่จะไปชมพระทิตย์ขึ้นแล้วเราก็แยกตัวออกมา เดินไปถึงหลังแปเราก็รอให้แสงอาทิตย์มีมากกว่านี้อีกหน่อยครับจะได้มองเห็งทาง
หลังแปตอนเช้าตรู่
พอแสงมาเราก็เดินลงกันเต็มสปีด เราใช้เวลาตอนลง 2 ชั่วโมงแล้วเราก็โทรเรียกรถแดงที่เราได้คุยกันไว้เรื่องเหมารถไปสนามบินในราคา 1200บาทครับ
จริงแล้วมีรถทัวร์เข้าเมืองเลยและก็ผ่านสนามบินด้วยซึ่งเป็นรอบ 09.30 น. คำนวนแล้วก็จะไปถึงสนามบินทันเช็คอินพอดี ซึ่งราคาไม่ถึงร้อยด้วย แต่เรากลัวรถมาช้าเพื่อความชัวร์เราจึงเหมารถครับ(กระเป๋าเบาหวิวกันไป555)
ได้ขึ้นเครื่องแล้วดีใจจัง555
หลังจากเราขึ้นเครื่องก็เพลียหลับกันทุกคนครับ สะบักสะบอมไปตามๆกัน แต่ก็ได้มาซึ่งความทรงจำที่ดี กับสักครั้งในชีวิตที่ได้มาเยือนภูกระดึง
ก็จบลงกับทริป เชียงคาน-ภูกระดึง ถ้ามีโอกาสเราจะไปเยือนอีกครั้งแน่นอนครับ
โฆษณา