11 พ.ค. 2020 เวลา 10:15 • บันเทิง
อธิบายเรื่อง ชื่อจริง ชื่อเล่น ชื่อกลาง และเจตนารมณ์แห่งดี
โพสต์นี้จะแบ่งเป็นสามส่วน คือ
1. คำอธิบายโดยทั่วไปเกี่ยวกับ ชื่อจริง ชื่อเล่น และสมญานาม
2. ชื่อกลาง
3. เจตนารมณ์แห่งดี
///////////////////////////////////////
ส่วนที่ 1 ชื่อ-first name นามสกุล-last name ชื่อเล่น-nickname สมญานาม-alias
ในประเทศไทย ชื่อที่เราใช้กันตามปกติก็คือ ชื่อ นามสกุล และ ชื่อเล่น ซึ่งอาจแปลเป็นภาษาอังกฤษได้คร่าวๆ เป็น first name, last name, nickname ที่บอกว่าการแปลข้างต้นเป็นการแปลแบบคร่าว ๆ ก็เพราะมันไม่ได้เหมือนกันเป๊ะในกรณีของ ชื่อเล่น ในประเทศไทย กับ nickname ในประเทศอเมริกาหรือประเทศฝั่งตะวันตก
แล้วก็ยังมีเรื่องของ สมญานาม-alias ชื่อย่อ-short name??? อีกด้วย ดังนั้นเราจะเห็นว่าเรื่อง “ชื่อ” ก็ดูมีอะไรให้อธิบายเยอะอยู่เหมือนกัน
ชื่อเล่น ที่เราใช้กันเป็นส่วนใหญ่ในประเทศไทย พ่อแม่เป็นคนตั้งให้เราตั้งแต่เด็ก ส่วน nickname ดูเหมือนเค้าจะตั้งกันเองทีหลังตอนโต เช่น อาจจะเจ้าตัวตั้งเองก็ได้ หรือเพื่อนตั้งให้ก็ได้ หรืออาจจะมาจาก first name ตามความนิยมก็ได้ ทำให้ nickname ต่างจาก ชื่อเล่น ไปเล็กน้อย ขอฝากผู้อ่านพิจารณาเพิ่มเติมจากตัวอย่างต่อไปนี้ครับ
1.สมญานาม-alias ชื่อเล่น-nickname ที่เจ้าตัวตั้งให้ตัวเอง เราอาจจะเห็นได้จากบทสนทนาในหนังแบบนี้
My name is Star Lord. ซึ่ง Peter Quill น่าจะตั้งชื่อนี้ให้ตัวเอง และ ชื่อ Star Lord ก็จะเป็น สมญานาม-Alias ของ Peter Quill ตัวอย่างอื่นๆ ของการตั้งสมญานามให้ตัวเอง ก็เช่น
“I am the Iron Man”
“I am the War Machine”
ขอให้เรียกฉันว่า “อุซปนักรบแห่งท้องทะเลผู้ห้าวหาญ”
ฉันชื่อ “โซเงคิง เจ้าแห่งการซุ่มยิง”
ฉันไม่ใช่ซีซาร์ ชื่อของฉันคือ “แกสตีโน่” ต่างหากชูโร่โร่โร่
(บางอันในนี้ ก็อาจจะนับให้เป็นได้ทั้ง สมญานามกับชื่อปลอมนะครับ)
แต่ก็อาจจะมีบทสนทนาในหนังอีกแบบดังนี้
My name is … (first name, last name) but you can call me … ซึ่งก็จะเป็น ชื่อเล่น-Nickname ที่เจ้าตัวตั้งให้ตัวเอง
สรุปว่า เรามีตัวอย่างของสมญานาม และชื่อเล่น ที่เจ้าตัวตั้งให้ตัวเองนะครับ
2.สมญานาม-alias ชื่อเล่น-nickname ที่เพื่อน หรือคนอื่นๆ ตั้งให้ เช่น
2.1 สมญานาม Professor X หรือ Wolverine เป็นชื่อที่คนอื่นตั้งให้ ไม่ได้ตั้งเอง เช่นใน X-men the first class เราจะเห็นว่า Raven เป็นคนตั้งชื่อให้ Xavier เป็น Professor X แล้วตอนหลังคนอื่นๆ ก็เรียกสั้นกว่าเดิม จาก Profesor X กลายเป็น Professor ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่า เพราะ Xavier ได้ตำแหน่ง ศาสตราจารย์-Professor จริงๆ จากการทำวิจัย จากการแต่งตั้ง หรือเพราะสอนหนังสือเป็นครูใหญ่ที่โรงเรียน ก็เลยเรียกเป็น Professor เพื่อให้เกียรติ หรือเพราะเรียกย่อมาจาก Professor X (ใครรู้คำตอบที่แน่ชัด ช่วยบอกในคอมเมนท์ด้วยก็ดีครับ ขอบคุณครับ)
