11 พ.ค. 2020 เวลา 16:32 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
เครือข่ายแบบ Peer to Peer คุณทราบไหม ทำไมถึงต้องมี ?
#โพสนี้โพสแรก แอดมินจะพยายามทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ นะครับ
เครือข่าย Peer to Peer ถูกคิดค้นกันมาตั้งแต่ปี 1979 ซึ่งมีผู้คิดค้น peer to peer คือ USENET ในยุคแรกเริ่มของอินเทอร์เน็ตถือว่า P2P เป็นสิ่งที่ใหม่ และ น่าสนใจ ด้วยลักษณะที่คล้ายกับการใช้งานออนไลน์อินเทอร์เน็ตในปัจจุบันที่เราใช้กัน
ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกันได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมโดยที่ไม่ต้องง้อการทำงานเก็บข้อมูลและแชร์ทรัพยากรของแม่ข่ายหรือ Server กลาง อย่างที่เรา ๆ ใช้กันใน WWW ที่จะมี Server กลางคอยรับคำสั่งจาก User และก็ทำการตอบสนองผ่าน Web Browser ขึ้นมาเป็นหน้าเว็บไซต์ให้เราได้ใช้งาน
ทำไมเครือข่ายเพียร์ทูเพียร์จึงมีประโยชน์ ?
พวกมันสามารถปรับขนาดได้อย่างมาก การเพิ่มเพียร์ใหม่เป็นเรื่องง่ายเพราะคุณไม่จำเป็นต้องทำการกำหนดค่ากลางบนเซิร์ฟเวอร์กลาง
เครือข่ายเพียร์ทูเพียร์ที่ใหญ่ขึ้นก็จะยิ่งเร็วขึ้นเท่านั้น หากไฟล์เดียวกันถูกเก็บไว้ในเครือข่าย P2P หลายคนหมายความว่าหากมีคนต้องการดาวน์โหลดไฟล์พวกเขาจะดาวน์โหลดไฟล์จากหลาย ๆ ตำแหน่งพร้อมกัน
เครือข่ายแบบ Peer-to-peer ยากต่อการลบ แม้ว่าคุณจะปิดหนึ่งในเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ยังคงทำงานและสื่อสารซึ่งกันและกัน คุณต้องปิดเพื่อนทั้งหมดเพื่อให้เครือข่ายออกไปจากอากาศ
ข้อเสียของ P2P น่ะมันมีมั้ย?
แน่นอนว่าอะไรมันมีข้อดี มันก็ต้องมีข้อเสียเหมือนกัน ข้อเสียของ P2P คือเราไม่สามารถควบคุมความเป็นส่วนตัวของข้อมูลที่เราปล่อยลงไปได้ เพราะว่า ถึงเราลบที่เราไป คนอื่นที่เคยโหลดก็จะมีข้อมูลที่เราเคยปล่อยเก็บไว้ คนอื่นนั้นก็ยังสามารถปล่อยให้คนอื่นโหลดต่อได้อยู่ดี ต่างจาก Client/Server ที่เราลบข้อมูลใน Server เรา ก็เป็นอันจบแล้ว
เราใช้ P2P กันมากแค่ไหน?
ในปัจจุบัน P2P นั่นได้รับความนิยมกับคนเฉพาะกลุ่มจริงๆ เช่น เรา Skype ไปหาเพื่อน หรือว่าจะเป็นสิงห์นักโหลด Bittorrent ทั้งหลาย โดยอย่างที่ได้บอกได้ตอนต้นว่า จากผลการสำรวจพบว่า จำนวน Traffic ส่วนใหญ่ที่วิ่งผ่าน ISP นั้นมาจาก P2P client ทั้งนั้นเลย แต่สิ่งที่ทำให้ Traffic มันไปกองอยู่กับ P2P เยอะก็น่าจะเป็นพวก สิงห์นักบิตทั้งหลายเลยล่ะ โหลดทีนี้โคตรเยอะ
โฆษณา