13 พ.ค. 2020 เวลา 06:50 • ธุรกิจ
"STARK" โผล่มาด้วยมูลค่า 5 หมื่นลบ.!!
[เทรดมั่วทัวร์ดอย]
[เทรดมั่วทัวร์ดอย]
หลังจากได้อ่านบทความของลงทุนแมนที่เล่าถึง STARK หุ้นที่ได้มีการ backdoor listing เข้าตลาดหุ้นผ่าน SMM ในช่วงปีก่อน
ล่าสุดทาง STARK ก็ได้มีการรายงานงบ 1Q63 ออกมาด้วยตัวเลขที่น่าสนใจ หากพิจารณาเฉพาะ Core Business พบว่า
1Q2562
รายได้ 2,802 ล้านบาท
กำไร 162 ล้านบาท
1Q2563
รายได้ 3,024 ล้านบาท
กำไร 263 ล้านบาท
ถือเป็นการเติบโตทั้งรายได้และกำไร ซึ่งหลังจากการประกาศงบ ทาง STARK ก็ได้มีการจัด OPPDAY ขึ้นมา
ทางผมเลยอยากจะพาทุกๆคนมาทำความรู้จักกับหุ้นตัวนี้ให้มากขึ้นกันครับ
Cr.Oppday - STARK CORPORATION PCL
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนกรกฏาคม 2562 "SMM" หรือบริษัทสยามอินเตอร์มัลติมีเดีย อนุมัติออกหุ้นเพิ่มทุนจดทะเบียนกว่า 22,166 ล้านหุ้น ที่ราคา 0.60 บาทต่อหุ้น มูลค่ารวมกว่า 1.35 หมื่นล้านบาท ให้กับบริษัท TAH2 ภายใต้ผู้ถือหุ้นใหญ่ของคุณวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ เพื่อแลกมากับการเอาธุรกิจผลิตสายไฟฟ้าอย่าง "Phelps dodge" มาอยู่ภายใต้ SMM หรือเรียกว่าเป็นการเอาบริษัทเข้าตลาดหุ้นแบบ backdoor listing
หลังจากนั้น SMM ก็ได้มีการขายธุรกิจเดิมทั้งหมดออกไป และทำการเปลี่ยนชื่อมาเป็น "STARK" ถือเป็นจุดกำเนิดของหุ้น market.cap ที่ 5 หมื่นล้านบาทเพิ่มเข้ามาในตลาดหุ้น
หากเรียง timeline หลังจากการ backdoor listing พบว่า STARK มีการซื้อหุ้นเพื่อนำบริษัทเป้าหมายมาอยู่ภายใต้ holding company ตามนี้ คือ
Cr.Oppday - STARK CORPORATION PCL
• กรกฎาคม 2562 เพิ่มทุนซื้อ "Phelps dodge" สัดส่วน 99% เป็นธุรกิจหลัก
2
• ธันวาคม 2562 ซื้อหุ้น "อดิสรสงขลา" สัดส่วน 99.9%
• มีนาคม 2563 ซื้อหุ้น "ThiPha Cables & Dovina" 100%
• เมษายน 2563 ให้ "Phelps dodge" เข้าลงทุนใน "ไทย เคเบิ้ล"
ธุรกิจหลักของ STARK
ธุรกิจหลักของ STARK คือการถือหุ้นใน Phelps dodge 99% ซึ่งเป็นผู้ผลิตสายไฟและสายเคเบิล สินค้ามีตั้งแต่สายไฟเส้นเล็ก สายไฟใต้ดิน ใต้น้ำ ยันสายไฟในสถานีรถไฟฟ้า เป็นต้น หากแบ่งรายได้ตามการจำหน่ายในประเทศและต่างประเทศในคิดเป็นสัดส่วน 88% และ 12% ตามลำดับ และแยกตามกลุ่มลูกค้าในประเทศจากทั้งหมด 88% นั้น พบว่าเป็นลูกค้ากลุ่มหน่วยงานรัฐ 21.5% และกลุ่มเอกชน 66.4%
2
Cr.Oppday - STARK CORPORATION PCL
หากวัดจากส่วนแบ่งตลาด STARK มีอันดับ...
• อันดับ 1 ในไทย
• อันดับ 1 ในอาเซียน
• อันดับ 7 ในเอเชีย และ
• อันดับ 9 ของโลก!!