2.2 สมญานาม ไข่ย้อย จากเรื่อง เพื่อนสนิท ดูเหมือนว่าพระเอกจะได้ชื่อนี้ตอนเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว โดยที่ ดากานดา เป็นคนตั้งชื่อให้ แต่ก็กลายเป็นว่า ไข่ย้อย ซึ่งเป็น สมญานาม-Alias นี้ ได้ใช้เป็น ชื่อเล่น-Nickname ไปด้วยเลย ดังนั้นทั้ง สมญานาม กับ ชื่อเล่น เลยกลายเป็นอันเดียวกัน และแน่นอนว่าตามลักษณะทั่วไปในเมืองไทย ไข่ย้อย ก็คงมีชื่อเล่นที่พ่อแม่ตั้งให้ตั้งแต่สมัยเด็กๆ แล้ว (หมู) ซึ่งก็จะเป็น ชื่อเล่น ที่ไม่ใช่ สมญานาม
รวมจากข้อ 2.1 และ 2.2 เราก็จะเห็นว่า มีทั้งแบบที่เป็น สมญานามแต่ไม่ใช่ชื่อเล่น เป็นชื่อเล่นแต่ไม่ใช่สมญานาม และเป็นทั้งชื่อเล่นและสมญานาม
2.3 ตัวอย่างอื่นๆ เช่น เจ้าหญิงผู้เลือกกิน ในเรื่อง Crash Landing on You ประกายแสงสีเหลืองแห่งโคโนฮะในเรื่องนินจาคาถา และในเรื่องวันพีซก็มี ผู้พิทักษ์แห่งอาณาจักรอลาบาสตา(เปรู) ไอ้หัวเขียว(โซโล) ไอ้คิ้วม้วน(ซันจิ) ก็อดอุซป ไอ้นกพิราบ(รุจจิ) หนวดขาว หนวดดำ บิ๊กมัม ผมแดง
(แล้วก็มีสิ่งที่เรียกว่า Code Name อีก เช่น Miss Wednesday, Miss All Sunday แต่ขอข้ามไปละกันครับ เดี๋ยวยาวเกินไป)
3. สมญานาม-alias ชื่อเล่น-nickname ชื่อย่อ-short name ที่ได้มาจากชื่อจริงตามความนิยมหรือความคุ้นเคย เช่น
ถ้าชื่อที่เป็น first name คือ William มักจะได้ชื่อ nickname เป็น Will ถ้า first name เป็น Robert มักจะได้ชื่อ nickname ว่า Rob หรือ Bob
เช่น ชื่อของนักคณิตศาสตร์ที่ Penn State University จากชื่อจริง Robert Vaughan แต่เพื่อนๆ จะเรียกเป็น Bob แม้แต่ป้ายชื่อหน้าออฟฟิศก็เขียนเป็น Bob Vaughan ไม่ใช่ Robert Vaughan และบางคนพอจะเรียกชื่อยาวๆ ก็ไม่ใช้ชื่อกลางเป็น Robert Charles Vaughan แต่กลับเรียกเป็น Robert Bob Vaughan
อาจจะมีตัวอย่างอื่นๆ ได้อีก และอาจมีรายละเอียดที่ไม่ตรงกับที่ผมอธิบาย แต่ผู้อ่านสามารถดูเพิ่มเติมได้โดยใช้ Google หรือ Wikipedia เช่น
ที่จริงหลายๆท่าน ก็น่าจะเคยได้เรียกชื่อเพื่อนๆ โดยใช้ ชื่อจริง ชื่อเล่น ชื่อย่อ สมญานาม และ ชื่อพ่อ-ในกรณีที่เคยเป็นเด็กเกเร นิสัยไม่ดี หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์มาก่อนนะครับ
นอกจากนี้เรายังมีการใช้ชื่อย่อ แทนชื่อเล่นในบางกรณีอีกด้วย เช่นจากชื่อจริง ณัฐพงศ์ เราอาจเรียกย่อๆ เป็น ณัฐ ถึงแม้ว่าเค้าจะมีชื่อเล่นที่ต่างออกไป
บางคนอาจได้สมญานามมาตอนโต แล้วก็ใช้สมญานามนั้นเป็นชื่อเล่น แทนชื่อเล่นอันที่ได้จากพ่อแม่ (แล้วตกลงเราจะเรียกชื่อนั้นๆ ว่าเป็น ชื่อเล่น หรือ สมญานาม กันแน่นะ ผมเองก็ไม่ทราบคำตอบที่แน่ชัด)..
