12 พ.ค. 2020 เวลา 08:06 • สุขภาพ
ผลกระทบสำหรับโควิต-19 🙏🏼🇹🇭
✳️ ประเด็นที่ 1 ผมเปรียบเทียบไทยกับสิงค์โปรและจีน ประเทศเพื่อนบ้านเรามีการจัดระบบระเบียบมาตรการณ์เพื่อรองรับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตประมาณ 10 ปี
ข้างหน้า ไม่แปลกใจเลยนะครับว่าทำไมจีนถึงปรับสภาพได้เร็วที่สุดทั้งๆที่เป็นประเทศที่ติดเชื้อก่อนประเทศอื่นๆด้วยซ้ำ ผมคิดว่าการจัดระเบียบมาตรการของไทยยังไม่เป็นเหมือนแบบจีนก็จะส่งผลให้หลังโควิตการฟื้นตัวทุกๆชนิดเกิดการล่าช้า แต่ถ้ารัฐบาลชุดนี้จัดการปัญหาหนี้สินครัวเรือนเหมือนในตอนปี 2559 ก็คือการลงทุนครับโดยถ้าเทียบกับค่า GDP การลงทุนภาครัฐมีส่วนแค่ 5 % แต่ถ้าภาครัฐไปเชิญชวนให้ภาคเอกชนมาลงทุนไปด้วยกันก็มีส่วน 15 % ถือได้ว่ามีความสำคัญถึง 3 เท่าของภาครัฐเลยนะครับ ปัญหาหนี้สินครัวเรือนก็จะไม่เกิดและรัฐบาลก็ไม่ต้องไปกู้อีกด้วยครับ แต่หลังโควิตจบไปเมื่อไรถ้ารัฐบาลจะต้องมีเหตุผลกู้เพื่อที่จะมาพัฒนาประเทศอย่างแท้จริงผมถือว่าคุ้มที่ได้พัฒนาประเทศ แต่ถ้าทีมเศรษฐกิจนำมาลงทุนจริงไม่มีใต้โต๊ะผมคิดว่าประเทศไทยก็ไม่น้อยหน้าและด้อยกว่าใครแน่นอนครับ
✳️ประเด็นที่ 2 การเพิ่มจำนวนสินค้าส่งออก
และก็อีกเรื่องที่มีความคิดเห็นจากการติดตามการส่งสินค้าออกนวัตกรรม ทำให้บริษัทหลายๆที่ปิดกิจการลง เพราะได้รับผลกระทบจากโรคไวรัส โควิต-19 อย่างมากนี้มันไม่ใช่ปัญหาประเทศแต่มันเป็นปัญหาระดับโลกแล้วนะครับ ผมจึงมีความคิดเห็นว่าและเห็นด้วยกับภาครัฐที่จะมีการเพิ่มสินค้าส่งออกให้เยอะที่สุด ส่วนกรณีสถานการณ์การบริโภคยังซบเซา เช่นในจีนเนื่องจากประชาชนเลือกที่จะซื้อสินค้าจำเป็นมากกว่าผลไม้ไทยซึ่งถือเป็นของฟุ่มเฟือยนั้น ประเทศไทยจึงต้องมีการจัดส่งสินค้าไปตามที่หวังไว้และจะมีการจัดส่งในช่วงเดือน เม.ย.-ส.ค. เพราะที่ประเทศจีนได้มีตลาดหลักไว้กระจายสินค้าได้ตามที่ต้องการ และส่งผลกระทบต่อจีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ฮ่องกงและเวียดนาม การแก้ไขปัญหาเบื้องต้น กระทรวงเกษตรฯ ได้มีมติการเร่งกระจายผลผลิตในประเทศให้สูงขึ้น ด้วยการ ประชาสัมพันธ์คุณค่าทางอาหารและอีกหนึ่งทางก็คือการใช้ช่องทางการค้าออนไลน์ การขนส่งในประเทศเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคให้มากขึ้น ตั้งแต่ต้นฤดูกาล เปิดตลาดใหม่ที่มีศักยภาพและกำลังซื้อสูง และขอให้ชะลอการเก็บเกี่ยวผลไม้บางชนิด ให้ช้าลงกว่าเดิม 7-15 วัน เช่น ลำไย ทุเรียน เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของผลผลิต
✳️ ประเด็นที่ 3 ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่คำว่า Newnormal เข้าใจตามภาษาพูดกันง่ายๆก็คือเปลี่ยนจากระบบออฟไลน์ มาสู่ระบบออนไลน์ไม่ว่าจะเป็น การค้า การศึกษา อาชีพนักกีฬา เป็นต้น วิธีแบบนี้จะเริ่มทำหลังได้และเห็นผลได้มากสำหรับการพัฒนาโดยใช้เทคโนโลยีมาเป็นตัวช่วย ผมจะยกตัวอย่างให้เพื่อนๆทุกคนได้ฟังแล้วเห็นภาพ อาสาสมัครแต่ละหมู่บ้านมีไปทุกที่ทุกจังหวัดทั้งประเทศ แล้วทำไมคำว่า“อาสาดิจิตอล”ถึงจะตั้งไม่ได้ ปัญหาก็คือต้องเอาคนในพื้นที่คุ้นเคยกับประชาชนและเป็นกันเอง เพราะจะทำให้ประชาชนได้เข้าถึงคำว่า“โลกโซเชียล”ที่แท้จริงครับและได้ประโยชน์จริงในอนาคต สุดท้ายแล้วถ้าเกิดวิธีนี้ได้ผลจะทำให้ประเทศไทยไร้ผู้คนที่ไม่รู้จักคำว่าอินเตอร์เน็ตก็เป็นไปได้ครับและก็จะส่งผลต่อการพัฒนาระบบดิจิตอลไม่แพ้ใครในโลกแน่นอนครับ
#ขอทิ้งท้ายด้วยคำพูดของนักวิชาการท่านหนึ่ง
ผู้รู้จักการปรับตัวเท่านั้นถึงจะอยู่รอด ภาษานักลงทุนจะบอกว่า บางสิ่งจะถูก Disruption คือ ปฏิรูป หรือเปลี่ยนแปลง และจะเกิดโมเดลของชีวิตมนุษย์ในรูปแบบใหม่ สิ่งเหล่านี้ที่ทางการ (รัฐบาล) เรียกกันว่าเข้าสู่ชีวิตวิถีใหม่หรือ New normal
#ขอบคุณครับ 🙏🏼🎓
โฆษณา