และคืนหนึ่งผมก็สะดุ้งตื่นเพราะฝันเหมือนเดิม สิ่งที่ผมฝันก็เหมือนเดิม แล้วผมก็มองไปทางเดิม
ตู้เสื้อผ้า เวลาเดิมคือตีสองกว่า สิ่งที่กลัวที่สุดในตอนนั้นคือมันจะเหมือนเดิม เวลาผ่านไปสักพัก
ก็ยังไม่มีอะไรแปลก แต่ผ้าม่านที่เป็นริ้วๆ อยู่ตรงระเบียงนั้นขยับ พริ้วไปมาอย่างน่ากลัว
สิ่งที่ผมเห็นได้ชัดมากคือ มีหน้าคนหน้าหนึ่ง ซ้อนและดันผ้าม่านออกมาเป็นรูปใบหน้า
ผมอึ้งและมองตรงนั้นไปถึงเช้าโดยที่จำไม่ได้ว่าผมรู้สึกตัวได้อย่างไร ผมก็เลยนำเรื่องราวนี้
ไปเล่ากับเพื่อน เพื่อนจึงบอกว่างั้นเอาสิ่งที่นับถือไปวางไว้ที่เตียง ผมจึงนำไม้กางเขน
ไปวางไว้ที่หัวเตียง หลังจากนั้นก็ไม่พบเจออะไรอีก เหมือนจะจบ แต่ยังเหลืออีกเหตุการณ์หนึ่ง เพื่อนที่ขอไปนอนห้องผมพบเจอมา
เพื่อนชายผมชื่อ นุ นุเป็นนักดนตรีกลางคืน ละจะมาเล่นดนตรีแถวหอพักผมจึงขอมานอน
ในวันที่นุมานอน ผมและแฟนแยกย้ายกันกลับบ้าน นุจึงต้องนอนคนเดียวที่ห้อง
ในวันนั้นผมก็ไม่ได้สนใจอะไรเพื่อนมากมาย แต่เมื่อถึงเวลาตีสาม นุก็โทรมาหาผม
พร้อมกับเสียงที่สั่นฟังไม่รู้เรื่องว่าจะพูดไร มันจึงบอกว่า
“เดี๋ยวเช้ากูเล่าให้ฟัง” และแล้วมันก็โทรมา นุเล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนกูเล่นดนตรีเสร็จ
ประมาณเที่ยงคืนกว่า ก็กลับมาที่ห้อง อาบน้ำนอนปกติ สะดุ้งตื่นเพราะเสียงเคาะประตูกระจก
ตรงระเบียงห้อง พอไปดูก็ไม่เจออะไรกูคิดว่าเป็นนกมาทำรัง เลยกลับมานอนต่อ
สักพักได้ยินเสียงเดิมอีก พอลุกไปดูก็ไม่เจออะไร เป็นแบบนี้ประมาณ 5 ครั้ง
จนครั้งสุดท้ายทนไม่ไหวเลยเปิดไปดูด้านนอกให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ในขณะที่เปิดประตูกระจกนั้น
ประตูหน้าห้องก็มีเสียงคนเคาะดังมาก กูเลยรีบวิ่งไปเปิดประตู เห็นเป็น นักศึกษาหญิงใส่ชุดเต็ม
ยืนอยู่ กูก็เลยถามว่า มาให้ใครหรือเปล่าครับ ผู้หญิงคนนั้นก้มหน้าไม่พูดสักพักหันหลัง
วิ่งลงบันใดหนีไฟไป กูเลยจำที่บอกได้ว่ามึงไม่มีเพื่อนอยู่หอนี้ กูเลยหลอนกลับบ้านเลย”