เอาล่ะ ผมอธิบายคำว่า ชื่อเล่น-nickname กับ สมญานาม-alias มาพอสมควรแล้ว ต่อไปเป็นเรื่องของชื่อกลางบ้างครับ
/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ส่วนที่ 2 ชื่อกลาง-middle name
ชื่อกลาง หรือบางทีก็แปลว่า ชื่อรอง ภาษาอังกฤษก็คือ Middle Name ซึ่งไม่ค่อยเห็นมีใครใช้ในประเทศไทย แต่ดูจะมีการใช้งานมากในประเทศทางตะวันตก อาจจะเพราะชื่อคนไทยในปัจจุบันมีความแตกต่างกันเยอะแล้ว เรามีทั้ง ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น สมญานาม ซึ่งน่าจะเพียงพอแล้ว แต่ประเทศทางตะวันตกอาจจะไม่ได้มีชื่อใช้มากนัก ก็เลยมีชื่อ-นาสกุล ซ้ำกันบ่อย แล้วพออยากแยกชื่อของคนสองคนให้ต่างกันได้ ก็เลยมีการใช้ชื่อกลางหรือชื่อรองเพิ่มเข้ามา แต่ในปัจจุบัน ชื่อในประเทศทางตะวันตกก็เริ่มมีความหลากหลายมากขึ้น ดังนั้นชื่อกลางจึงมีวัตถุประสงค์การใช้งานที่เปลี่ยนไป เช่น
- ผู้หญิงพอแต่งงาน แล้วจะทำตามธรรมเนียมดั้งเดิมของเค้า ก็ต้องเปลี่ยนนามสกุลตามสามี แต่ก็อยากเก็บนามสกุลอันเดิมของตัวเองไว้ ก็เลยเอานามสกุลเดิมมาใส่เป็นชื่อกลางแทน
- คนไทยที่ใช้ชีวิตในอเมริกา อาจจะใช้ชื่อเล่นเป็น middle name แทนก็ได้ แล้วก็ให้เพื่อนๆ เรียกตัวเองง่ายๆ โดยใช้ middle name (ที่เอามาจากชื่อเล่น)
- ใช้ชื่อ พ่อ แม่ ญาติ ผู้ที่มีบุญคุณ ผู้ที่ตนเองเคารพนับถือ มาใส่เป็น middle name ให้ลูกเพื่อเป็นการให้เกียรติ และระลึกถึงความดีของ พ่อ แม่ ญาติ หรือผู้มีพระคุณของคนๆ นั้น
ตัวอย่างจากในหนัง เช่นในเรื่อง Harry Potter ตั้งชื่อลูกสามคนว่า James Sirius Potter, Albus Severus Potter, Lily Luna Potter ซึ่งก็เอามาจาก ชื่อพ่อ ชื่อพ่อบุญธรรม(หรือพ่อทูนหัว ที่เรียกว่า God Father ในภาษาอังกฤษ) ชื่ออาจารย์ใหญ่ที่ชี้แนะการต่อสู้ ชื่ออาจารย์ที่คอยแอบช่วยเหลือมาตลอด ชื่อแม่ และ ชื่อเพื่อนที่คอยช่วยเหลือให้เอาตัวรอดได้ ประมาณนี้นะครับ ถ้าจำผิดขออภัยด้วยครับ อ่านนานแล้ว
หมายเหตุเพิ่มเติม ในสังคมตะวันตกโดยเฉพาะที่อเมริกา อาจจะไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องความกตัญญูกตเวที อะไรมากนัก แต่เรื่อง ความดี ความชั่ว เป็นเรื่องที่มีในจิตสำนึก ในความรู้สึกของมนุษย์โดยทั่วไปกันอยู่แล้ว ในคนที่บอกว่านับถือศาสนาแต่ไม่ได้ปฎิบัติจริง หรือแม้แต่ในคนที่ตั้งใจไม่มีศาสนา