9 พ.ค. 2020 เวลา 06:00 • กีฬา
#สวัสดีเคลีก
บอลแดนโสมเดินต่ออย่างไรในยุคโควิด
ยืนยันเปิดไฟเขียวแน่นอนแล้วสำหรับ บุนเดสลีกา เยอรมัน 2019/20 ที่จะได้กลับมาเซิ้งแข้งโรมรันกันเป็นลีกหัวแถวรายแรกสุดของยุโรป
 
ด้าน ลา ลีกา ก็ทยอยเปิดรับนักเตะกลับเข้าสโมสร (พร้อมแมสค์และถุงมือยาง) อันเป็นสัญญาณชัดแจ้งว่าลีกกระทิง "จ่อ" จะกลับมาเต็มที
 
พรีเมียร์ลีก ก็เตรียมจะได้รู้กันถึงความคืบหน้าของ "Project Restart" ว่าจะเป็นไปแบบไหนอย่างไร
 
แต่โดยไม่ต้องรอกันเนิ่นนาน เพียงข้ามคืนนี้เท่านั้น ฟุตบอลก็จะกลับมาเริ่มต้นนับหนึ่งกันใหม่อีกครั้งในยุคโควิดเข้าโจมตี
 
สวัสดี เคลีก 2020...
-3-
นับตั้งแต่ก่อร่างสร้างลีกขึ้นในปี 1983 เคลีก เดินทางผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านความเปลี่ยนแปลงทั้งในแง่ของลีกเองและบรรดาสโมสรน้อยใหญ่
 
จากชื่อ "เคลีก" เฉยๆ มาเป็น "เคลีก คลาสสิก" (เพื่อ??? คำตอบคือ เพื่อเกิด "ลีกรอง" ขึ้นเป็นปีแรก ในชื่อ "เคลีก ชาลเลนจ์") ระหว่างปี 2013-2017
 
และนับตั้งแต่ซีซั่น 2018 เป็นต้นมา ลีกสูงสุดของประเทศเกาหลีใต้ ก็ใช้ชื่อว่า "เคลีก 1" ยอดปีระมิดของฟุตบอลแดนโสม
 
เคลีก 1 : 12 สโมสร / 1 ทีมตกชั้น + 1 เพลย์ออฟตกชั้น
เคลีก 2 : 10 สโมสร / 1 ทีมเลื่อนชั้น + 1 เพลย์ออฟเลื่อนชั้น / ไม่มีตกชั้น
เค 3 ลีก (กึ่งอาชีพ) : 16 สโมสร / ไม่มีเลื่อนชั้น / 2 ทีมตกชั้น + 1 เพลย์ออฟตกชั้น
เค 4 ลีก (กึ่งอาชีพ) : 13 สโมสร / 2 ทีมเลื่อนชั้น + 1 เพลย์ออฟเลื่อนชั้น / ไม่มีตกชั้น
เค 5 ลีก (สมัครเล่น) : 67 สโมสร / 11 ดิวิชั่น / ไม่มีเลื่อนชั้น / 11 ทีมตกชั้น
เค 6 ลีก (สมัครเล่น) : 190 สโมสร / 26 ดิวิชั่น / 11 ทีมเลื่อนชั้น + 30 ทีมตกชั้น
เค 7 ลีก (สมัครเล่น) : 1,002 สโมสร / 160 ดิวิชั่น / 30 ทีมเลื่อนชั้น
 
สำหรับ เคลีก 1 ฤดูกาล 2019 ปิดฉากกันไปเมื่อ 1 ธ.ค. ปีที่แล้ว ด้วยระบบการแข่งขันที่ค่อนข้างซับซ้อนพอตัว เตะกัน 3 ขยัก 3 ขย่อน
 
ด้วยการมีแค่ 12 สโมสรสมาชิก (ไม่ใช่ 18 หรือ 20 แบบหลายๆ ลีก) เท่ากับอันดับแรก ทุกทีมจะพบกันแบบเหย้าเยือน จนถึงจุดหนึ่งจะครบ 22 นัด
 
ผ่าน 22 นัดแล้ว จะเตะต่อแบบ "เจอกันอีก 1 นัด" เหย้าหรือเยือนก็ว่าไป จนได้เพิ่มอีก 11 แมตช์ เป็น 33 นัด
 
ครั้นเมื่อผ่าน 33 นัดแล้ว ก็มาถึงการ "เพลย์ออฟตัดสิน" ซึ่งจะแบ่งตารางออกเป็น "โซนลุ้นแชมป์" 6 ทีมบน กับ "โซนหนีตกชั้น" 6 ทีมล่าง โดยที่ทีมในแต่ละโซน จะเจอกับคู่แข่งในโซนเดียวกันเพิ่มอีก 5 นัด เตะแบบเจอกันเกมเดียว เหย้าเยือนก็ว่าไป
 
จึงเป็นอันครบถ้วน 38 แมตช์
(22 + 11 + 5 = 38)
 
แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีอีก 1 ทีมที่ต้องเตะแมตช์ที่ 39 และ 40 ซึ่งก็คือทีมที่เข้าป้ายอันดับ 11 (รองบ๊วย) ซึ่งต้องชี้ชะตาต่อในการ "เพลย์ออฟต่อชีวิต" กับผู้ชนะรอบเพลย์ออฟของ เคลีก 2 (ในกลุ่มทีมอันดับ 2-3-4)
 
ซีซั่น 2019 ที่ผ่านมา ทีมอันดับ 11 เคลีก 1 ได้แก่ กียองนัม เอฟซี (Gyeongnam FC) ที่ต้องชี้ขาดกับผู้ชนะเพลย์ออฟเคลีก 2 - ปูซาน ไอพาร์ค (Busan IPark)
 
กลายเป็นเรื่องฮือฮาในหน้าสื่อกีฬาเมืองโสมอยู่เหมือนกัน เมื่อปรากฏว่าผู้ชนะแห่ง Promotion-relegation playoffs งวดนี้ ได้แก่ "มวยรอง" อย่าง ปูซาน ไอพาร์ค
 
นัดแรก เสมอ 0-0 ที่ปูซาน
นัดสอง กียองนัม กลับมาเล่นในบ้าน ปรากฏแพ้ ปูซาน ไอพาร์ค คารังเสียเฉยๆ 0-2
 
รวมสกอร์จึงเป็น ปูซาน ไอพาร์ค ชนะ 2-0 คว้าตั๋วเลื่อนชั้นตามแชมป์เคลีก 2 อย่าง กวางจู เอฟซี (Gwangju FC) ขึ้นมาสูดอากาศลีกสูงสุด
 
เพลย์ออฟข้างล่างว่าเดือดแล้ว การลุ้นแชมป์ข้างบนยิ่งสะเด็ดสะเด่าเร้าใจยิ่งกว่า
 
กับการช่วงชิงบัลลังก์ของ "ฮุนไดดาร์บี้" อุลซาน ฮุนได กับ ชนบุค ฮุนได มอเตอร์ส
 
ผลัดกันนำผลัดกันตาม ชิงตำแหน่งจ่าฝูงกันอย่างสนุกเหมือนเล่นเก้าอี้ดนตรี
 
บทสรุปสุดท้าย ต้องตัดสินกันในวันท้ายสุด
 
อุลซาน ฮุนได เปิดบ้านพบ โปฮัง สตีลเลอร์ส โดยขอแค่ "ไม่แพ้" เป็นพอ
 
ชนบุค ฮุนได มอเตอร์ส ก็ได้คิวเปิดบ้านเหมือนกัน เจอทีมกลางตาราง กังวอน เอฟซี
 
ชนบุค ไม่พลาด เบียดชนะ กังวอน 1-0
 
แต่ อุลซาน ดันพลาด--พลาดสถานหนัก โดน โปฮัง สตีลเลอร์ส บุกรัวเละเทะ 4-1 แบบโดนส่องตอกฝาโลง 2 ประตูท้าย ใน 2 นาทีสุดท้าย
 