ข้อมูลด้านผลประกอบการของ Phelps dodge พบว่า
ปี 2558
รายได้ 6,024 ล้านบาท
ขาดทุน -88 ล้านบาท
ปี 2559
รายได้ 6,722 ล้านบาท
กำไร 327 ล้านบาท
ปี 2560
รายได้ 7,793 ล้านบาท
กำไร 369 ล้านบาท
ปี 2561
รายได้ 10,675 ล้านบาท
กำไร 463 ล้านบาท
ปี 2562
รายได้ 10,379 ล้านบาท
กำไร 654 ล้านบาท
กลุ่มธุรกิจ "อดิสรสงขลา"
Cr.facebook/adisornsongkhla
หลังจากนั้น ในช่วงปลายปี 2562 STARK ได้มีการโอน"อดิสรสงขลา" ซึ่งเป็นบริษัทภายใต้ TAH2 เช่นเดียวกันกับ Phelps dodge ด้วยมูลค่า 1,550 ล้านบาท เข้ามาอยู่ภายใต้ STARK
อดิสรสงขลานั้น ทำธุรกิจให้บริการด้านทรัพยากรบุคคล ซึ่งเป็นบุคคลเฉพาะทางในสายงานอุตสาหกรรม oil&gas ที่ต้องทำงานบนแท่นผลิตปิโตรเลียม
ทั้งนี้วันที่ 14 เมษายน 2563 ทาง STARK ได้แจ้งต่อตลาด ถึงบริษัทอดิสรสงขลาได้งานของ Chevron และ PTTEP มูลค่า 4,330 ล้านบาท ที่พร้อมรับรู้รายได้ใน 2Q63
ผลประกอบการของอดิสรสงขลา
ปี 2558
รายได้ 993 ล้านบาท
ขาดทุน 69 ล้านบาท
ปี 2559
รายได้ 1,039 ล้านบาท
กำไร 105 ล้านบาท
ปี 2560
รายได้ 942 ล้านบาท
กำไร 89 ล้านบาท
1
ปี 2561
รายได้ 1,081 ล้านบาท
กำไร 104 ล้านบาท
ปี 2562
รายได้ 1,490 ล้านบาท
กำไร 129 ล้านบาท
สร้าง synergy ด้วยการเทคเบอร์ 1 ของเวียดนาม
Cr.thiphacable
ก่อนปิดผลกระกอบการงวด 1Q63 ทาง STARK ได้มีการแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ถึงการได้มาของหุ้นสัดส่วน 100% ของ "ThiPha Cables" & "Dovina" ผู้ผลิตสายไฟอันดับ1 ในเวียดนาม ด้วยมูลค่ากว่า 7,228 ล้านบาท
"ThiPha Cables" นั้นเป็นผู้ที่ทำธุรกิจคล้ายกับ Phelps dodge แต่อยู่ในประเทศเวียดนาม ทำให้ถือเป็นโอการขยายตลาดเข้าไปในประเทศที่มีการเติบโตสูง ขยายฐานการผลิตและจะช่วยส่งเสริมกัน
อีกทั้ง "Dovina" นั้น ทำธุรกิจด้านนำเข้าและแปรรูปทองแดงและอลูมิเนียม เพื่อเป็นวัตถุดิบให้กับ "ThiPha Cables" ซึ่งตรงนี้คาดว่าจะช่วยสร้าง synergy ให้กับ "Phelps dodge" ด้วยเช่นกัน เนื่องมาจากปกตินั้น Phelps dodge ได้มีการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ 80% อยู่แล้ว อาจจะนำมาซึ่งการประหยัดต่อขนาดตามมาได้ด้วย
มาส่องงบ ThiPha Cables" & "Dovina กันหน่อย
1
ปี 2560
รายได้ 12,064 ล้านบาท
กำไร 447 ล้านบาท
1
ปี 2561
รายได้ 11,986 ล้านบาท
กำไร 289 ล้านบาท
9 เดือน ปี 2562
รายได้ 9,314 ล้านบาท
กำไร 452 ล้านบาท
ทางผู้บริหารแจ้งว่างวด 2Q63 พร้อมรับรู้รายได้และกำไรของ ThiPha Cables" & "Dovina รวมเข้ามาในงบของ STARK