เค้าก็มีจิตสำนึกของความดี ความชั่ว โดยพื้นฐานกันอยู่แล้ว ดังนั้นถึงไม่ค่อยมีการพูดถึงเรื่องความกตัญญู แต่คนดีโดยทั่วไปเค้าก็จะมีความรู้สึกในเรื่องของ บุญคุณ ความเมตตา ความดี ของพ่อแม่ กันอยู่แล้ว ในทางกลับกันถ้า พ่อแม่ ทำตัวไม่น่าเคารพ เมาเหล้า ทิ้งลูก รังแกลูกซะเอง เค้าก็คงไม่ได้อยากใช้ชื่อ พ่อแม่ มาตั้งเป็น ชื่อกลาง ให้ลูกของเค้าหรอก
- เป็นไปได้เหมือนกันว่า ชื่อกลางอาจจะไม่ได้มาจาก ชื่อ พ่อ แม่ หรือผู้มีพระคุณในยุคปัจจุบัน แต่มาจาก บรรพชนรุ่นก่อนพ่อแม่ เช่นเป็น ชื่อ ปู่ ย่า ปู่ทวด ย่าทวด หรือนานมากกว่านั้น เช่น ในเรื่องวันพีซ ดี ก็อาจเป็นชื่อกลาง ที่มาจากบรรพชนตั้งแต่เมื่อ 800 ปีก่อน หรือชื่อ อาณาจักร ที่ล่มสลายไปเมื่อ 800 ปีก่อน ก็ได้ (แต่ปัจจุบัน เล่ม 1-95 ยังไม่ได้เฉลยว่าคืออะไรกันแน่)
////////////////////////////////////////////////////////////////
ส่วนที่ 3 เจตนารมณ์แห่งดี
D. หรือ ดี เป็นชื่อกลางของตัวละครสำคัญ เช่น มังกี้ ดี ลูฟี่ และ โกล ดี โรเจอร์
ชื่อกลาง D. ชื่อเดิมของราชาโจรสลัด และเจตนารมณ์แห่งดี ปรากฎเป็นครั้งแรกในคำพูดของ ด็อกเตอร์ คุเรฮะ (เล่ม 17 ตอนที่ 157) ซึ่งทำให้เราเห็นว่า ชื่อเดิมของราชาโจรสลัดคือ โกล ดี โรเจอร์ (Gol D. Roger) ซึ่งตอนหลังเพี้ยนเป็น โกลด์ โรเจอร์ (Gold Roger)
ถ้าเราเทียบกับการใช้ชื่อกลางในโลกจริงยุคปัจจุบันตามที่ได้อธิบายไปข้างบนนี้แล้ว เราก็อาจเดาได้ว่า D. น่าจะเป็นชื่อย่อของ บรรพชน ต้นตระกูล วีรบุรุษ หรืออาณาจักร ที่ล่มสลายไปเมื่อ 800 ปีก่อน คนรุ่นหลังที่สืบสายเลือดจากบรรพชนเหล่านั้น ก็เลยใช้ D. มาตั้งเป็นชื่อกลางให้ลูกของตนเอง เพื่อเป็นการระลึกถึงบรรพบุรุษหรืออาณาจักรที่ล่มสลายไปในอดีต และเป็นการสืบทอดเจตนารมณ์ของบรรพบุรุษที่จะต่อสู้หรือฟื้นฟูอะไรบางอย่าง เช่น ฟื้นฟูความรุ่งเรืองของอาณาจักรในอดีต
ตอนรุ่นแรกๆ ทุกคนอาจจะรู้ว่า D. หรือเจตนารมณ์แห่งดี ย่อมาจากอะไร หมายถึงอะไร แต่พอผ่านไปนานๆ คนก็อาจจะแค่ทำตามๆ กันไป เห็นปู่ย่าทำแบบนี้ ก็เลยทำตามประเพณีที่สืบทอดกันมา คือใช้ชื่อกลาง D. ต่อๆ กันไป แต่ไม่ได้ศึกษาอย่างละเอียดว่า D. คืออะไร พอผ่านไปนานๆ จนถึงยุคปัจจุบัน ก็เลยมีไม่กี่คนที่พอรู้บ้างว่า ชื่อกลาง D. หรือ เจตนารมณ์แห่งดี คืออะไร แต่ไม่ได้รู้แบบแน่ชัดว่า มันมาจากไหน ย่อมาจากอะไร คืออะไรกันแน่
แน่นอนว่าในโลกของวันพีซ D อาจจะเป็นชื่อเต็มๆ แล้ว แต่ถ้าเราเทียบกับ ชื่อกลางในโลกจริง D. น่าจะเป็นชื่อกลางที่เขียนย่อๆ มากกว่าที่จะเป็นชื่อกลางแบบเต็มๆ แค่ตอนนี้(เล่ม 1-95) ยังไม่เฉลยว่า D. ย่อมาจากอะไร
จะเป็น Dragon มั๊ย ถ้าใช่ก็จะกลายเป็นว่า มังกี้ ดี ดราก้อน ชื่อเต็มๆ คือ มังกี้ ดราก้อน ดราก้อน ฟังดูค่อนข้างตลกอยู่นะครับ (เพิ่มเติม ถึงจะไม่ใช่ดราก้อน แต่ผมก็เดาว่ามันน่าจะเกี่ยวกับ มังกร(dragon) จะได้เข้ากับเรื่องที่เป็นคู่ต่อสู้กับ เผ่ามังกรฟ้า ซะหน่อยครับ)
อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ต้องใช้ชื่อย่อ ไม่พูดถึงชื่อเต็ม ก็คือเพื่อความปลอดภัยของลูกหลาน คือ ส่วนหนึ่งก็อยากสืบทอดเจตนารมณ์ของบรรพชน แต่ก็ต้องเก็บชื่อเต็มเป็นความลับเพื่อความปลอดภัย ทำให้สืบทอดกันมาแค่ D. แบบย่อๆ แล้วก็ใช้กันมาแบบไม่รู้ว่า D. ย่อมาจากอะไร
ตัวอย่างทำนองนี้ก็มีในหนังไทย เช่น เพลงแสนคำนึง ซึ่งปรากฎในเรื่อง โหมโรง (สร้างจากเรื่องจริง) ว่ากันว่า ตอนแรกที่ ศร ศิลปบรรเลง หรือ หลวงประดิษฐ์ไพเราะ แต่งเพลงนี้ ท่านแต่งแบบมีทั้งทำนองและคำร้อง แต่ภรรยาและลูกเห็นว่า คำร้องมีเนื้อหาล่อแหลม ถ้ามีคนอื่นเห็น(เช่น ท่านผู้พันในเรื่องโหมโรง) อาจจะเกิดอันตรายต่อครอบครัวได้ ก็เลยทำลายส่วนที่เป็นเนื้อร้องทิ้งไป แล้วเหลือไว้แค่ทำนองหรือตัวโน้ต และฉากนึงในหนัง เราก็จะได้เห็นพระเอกตีระนาดเล่นเพลงแสนคำนึง แล้วท่านผู้พันที่ตอนแรกต่อต้านการเล่นดนตรีไทย ก็กลายเป็นชอบ ฟังเพลินๆ เคลิ้มๆ ยิ้มหวาน จบ อิอิ ...
สรุปว่าในวันพีซ มีความเป็นไปได้ว่าต้องใช้ชื่อกลางเป็น D. แบบย่อๆ โดยไม่พูดถึงชื่อกลางแบบเต็มๆ อาจเพื่อป้องกันอันตรายจากรัฐบาลโลกอะไรแบบนั้นครับ
ขอเน้นอีกรอบก่อนจบว่า ทั้งหมดนี้คือการคาดเดาของผมเองทั้งนั้น อาจจะไม่มีการเฉลยอะไรเลยก็ได้ในวันพีซ หรือเฉลยออกมาเป็นคนละเรื่องกับ ชื่อกลาง ที่เราใช้กันในโลกจริงก็ได้ครับ
//////////////////////////////////////////////
จบโพสต์
มีอะไร คอมเมนท์ แนะนำ ติชม ก็เขียนในช่องคอมเมนท์ได้ตามใจชอบเลยครับ ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ ถ้าอ่านแล้วชอบโปรด กดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม และช่วยโฆษณาเพจ ขอบคุณครับ #ACGM #ลูกศิษย์โรบิน
โฆษณา