ผลทำให้ ชนบุค ฮุนได มอเตอร์ส ของกุนซือ โชเซ่ โมไรส์ (อดีตผู้ช่วย โชเซ่ มูรินโญ่ ในหลายทีม) ผงาดครองแชมป์ เคลีก 1 ซีซั่น 2019 ด้วยการมี "แต้มเท่า" อุลซาน เพียงแต่ยิงประตูได้มากกว่า "หนึ่งลูก" เท่านั้น! (ในระบบคิดอันดับแบบ 1.แต้ม 2.ประตูที่ยิงได้ 3.ผลต่างประตูได้เสีย 4.แมตช์ชนะ 5.เฮดทูเฮด)
 
แชมป์ : ชนบุค ฮุนได มอเตอร์ส : ชนะ 22 เสมอ 13 แพ้ 3 ยิงได้ 72 ผลต่าง +40 แต้ม 79
รองแชมป์ : อุลซาน ฮุนได : ชนะ 23 เสมอ 10 แพ้ 5 ยิงได้ 71 ผลต่าง +32 แต้ม 79
 
ชนบุค ฮุนได มอเตอร์ส เป็นแชมป์ 3 ปีซ้อน นับเป็นแชมป์ลีกสมัยที่ 7 เป็นรองแค่ โปฮัง สตีลเลอร์ส ที่ถือครองสถิติสูงสุด 8 สมัย
-2-
ผ่านพ้นซีซั่น 2019 อย่างสนุกสุดแสนเที่ยวแดนเนรมิต ซีซั่น 2020 ก็ล็อคคิวไว้เปิดประเดิมเริ่มต้นกัน 29 ก.พ. แล้วค่อยไปสรุปจบเอา 4 ต.ค.
 
แต่ก็อย่างที่ทราบ เมื่อโควิดมา ฟุตบอลก็ถอยกันหมด
 
เคลีก 1 ซีซั่น 2020 เป็นอีกแห่งที่ถูกแขวนไว้เพื่อรอดูสถานการณ์ ไม่ต่างจากลีกหัวแถวแห่งอื่นๆ ของเอเชีย, ยุโรป, อเมริกา
 
เพียงแต่ก็อย่างที่คุณคงพอทราบ เมื่อสถานการณ์ของโควิด-19 ในเมืองโสม ดูมีทิศทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับ ณ ตอนนี้ ตัวเลขผู้ติดเชื้อของเกาหลีใต้ เป็น "กราฟหยุดนิ่ง" มาแล้วพักใหญ่ ยอดสะสม 10,810 เป็นรักษาหายแล้วถึง 9,419 และเหลือผู้ป่วยปัจจุบัน Active cases แค่ 1,135 รายเท่านั้น (ส่วนเสียชีวิต 256)
 
เมื่อรัฐบาลประกาศผ่อนคลายล็อคดาวน์ ธุรกิจการค้า โรงร่ำโรงเรียนกลับมาเปิดทำการ
 
กิจกรรมกีฬาอย่าง ฟุตบอล ก็ได้ไฟเขียวเรียบร้อยเช่นกัน
 
ซึ่งก็เพียงพรุ่งนี้เท่านั้น ศุกร์ 8 พ.ค. ที่ เคลีก 1 ซีซั่น 2020 ได้ฤกษ์ตัดริบบิ้นเปิดงานเป็นทางการ
 
เพียงแต่ก็อีกนั่นแหละ เมื่อต้องกลับมาโดยที่ โควิด-19 ไม่ได้ถึงกับสูญหายตายจาก แบบนี้ ก็ต้องมีการปรับตัวปรับใจกันไม่น้อย
 
เป็น NEW NORMAL ที่เคลีกวางไว้ เพื่อให้ฟุตบอลสามารถเดินหน้าได้ต่อ
 
เคลีก มีมาตรการแบบไหนอย่างไร เพื่อให้อยู่รอดได้ในยุคโควิด ไปดู...
 
• ก่อนจะกลับมาได้ เคลีก มีการนัดนักเตะ, โค้ช และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จำนวน 1,100 ชีวิต ให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ช่วงสัปดาห์ที่แล้ว และภายหลังทราบผลตรวจในเพียง 6 ชั่วโมง ข่าวดีคือทุกคน "ปราศจากเชื้อ" ผลตรวจเป็นลบ 100%
 
• เตะปิดสนาม ห้ามแฟนบอลเข้า แต่ในอนาคต มีสิทธิ์เปิดให้แฟนเข้าชมได้อีกครั้ง
 
• หากถึงเวลาที่แฟนบอลเข้าชมได้ ก็จะต้องผ่านมาตรการเคร่งครัด ทั้งการตรวจวัดอุณหภูมิ, ใช้เจลล้างมือก่อนเข้าสนาม, ต้องสวมแมสค์ปิดปากปิดจมูกตลอดเวลา
 
• นักเตะห้ามถ่มน้ำลาย ห้ามสั่งน้ำมูก ห้ามพ่นน้ำ แม้แต่การบ้วนลงพื้น
 
• นักเตะห้ามจับไม้จับมือกัน ทั้งก่อนเกม / ระหว่างเกม / หลังจบเกม
 
• ขอความร่วมมือในการ "ลด" การสนทนากัน ระหว่างนักเตะ หรือฝั่งตรงข้าม และ "ห้าม" สนทนากันแบบใกล้ชิด
 
• นักเตะต้องมีขวดน้ำส่วนตัว แปะป้ายระบุชื่อชัดเจน
 
• ผู้จัดการทีมและสตาฟฟ์โค้ช ต้องสวมแมสค์ตลอดเวลาการทำหน้าที่ข้างสนาม
 
• การให้สัมภาษณ์หลังจบเกม จะเกิดขึ้นที่กลางสนามเท่านั้น และผู้สื่อข่าวต้องอยู่ห่างจากนักเตะหรือโค้ช 2 เมตร โดยไม่มีการนั่งแถลงข่าวเป็นเรื่องเป็นราวเหมือนที่เคย
 
• จะมีการตรวจหาเชื้อในกลุ่มนักเตะ อยู่เรื่อยๆ ในระหว่างซีซั่น ซึ่งถ้าพบนักเตะรายหนึ่งรายใดของทีมใดทีมหนึ่ง มีผลเป็นบวก ทีมนั้นๆ จะต้องทำการกักตัว ห้ามลงเล่นไป 2 สัปดาห์เป็นอย่างน้อย
 
นอกจากนั้น ยังมีบางอย่างที่ต้องเอ่ยถึง และสำคัญกับลีกที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น
 
• จากเดิมที่เตะกัน 38 นัด ฝ่ายจัดเคลีกเล็งเห็นว่าเมื่อระยะเวลาของซีซั่นถูกหั่นสั้นลง (เมื่อต้องเบรคหนีไวรัส) โปรแกรมก็ควรตัดลดลงด้วย ซีซั่น 2020 จึงจะเหลือเตะกัน "27 นัด" ซึ่งหมายถึงการ "โละเฟสสอง" -- สมการซีซั่นก่อน 22 + 11 + 5 = 38 มาปีนี้ ตัวเลข 11 ตรงกลาง จะหายไป กลายเป็นแมตช์เหย้าเยือนปกติ 22 + รอบเพลย์ออฟโซนบนโซนล่าง อีกแค่ 5 นัด เป็นอันจบสิ้น
 
• โควตาตกชั้นที่เดิมทีเป็น 1+1 มาปีนี้ ยังคงเป็น 1+1 แต่ต่างออกไป เพราะยืนยันไว้แล้วหนึ่งรายว่าต้อง "ตกชั้นแบบไม่ต้องรอให้เตะ" คือทีมกองทัพ ซางจู ซางมู สโมสรในอาณัติของเทศบาลเมืองซางจู และ Korea Armed Forces Athletic Corps ได้ยืนยันแล้วถึงการจะ "เปลี่ยนแฟรนไชส์" มีผลให้ต้องตกชั้นโดยปริยายในซีซั่นนี้ไม่ว่าจะจบอันดับใด เท่ากับปีนี้แค่เตะสั่งลาแฟนๆ ให้ครบโปรแกรม
 