สุดท้าย คือ ดีลล่าสุดอย่างการซื้อ "ไทย เคเบิ้ล อินเตอร์เนชั่นแนล" เป็นการใช้ Phelps dodge ซื้อกิจการเพื่อขยายธุรกิจสายไฟขนาดเล็กในประเทศไทย ผ่านการซื้อหุ้น ไทย เคเบิ้ล สัดส่วน 98% มูลค่า 541 ล้านบาท ด้านข้อมูลไม่ได้มีการเปิดเผยมากนัก
แผนการเติบโตในอนาคต
แบ่งการเติบโตผ่าน 2 กลุ่มธุรกิจ โดยเน้นการ M&A
Cr.Oppday - STARK CORPORATION PCL
Cr.Oppday - STARK CORPORATION PCL
ทำไมแท่งรายได้มันถึงโตขนาดนั้นหล่ะลูก ปี63ว่าพีคแล้ว..5ปีข้างหน้าพีคกว่า Cr.Oppday - STARK CORPORATION PCL
อีกประเด็นที่น่าสนใจของ STARK นั้น คือแผนการเพิ่ม freefloat ด้วยการทำ public offering หรือ PO ออกหุ้นเพิ่มทุน 480 ล้านหุ้น บวกด้วยหุ้นจากคุณวนรัชต์ 1,320 ล้านหุ้น รวมเป็น 1,800 ล้านหุ้น หรือ 9.7% ของหุ้นทั้งหมด เพื่อจำหน่ายกระจายผู้ถือหุ้นรายย่อยให้เข้าเกณฑ์ตลาด
หุ้นใหม่คิดเป็นผล Eps diluted เพียงแค่ 2% เท่านั้น ทั้งนี้การเสนอขาย PO ดังกล่าวนั้น จะเน้นไปที่นักลงทุนสถาบันเป็นหลักอีกด้วย
เรื่องราวทั้งหมดนี้ จึงเป็นที่มาของหุ้น STARK โผล่มาด้วยมูลค่า 5 หมื่นลบ.!!
ก่อนจะจากกัน ขอมโนต่อกันซะหน่อย (มุมมองของผู้เขียน)
หากลองจินตนาการถึงการเติบโตของรายได้และกำไรจากธุรกิจต่างๆที่เข้ามา และด้วยมูลค่าตลาดสูงถึง 5 หมื่นล้านบาท หุ้นตัวนี้จะติด SET100 ได้ไม่ยาก เหลือแค่ผ่านเกณฑ์ freefloat และมูลค่าซื้อ-ขายเฉลี่ยเกินที่กำหนด
อีกทั้งการเติบโตแบบก้าวกระโดดตามกลยุทธ์ M&A นั้น ถ้าหุ้นตัวนี้มีการเทรดด้วย PE ที่สะท้อนอนาคต โอกาสเข้าไปใน SET50 ก็เป็นไปได้เช่นเดียวกัน แต่ทางผมคิดว่าคงไม่ใช่ในปีนี้แน่นอน
ด้านตัวเลข PE ที่เห็นโหดๆนั้น อาจจะมาจากการที่เพิ่มทุนเข้ามาเยอะจัด แต่รายได้และกำไรยังไม่เข้า หากพิจารณาจากฐานกำไร 1Q63 ที่ 260 ล้านบาท กำไรต่อหุ้นที่ 0.011 บาท/หุ้น
และหากคิดกำไรเฉลี่ยต่อไตรมาสของธุรกิจในเวียดนามที่จะรับรู้รายได้ในไตรมาส 2 เป็นต้นไปที่ประมาณ 150 ล้านบาท/ไตรมาส ก็ทำให้ ช่วง 3Q ที่เหลือ STARK คงมีกำไรประมาณ 400 ล้านบาท/ไตรมาส หรือ 1,200 ล้านบาท (ยังไม่รวมงานของ chevron และ ไทย เคเบิ้ล) คิดเป็นกำไรต่อหุ้นที่ 0.05 บาท/หุ้น รวม1Qเข้าไป จะได้ EPS ทั้งปีที่ประมาณ 0.061 พอย้อนคิด PE เทียบราคา 2.30 บาท จะได้ PE ที่ 37.7 เท่า!!
1
ไม่รู้ว่าพอจะมองว่าถูกได้ไหม ฮ่าๆๆ แต่เกมค่อนข้างยาว จึงนับว่าเป็นหุ้นอีกตัวหนึ่งที่น่าสนใจ และต้องติดตามกันต่อไปครับ
1
สุดท้ายนี้
บทความนี้ไม่ได้ชี้นำแต่อย่างใด อีกทั้งการลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุนครับ
ที่มา :
#เทรดมั่วทัวร์ดอย

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา