ในช่วง สงครามไครเมีย (Crimean War) ประเทศตุรกี ระหว่างรัสเซียกับฝรั่งเศสและอังกฤษ หลังจากพบว่ามีทหารล้มตายและบาทเจ็บจำนวนมาก โดยไม่มีหน่วยงานเข้ามาดูแลอย่างจริงจัง เธอจึงรวมตัวกับเพื่อน 38 คนเป็นพยาบาลอาสาตั้งโรงพยาบาลชั่วคราวในสนามรบ โดยใช้มาตรฐานอย่างเข้มงวด ทั้งการรักษา สุขภาพอนามัย และอาหาร เธอดูแลคนป่วยอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยแม้ในยามมืดค่ำ เธอยังคงรักษาคนไข้ใต้แสงตะเกียง จนได้รับการยกย่องว่า “สตรีผู้ถือตะเกียง” (The Lady with the Lamp)
หลังสงครามเธอกลับอังกฤษในฐานะวีรสตรี และได้รับอิสริยาภรณ์เชิดชูคุณความดีของอังกฤษ (British Order of Merit) เป็นคนแรก อีกทั้งในช่วงสงครามเธอยังได้ทำการบันทึกสถิติทหารที่บาดเจ็บ ซึ่งกลายเป็นแบบอย่างในการบันทึกสถิติทางการแพทย์ในปัจจุบัน