• ส่วนอีกทีมที่จะตกชั้นตาม ซางจู ซางมู ไป คือทีมบ๊วย อันดับ 12
 
ทั้งนี้ทั้งนั้น แม้เคลีกจะไม่ได้เพียบด้วยซูเปอร์สตาร์ตัวต่างชาติราคาแพงเหมือน ไชนีส ซูเปอร์ลีก หรือกระทั่ง เจลีก ญี่ปุ่น แต่ตัวที่พอคุ้นหูคุ้นตาก็มีอยู่เหมือนกัน อาทิ จูเนียร์ เนเกรา อดีตเมืองทอง/พัทยา อยู่อุลซาน, ออสมาร์ อิบันเยซ อดีตบุรีรัมย์ อยู่เอฟซี โซล, โชนาธาน ไรส์ อดีตประจวบ/สุพรรณ/บีจี อยู่ปูซาน, เดยัน ดัมยาโนวิช อดีตตัวทีมชาติมอนเตเนโกร (38 แล้ว) อยู่แดกู, มาร์โก อูเรนย่า ตัวทีมชาติคอสตาริกา อยู่กวางจู, โดเนล เฮนรี่ ตัวทีมชาติแคนาดา อดีตเวสต์แฮม/แบล็คเบิร์น อยู่ซูวอน, อดัม แท็กการ์ต ตัวทีมชาติออสเตรเลีย อดีตฟูแล่ม ดาวซัลโวซีซั่นที่แล้ว (20 ประตู) อยู่ซูวอน
 
และ อี ชุง-ยอง ปีกชั่วโมงบินพรีเมียร์ลีกสูง (โบลตัน / คริสตัล พาเลซ) ในวัย 31 เพิ่งย้ายจาก โบคุ่ม กลับบ้านเกิดมาอยู่ อุลซาน ฮุนได เมื่อเดือน มี.ค. นี่เอง
-1-
เมื่อวานนี้ (8 พ.ค. 63) เคลีก 1 ซีซั่น 2020 เริ่มต้นโดย "เรียกน้ำย่อย" กันก่อนที่ 1 คู่ -- ซึ่งเป็นเกมที่ได้รับความสนใจจากทั่วทั้งโลกแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนกับลีกเกาหลี
 
17.00 น. (เวลาบ้านเรา) แชมป์เก่าเคลีก ชนบุค ฮุนได มอเตอร์ส พบ ซูวอน ซัมซุง บลูวิงส์ แชมป์เก่าโคเรียน เอฟเอ คัพ
 
สำคัญคือ "ถ่ายสดฟรี" ผ่านทางโซเชียลมีเดียหัวแถวอย่าง YouTube และ Twitter ให้แฟนๆ ได้ชมพร้อมกันทั่วโลกด้วย
(ซึ่งผล ชนบุค ฮุนได มอร์เตอร์ส เอาชนะ ซูวอน ซัมซุง บลูวิงส์ 1-0)
จากนั้นวันเสาร์ ต่อเนื่องด้วย 3 คู่ (และ 2 คู่ของ เคลีก2 / เอฟเอ คัพ นับสิบแมตช์)
12.00 อุลซาน ฮุนได - ซางจู ซางมู
14.30 อินชอน ยูไนเต็ด - แดกู เอฟซี
17.00 กวางจู เอฟซี - ซองนัม เอฟซี
 
และวันอาทิตย์ เบาๆ 2 คู่
12.00 โปฮัง สตีลเลอร์ส - ปูซาน ไอพาร์ค
14.30 กังวอน เอฟซี - เอฟซี โซล
 
ผลลัพธ์ของ 6 คู่ 6 สนาม จะออกหน้าไหน สนุกสนานสมการรอคอยหรือไม่อย่างไร วีว่าซอค จะเฝ้าจับตาเพื่อนำเสนอเป็นลำดับถัดไป
และโดยไม่ต้องรอ ก็ชัดเจนอย่างหนึ่ง...
 
เคลีก กำลังจะมาแล้ว ลีกใหญ่หลายๆ แห่งก็กำลังปูทางสำหรับการกลับมา
 
ผ่านพ้นไปได้เสียทีนะ...ชีวิตที่ไร้ซึ่งฟุตบอล...
#เคลีก #เกาหลีใต้ #โควิด19 #วีว่าซอค #vivasoc
www.vivasoc.com เว็บฟุตบอลปลอดพนัน
โฆษณา