Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Guide Talk
•
ติดตาม
9 พ.ค. 2020 เวลา 19:50 • ท่องเที่ยว
“โยนีปีศาจ” พันธุ์ไม้อัศจรรย์บนยอดภูเขาไฟกระโดง จ.บุรีรัมย์
ภูเขาไฟกระโดง เป็นภูเขาไฟ 1 ใน 6 ลูก ของ "เมืองปราสาทหิน ถิ่นภูเขาไฟ...” แห่งนี้
ภาพจากบุรีรัมย์กูรู
อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 6 กิโลเมตร นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของเมืองบุรีรัมย์ ผู้คนนิยมขึ้นไปกราบสักการะพระสุภัทรบพิตรจำลององค์ใหญ่คู่เมืองบุรีรัมย์และพระพุทธบาทจำลอง รวมทั้งเที่ยวชมสะพานแขวนข้ามปากปล่องภูเขาไฟที่ดับสนิทมาประมาณ 3-9 แสนปี
ภาพจากสภ.เมืองบุรีรัมย์
ปากปล่องปะทุเป็นรูปคล้ายพระจันทร์ครึ่งซีก มีน้ำขังกลายเป็นทะเลสาบบนปากปล่องภูเขาไฟ มีความสวยงามที่สุดในประเทศไทย สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 283 เมตร
ภูเขาไฟกระโดงแห่งนี้ มีพันธุ์ไม้แปลกตาหายาก พบได้เฉพาะตามซากภูเขาไฟเก่าที่เกิดขึ้นในประเทศไทยและยังเป็นจุดขายของนักท่องเที่ยว นั่นคือต้นไม้อัศจรรย์ตามตำนานท้องถิ่น ที่ภาษาถิ่นหรือคนเขมรเรียกว่า “ต้นกะนุยขมอย” อันแปลได้ว่า “ต้นหีผี" ซึ่งตอนหลังนิยมเรียกว่า “โยนีปีศาจ” เพื่อให้สุภาพ
ภาพจากบุรีรัมย์กูรู
ข้อมูลจากเว็ปไซต์บุรีรัมย์กูรู กล่าวว่า “ต้นโยนีปีศาจหรือต้นหีผี มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Schrebera swietenioides Roxb. เป็นพืชไม้ ประเภทยืนต้น ลักษณะไม้เปลือกแข็ง ลำต้นสูงใหญ่ ประเภทใบเลี้ยงคู่ออกดอกเป็นช่อๆ สีขาวแกมเหลืองเล็กน้อยคล้ายๆ ดอกพวงพยอม แต่ไม่มีกลิ่นหอม จะเริ่มออกดอกในระยะต้นของเดือนพฤษภาคม ผลของต้นลักษณะคล้ายๆ ลูกมะกอก ขนาดประมาณ 3-5 เซนติเมตร เมื่อลูกสุกประมาณเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม จะหล่นลงมาและแตกออกเป็นสองซีก
เมื่อนำไปกดกับดินทรายจะปรากฏรอยคล้ายอวัยวะเพศหญิง มีเฉพาะประเทศไทย พบได้ตามซากภูเขาไฟเก่า ซึ่งเป็นที่น่าสนใจของนักท่องเที่ยว การขยายพันธุ์ด้วยวิธีเพาะเมล็ดและปักชำทำได้ยาก ชาวบ้านยังมีความเชื่อว่า ผลของต้นไม้นี้ยังมีสรรพคุณในการรักษาโรคภูมิแพ้ได้ด้วย”
ภาพจากไทยรัฐ
ตามตำนานท้องถิ่นที่เล่าสืบต่อกันมารุ่นสู่รุ่น จนถึงสมัยที่ไกด์ยังเด็ก ยังจำที่คุณตาได้เคยเล่าให้ฟังว่า สมัยหนึ่ง พระโพธิสัตว์เจ้าจุติจากเทวโลก ลงมากำเนิดเป็นโอรสของท้าวมหาธรรมราชากับนางสุวรรณเทวี แห่งเมืองพรหมพันธ์ นามปาจิตต์กุมาร ครั้นพระชนม์ได้ ๑๖ พรรษา พระราชบิดาก็ทรงคิดจะอภิเษกให้ขึ้นครองราชย์ และได้หาพระธิดาของกษัตริย์ของเมืองขึ้นร้อยเอ็ดหัวเมืองมาให้เลือก แต่ท้าวปาจิตต์ไม่ต้องพระทัย โหรทำนายว่า เนื้อคู่ของพระองค์ยังอยู่ในครรภ์หญิงม่ายนางหนึ่ง ให้ท้าวปาจิตต์เดินทางไปทางทิศตะวันออกจะได้พานพบหญิงม่ายผู้นั้น โดยสังเกตุแสงตะวันทรงกลดเป็นเงากั้นบนศีรษะ เพราะบุญญาธิการของทาริกาที่อยู่ในครรภ์
ท้าวปาจิตต์เดินทางหาคู่ จนไปพบนางบัว ชาวบ้านสัมฤทธิ์ซึ่งกำลังตั้งครรภ์และมีลักษณะตรงกับคำทำนาย จึงได้ขอฝากตัวขออาศัยอยู่ช่วยทำนา จนนางบัวได้คลอดบุตรเป็นหญิง ลักษณะถูกต้องตรงตามคำทำนาย จนเติบใหญ่เป็นสาวสวยชื่อว่า “อรพิมพ์” ท้าวปาจิตต์ได้ขอลากลับบ้านเมืองเพื่อเตรียมขบวนขันหมากมาสู่ขอ ระหว่างเดินทางมาถึงบ้านกงรถ ท้าวปาจิตต์ได้ข่าวว่า อรพิมพ์ถูกท้าวพรหมทัตกุมาร โอรสแห่งพาราณศรีฉุดไปเป็นชายา แต่อรพิมพ์ไม่ยินยอม จึงถูกขังไว้ในปราสาทของท้าวพรหมทัต
ท้าวปาจิตต์ เสียพระทัยมาก รับสั่งให้ทหารในขบวนขันหมากทุกคนกลับเมือง ส่วนพระองค์เดินทางต่อไปคนเดียว จนได้พบอรพิมพ์และช่วยให้ออกมาจากที่คุมขัง ระหว่างทางท้าวปาจิตต์ถูกนายพรานฆ่าตายและชิงตัวอรพิมพ์ไป แต่อรพิมพ์ก็กลับฆ่านายพรานนั้นเสีย แล้วกลับมารักษาท้าวปาจิตต์ ฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาได้ด้วยสมุนไพร แล้วทั้งสองก็เดินทางล่องเรือผ่านแม่น้ำสายหนึ่ง มีสามเณรรูปหนึ่งพายเรือให้ เณรออกอุบายลวงให้ท้าวปาจิตต์ขึ่้นฝั่งก่อน ส่วนเณรก็พาอรพิมพ์พายเรือหนีไป กระทั่งถึงฝั่งอรพิมพ์ได้ออกอุบายให้เณรขึ้นต้นมะเดื่อแล้วเอาหนามตรึงเณรไว้ ก่อนจะพายเรือกลับมาหาท้าวปาจิตต์ แต่ไม่พบ
1
ระหว่างทางที่ออกตามหาท้าวปาจิตต์ตามลำพัง นางนึกหวั่นเกรงว่าจะเกิดอันตราย จึงอธิษฐานจิตขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์แปลงร่างให้เธอเป็นชาย โดยขอให้บางส่วนที่เป็นหญิงหลุดหายไปจากร่าง จากนั้นอรพิมพ์ก็นำปทุมถันของนางไปฝากไว้ที่ต้นงิ้ว ส่วนโยนีหรืออวัยวะเพศหญิง ได้นำไปฝากไว้ที่ต้นมะกอกโคก แล้วก็กลายเป็นต้นหีผีมาจนวันนี้
ต่อมา อรพิมพ์ก็ได้พานพบคนรักของนาง จึงได้กลับมาเอาโยนีที่เคยฝากไว้ แล้วเอากลับไปแปะไว้ที่เดิม จนกลับมาเป็นหญิงอีกครั้ง
มาถึงตอนนี้ หากท่านใดมีความสนใจใคร่ชมต้นโยนีปีศาจ พันธุ์ไม้อัศจรรย์ตามตำนาน สามารถมาได้ที่วนอุทยานภูเขาไฟกระโดง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งนอกจากนี้ยังมีหินมหัศจรรย์ลอยน้ำได้ พันธุ์พืชและสัตว์แปลกตาถิ่นภูเขาไฟ และกิจกรรมต่างๆมากมายสำหรับผู้มาเที่ยวชม โดยไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายใดๆ
การเดินทางสู่จ.บุรีรัมย์ สามารถเดินทางได้สะดวกทั้งทางรถไฟ รถทัวร์ เครื่องบิน และรถยนต์ส่วนตัว
จากตัวเมืองบุรีรัมย์ ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 219 (บุรีรัมย์-ประโคนชัย) ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าวนอุทยานฯ
1
ข้อมูลอ้างอิง :
www.buriramguru.com
1 บันทึก
23
27
9
1
23
27
9
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย